แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn โขนตอนนางลอย สำเร็จได้ด้วยความทุ่มเทแรงกายใจของครู และเจ้าหน้าที่จากวิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สำนัก
การสังคีต กรมศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง ครูโขน ผู้มีความชำนาญสูง นักแสดงรุ่นใหญ่ รุ่นเยาว์ ที่ฝึกหัดขึ้นมาใหม่ อย่างเข้มข้น
วงดนตรีปี่พาทย์ ผู้ขับร้อง และผู้พากย์บท การแสดงโขนที่ผู้ชม ชมด้วยความสนุกสนาน และจบไปในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เบื้องหลังการแสดง ต้องเตรียมงานกันเป็นปีๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ต้องปักทั้งนั้น แล้วหัวโขนต้องตกแต่งมาล่วงหน้า 3 ถึง 4 ปี รวมทั้งฉากแต่ละฉาก ต้องใช้เวลาในการจัดสร้าง นักแสดง ก็ฝึกเยาวชนรุ่นใหม่ขึ้นมาเตรียมไว้สำหรับเป็นศิลปินเอกรุ่นต่อไป มีการคัดเลือกนักแสดง จากวิทยาลัยนาฏศิลปทั่วประเทศ โดยครูโขน เรียงหน้าเป็นกรรมการ เด็กๆ จะไม่ทราบล่วงหน้าเลย ว่าครูจะทดสอบอะไร พอออกไปยืนแล้ว ปี่พาทย์ขึ้นเพลงอะไร ต้องรำได้ทันที ดังนั้น ทุกคนต้องมีไหวพริบ และสามารถพร้อมอยู่ในตัวเสมอ... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต 11 สิงหาคม 2553)

...nn กัมพูชาจงใจโจมตีไทยก่อน และทำเช่นนี้มาโดยตลอด แต่น่าประหลาดใจที่ สส.ไทยเกือบทุกคน จากเกือบทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย กลับไม่เคยออกมาบอกกล่าวเรื่องนี้ให้ชัดเจน แต่กลับปล่อยให้สื่อมวลชนต่างชาตินำเสนอข่าวทำนองว่าไทยโจมตีกัมพูชาก่อน ไทยปล่อยขีปนาวุธทางอากาศโจมตีกัมพูชา ต้องบอกว่าการออกข่าวที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงแบบนี้นับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของสื่อฯ จำพวกรับจ้างเขียนข่าวเพื่อแลกกับเงินค่าจ้าง หรือหากไม่มีใครจ้าง ก็เป็นการเขียนข่าวด้วยอคติ ผสมกับความโง่เขลาเบาปัญญา ไร้จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน

...nn ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า CNN แห่งอเมริกาเขียนข่าวได้เข้าขั้นเลวทราม เพราะจงใจบิดเบือนข้อมูล โดยเฉพาะการพาดหัวข่าวว่า Thailand luanches airstrikes on Cambodia as Trump’s peace agreenment hangs in balance แปลได้ว่า ประเทศไทยเปิดการโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชา ทำให้ข้อตกลงสันติภาพของทรัมป์ถูกแขวนไว้

...nn ต้องย้ำว่าการพาดหัวข่าวเช่นนี้เต็มไปด้วยความอคติอย่างเห็นได้ชัด เพราะจงใจใช้ประโยคที่ทำให้คนอ่านเข้าใจผิด แล้วหลงคิดว่าไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อน ทั้งๆ ความเป็นจริงกัมพูชาโจมตีไทยก่อน และโจมตีไทยก่อนมาโดยตลอดจนนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งนี้ต้องประณาม CNN ที่จงใจเลือกใช้คำพาดหัวข่าวที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเทศไทยผิด

