วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ  V-SERV และ   ARIT (เออาร์ไอที) หนึ่งใน “ผู้นำครบวงจร” ด้านโลจิสติกส์ และ หนึ่งผู้ให้บริการด้านไอทีชั้นนำ ในการส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรทางการศึกษาร่วมกัน เพื่อบูรณาการความรู้ภาคทฤษฎีและปฏิบัติเข้าด้วยกันเพิ่มศักยภาพนักศึกษา ให้มีทักษะที่จำเป็นทางด้านโลจิสติกส์ นวัตกรรมธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ และสามารถนำเอาเทคโนโลยีใหม่ด้านดิจิทัลระดับสากลเข้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของงานสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต  โดย ดร.คุณากร วิวัฒนากรวงศ์ รองคณบดี วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวะนันท์ ศิวพิทักษ์ หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ, ผศ.ชุติธารรัฐ อุตมะสิริเสนี อาจารย์ประจำสาขาการจัดการ, ดร.จิราพร ชมสวน หัวหน้าหลักสูตรการตลาดยุคดิจิทัล, อาจารย์สิรภพ รุจรัตน อาจารย์ประจำหลักสูตรการตลาดยุคดิจิทัล  เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

สำหรับบันทึกข้อตกลงมีวัตถุประสงค์หลักประกอบด้วยกัน 3 ส่วน ได้แก่  “การบูรณาการความรู้ภาคทฤษฎีและปฏิบัติ” เพื่อพัฒนาหลักสูตรโลจิสติกส์ และเน้นทักษะที่จำเป็นทางด้านโลจิสติกส์ นวัตกรรมธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลระดับสากล “การพัฒนานักศึกษา” ให้มีทักษะโลจิสติกส์ นวัตกรรมธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ และดิจิทัล ยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย และเตรียมนักศึกษาให้พร้อมสำหรับตลาดแรงงาน ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร เพิ่มโอกาสในการจ้างงานของนักศึกษา ผ่านโครงการสหกิจศึกษา การจัดฝึกอบรม และ “การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ” ภาคการศึกษาและภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมที่จะสร้างการขับเคลื่อนและรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย

สำหรับการสร้างบัณฑิตทักษะพร้อมรอบด้านในการทำงาน “ดร.คุณากร วิวัฒนากรวงศ์” รองคณบดี วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) กล่าวว่า ทางวิทยาลัยมีรายวิชาที่หลากหลายดังนั้นความร่วมของทั้ง 2 หน่วยงานที่เป็นมืออาชีพทั้งวงการโลจิสติกส์และวงการไอที ดิจิทัลระดับสากล นักศึกษาจะได้รับการฝึกฝนทักษะที่จำเป็นและตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร โดยที่สำคัญความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การลงนามกัน แต่เป็นการร่วมมือกันอย่างแท้จริงในการพัฒนานักศึกษาและบุคลากรให้พร้อมสำหรับโลกของการทำงาน

“ในอีกฐานะที่ผมเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรโลจิสติกส์ เห็น V-SERV อยู่ในแวดวงนี้เสมอ และนอกจากนี้ยังมีสถาบันวิชาการของตัวเอง จึงมั่นใจว่าการมีพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย ขับเคลื่อนให้ CIBA และ V-SERV สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันในการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ได้ครบวงจร ขณะที่ทางด้าน ARIT (เออาร์ไอที) ช่วยพัฒนาทักษะไอที ดิจิทัลให้นักศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน และการที่บริษัทมุ่งเน้นการสอนโปรแกรมสำเร็จรูปและภาษาอังกฤษ จะยิ่งช่วยให้นักศึกษาสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วและครอบคลุม ให้กับความหลากหลายของนักศึกษาในรายวิชาต่างๆ ของทางวิทยาลัย”

เสริมแกร่งทักษะโลจิสติกส์และเพิ่มแต้มต่อนักศึกษาได้งาน “ว่าที่ร้อยตรีธเนศร์ โสรัตน์” กรรมการผู้จัดการ V-SERVE GROUP ระบุว่า บริษัทมีความพร้อมในการสนับสนุนนักศึกษา พร้อมกับพัฒนาหลักสูตรโลจิสติกส์ เน้นการฝึกปฏิบัติจริง ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจการทำงานจริง โดยบริษัทมีพนักงาน 600 และมีเครือข่ายสาขาทั้งในและต่างประเทศกว่า 25 สาขา ซึ่งผลของความร่วมมือทางวิชาการและสหกิจศึกษา รวมถึงการวิจัยที่ช่วยพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เข้มแข็ง

“เรามีคลังสินค้าทั้งหมด 4 ที่ สามารถที่จะให้นักศึกษาเข้ามาศึกษาดูงาน มีสถาบันของเราเองในการอบรมในหลักสูตรซึ่งมหาวิทยาลัยอาจจะไม่มี เช่น ในเรื่องของการคีย์ข้อมูล เวลาจะทำงานกับศุลกากร ต้องมีการส่งใบขนส่งสินค้า เป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะได้งาน จบไปแล้วสามารถเข้าใจข้อมูลได้เลย ซึ่งจะไปช่วยบริษัทที่ไหนก็ล้วนแล้วแต่ยินดีรับ หรือทางด้านไอทีเราก็มีการจัดหลักสูตร Excel ซึ่งไม่ใช่แบบธรรมดา เป็นโปรแกรมที่เพื่อการจัดการโลจิสติกส์และคลังสินค้าโดยเฉพาะ ฉะนั้นนักศึกษาที่ได้รับการศึกษาเรื่องของการใช้โปรแกรมเบื้องต้นเมื่อมาศึกษากับเราต่อ ก็จะได้ข้อมูลเฉพาะเมื่อจบออกไปก็จะมีแต้มต่อเหนือนักศึกษาที่อื่น”  

คุณภาวิตา ศุวัสธารากุล ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ARIT (เออาร์ไอที) จำกัด กล่าวเสริมว่า “เออาร์ไอที มีความพร้อมที่จะผลักดันทักษะดิจิทัล สู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทางบริษัทมีประสบการณ์กว่า 30 ปี ในเรื่องของการอบรมทักษะ ไอทีและภาษาอังกฤษ ด้วยเครื่องมือระดับสากล ของ Certiport และ Pearson English ความร่วมมือนี้ เรามุ่งเน้น ที่จะช่วยผลักดันนักศึกษาไทยให้มีองค์ความรู้ และมีเครื่องมือในการทำงานของตนเองที่ดียิ่งขึ้น”

“เราเน้นทำความร่วมมือกับภาคการศึกษา ในการที่จะเข้าไปช่วยเติมความรู้ให้กับมหาวิทยาลัยผลิตเด็กนักศึกษาได้ตรงตามความต้องการ รวมถึงบุคลากรทางการศึกษา ในการ Upskill และ Reskill ทักษะทางด้านไอทีและภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรทางด้านพื้นฐานทั่วไป หรือเป็นหลักสูตรเฉพาะทาง ที่เรามีประกาศนียบัตรครอบคลุม และมาตรฐานสากล ทั้งหลักสูตร IC3 ทางด้าน Digital Literacy ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันวิชาชีพ ตอบโจทย์แรงงานภาครัฐและบุคลากรทางภาครัฐ ซึ่งจะช่วยผลักดันนักศึกษาไทยก้าวสู่ระดับสากล”