...nn ล่าสุด สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ต่างประเทศจำนวนมาก เพื่อยืนยันให้สื่อฯ รายงานข่าวให้โลกรับรู้ว่าความจริงคืออะไร และเพื่อให้นานาชาติเข้าใจไทยให้ถูกต้อง จะได้ไม่มองไทยด้วยความเข้าใจผิด เพราะเสพสื่อฯ ที่ไร้จรรยาบรรณวิชาชีพ

...nn อันที่จริง หาก CNN จะนำเสนอข่าวว่าไทยตอบโต้กัมพูชาด้วยการเปิดฉากโจมตีทางอากาศ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจะเข้าใจได้ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนอ่านข่าวเห็นว่าไทยตอบโต้กัมพูชา ไม่ใช่ไทยเปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อน ดังนั้น เมื่อสื่อฯ ระดับโลกนำเสนอข่าวแบบนี้ ก็จึงทำให้คนที่เข้าใจสันดานที่ไม่ดีของสื่อฯ เข้าใจตรงกันโดยทันทีว่า สื่อฯ แบบนี้ คือสื่อฯ ที่ทำให้โลกสับสน และเป็นการจุดชนวนให้คนเกลียดกัน

...nn กัมพูชายังคงเล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศเพื่อให้ตนเองได้เปรียบไทยในทุกประตู ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด หากการเล่นเกมระหว่างประเทศเป็นไปตามกฎกติกาสากล แต่ที่รับไม่ได้คือการจงใจโกหกพกลม กล่าวเท็จปั้นน้ำเป็นตัวสารพัดสารพันตลอดเวลา ล่าสุดมีข่าวว่า กัมพูชาจ้างนักเจรจาต่อรอง (lobbyist) เพื่อให้ข้อมูลกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าไทยเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ทรัมป์เป็นประธานการลงนามเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2568 เรื่องนี้มาจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ไทย โดยกฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการชาวไทย ที่อาศัยอยู่ในเมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ และกฤษฎายังระบุด้วยว่า lobbyist ยังพยายามทำทุกทางเพื่อให้ทรัมป์สั่งให้หยุดยิงโดยเร็ว เพราะขณะนี้ฮุนเซน แห่งกัมพูชากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างวิกฤต เพราะเสียเปรียบการสู้รบกับไทย หากปล่อยสถานการณ์ให้เลวร้ายต่อไป จะส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อเสถียรภาพของฮุนเซน ในขณะที่กัมพูชาพยายาม lobby ให้สหรัฐฯ เข้าข้างตัวเอง แต่เมื่อมองดูฝ่ายไทยกลับพบว่าไม่มีการจ้าง lobbyist เพื่อให้ไปเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อไทยแม้แต่น้อย และยังกล่าวด้วยว่า อนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ควรต้องโทรศัพท์ไปเจรจากับทรัมป์ เพื่อย้ำว่าไทยไม่ได้ละเมิดข้อตกลงสันติภาพที่ทรัมป์เข้ามาเกี่ยวข้อง และต้องย้ำว่าไทยเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามแก๊ง scammers ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าไทยร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อปราบปรามแก๊ง scammers อย่างแข็งขัน ซึ่งหากทำได้เช่นนี้ จะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากสหรัฐฯ ในเรื่องภาษีศุลกากร แต่หากอนุทินทำให้ทรัมป์รู้สึกเสียหน้ากับเรื่องนี้ ก็อาจจะถูกสหรัฐฯ ลงโทษทั้งด้านภาษีศุลกากร และประเด็นความช่วยเหลือทางการทหารจากสหรัฐฯ

...nn ต้องย้ำและย้ำหนักๆ ว่ากัมพูชานั้น นอกจากจงใจโจมตีไทยตลอดเวลาแล้ว ยังจงใจยิงจรวด และปืนใหญ่เข้าทำลายโรงพยาบาลของไทยด้วย แล้วยังใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้งของหน่วยทหาร โดยใช้โบราณสถานเป็นที่กำบังตนในขณะโจมตีไทย และยังมีข่าวอีกว่ากัมพูชาใช้เขตบ้านเรือนของประชาชนกัมพูชาเป็นฐานที่ตั้งทางทหารเพื่อโจมตีไทย การกระทำที่น่ารังเกียจนั้นนับได้ว่าจงใจใช้มนุษย์เป็นโล่ แล้วยังใช้โบราณสถานเป็นเกราะกำบังตนอีกด้วย เมื่อกัมพูชาใช้ปราสาทหิน โดยเฉพาะปราสาทตาควาย ปราสาทพระวิหารเป็นที่กำบังแล้วโจมตีไทยจากโบราณสถาน ก็ทำให้ไทยลังเลที่จะใช้อาวุธสงครามเข้ากวาดล้างกัมพูชา แต่ในเมื่อกัมพูชาเล่นไม่ซื่อเช่นนี้ ก็ทำให้ไทยจำเป็นต้องกวาดล้างกัมพูชาให้สิ้นซาก แม้อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานบ้าง ก็ต้องทำ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น

...nn การที่กัมพูชาอ้างว่าไทยโจมตีโบราณสถาน จึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่าทหารกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการโจมตีไทย ดังนั้น เมื่ออ้างตามอนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 ที่ระบุว่าต้องให้การคุ้มครองดูแลโบราณสถาน โดยต้องไม่โจมตีทำความเสียหายต่อโบราณสถานในยามเกิดศึกสงคราม แต่ก็มีข้อยกเว้นชัดเจนว่า หากฝ่ายใดจงใจใช้โบราณสถานเป็นฐานที่มั่นในการทำศึกสงคราม ใช้เป็นที่ตั้งขีปนาวุธ คลังเก็บอาวุธและกระสุน รวมถึงวัตถุระเบิด และทุ่นระเบิด เพื่อใช้อาวุธนั้นทำร้ายโจมตีฝ่ายตรงข้าม ก็ถือว่าฝ่ายกัมพูชาทำผิดกฎกติกาสากลเสียเอง และยังทำให้เห็นชัดว่ากัมพูชาไม่ให้ความสำคัญในการดูแลคุ้มครองโบราณสถาน เพราะฉะนั้น ไทยจึงมีสิทธิโดยชอบเพื่อป้องกันภัยคุกคามใดๆ อันเกิดจากการกระทำของกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับให้ไทยต้องกระทำ

...nn ธรรมกร ขอย้ำว่าการที่กัมพูชาจงใจใช้โบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร คือการจงใจละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล และจงใจทำลายคุณค่าของโบราณสถานอย่างร้ายแรง และขอย้ำว่าโบราณสถานไม่ใช่สนามรบ ดังนั้น ปฏิบัติการทางทหาร การติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ในเขตโบราณสถาน คือการจงใจละเมิดกฎกติกาสากลของนานาชาติ

...nn มีผู้ตั้งคำถามว่าเมื่อ มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา จงใจพูดปด เขารู้สึกบ้างไหมว่าเขากำลังโกหกคนทั้งโลก โกหกคนกัมพูชา และโกหกตัวเอง แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นความจำเป็นที่ มาลี ต้องทำเช่นนั้น เพราะหากไม่โกหกตัวเอง ไม่โกหกโลก โลกก็จะรุมประณามกัมพูชา ส่วนคนกัมพูชานั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อคำพูดของมาลี และของฮุนเซน แต่คนกัมพูชาต้องนิ่งเงียบกับคำโกหกจากฮุนเซน ก็เพราะว่าหากออกไปเคลื่อนไหวต่อต้านฮุนเซน ก็หมายถึงชะตาขาดโดยพลัน แต่หากจะถามว่าแล้วยังมีประเทศใดๆ บนโลกนี้เชื่อคำโกหกของกัมพูชาหรือไม่ ตอบว่ายังคงมี แต่ก็ขึ้นกับระดับสติปัญญาของประเทศนั้นๆ แต่ก็ยังมีอีกกรณีคือแม้อาจจะไม่เชื่อกัมพูชา แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำเป็นเชื่อ เพราะหวังจะเข้าไปกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ยังหลงเหลืออยู่ในกัมพูชา หรือไม่ก็เป็นเพราะอยู่ร่วมในแก๊ง scammers กับกัมพูชา

...nn อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี บอกว่ายังไม่ได้รับโทรศัพท์จากประธานาธิบดีทรัมป์ จึงยังไม่ได้คุยเรื่องเกี่ยวกับการสู้รบกับกัมพูชา แต่ก็บอกประมาณว่าพร้อมยุบสภาผู้แทนราษฎรได้ทุกเมื่อ โดยบอกว่าเตรียมร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ไว้แล้ว รอจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น ก็ประกาศใช้ได้ทันที

...nn ขอพูดถึงเรื่องจริงที่แสนจะจริงแต่เป็นความจริงเชิงสังเวช เพราะถึงบัดนี้ยังไม่มีนักการเมืองหน้าไหนสักรายลงไปในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีใครไปดูสภาพแท้จริงของบ้านเรือนประชาชนที่กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว แต่ก็น่าประหลาดใจมิใช่น้อยที่ยังคงมีนักการเมืองไทยบางรายยังคงตั้งคำถามว่าทำไมไทยจึงรบกับกัมพูชา อันที่จริงก่อนจะถามเรื่องเชยๆ และพิสดารเช่นนั้น สส. ต้องลงไปอยู่ในพื้นที่จริง ไปสัมผัสความจริง แล้วจะได้เกิดสติปัญญามากขึ้น แล้วที่ต้องขอกันตรงๆ เลยก็คือ เลิกพล่ามด้วยคำถามเรื่องไทยรบกับกัมพูชาทำไม ทำไมไม่เจรจากันเพื่อยุติการสู้รบ ก็ต้องบอกว่ากำลังรอให้ สส. จอมพล่ามเข้าไปเจรจากับฮุนเซนให้เลิกโจมตี เลิกรุกรานประเทศไทย ถามทิ้งท้ายว่าจะมี สส.หน้าไหนอาสาเข้าไปคุยกับฮุนเซนไหม หรือว่าดีแต่พล่ามกลางรายการจำพวกเพ้อเจ้อ พล่ามๆๆๆ

...nn ปิดท้ายจริงๆ ด้วยข่าวกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีการโต้กลางที่ประชุมกรรมาธิการฯ ถึงเรื่องเพิ่มเบี้ยประชุมหัวละ 1 หมื่นบาท โดยในการประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... โดยมีประเด็นร้อนแรงอยู่ที่การกำหนดเบี้ยประชุมและผลตอบแทนอื่นๆ ให้ผู้มีตำแหน่งในกรรมาธิการฯ ร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการฯ รับฟังความเห็น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญ และอนุกรรมาธิการ โดยเรื่องร้อนแบบฉาวๆ เกิดหลังจาก รัชนีกร ทองทิพย์ สว. บอกว่ามีการพูดถึงการจะให้เบี้ยประชุมเพิ่มเป็น 1 หมื่นบาท ส่วน ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ อ้างว่าไม่มีข้อสรุปดังกล่าว แต่ รัชนีกร โต้กลับว่ามีผู้พูดในที่ประชุมว่าคราวที่แล้วได้เบี้ยประชุม 6 พันบาท คราวนี้ควรเพิ่มให้เป็นหนึ่งหมื่นบาทน่าค้นหาให้ชัดนะว่าใครเสนอให้เพิ่มเบี้ยประชุมเป็นหนึ่งหมื่นบาทแล้วก็ต้องถามว่าทำงานหนักหนาถึงกับต้องได้เบี้ยประชุมครั้งละ1 หมื่นบาทเลยเชียวหรือ...nn

ธรรมกร