พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ยังไม่จบ
ในที่สุดสิ่งที่แฟนฟุตบอลอังกฤษเฝ้ารอคำตอบ กับการประชุมทุกฝ่ายตั้งแต่หัวยันหางผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จบสิ้นลง
คำตัดสินก็คือ “เลื่อน” แต่ว่า “ไม่เลิก”
ซึ่งก็ไม่เกินเลยกับแนวคิดก่อนหน้านั้น พร้อมกับตบปากพวกไร้ซึ่งสปิริตอย่างเต็มแรงเรียม
แฟนกีฬาที่ติดตาม “แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา” อย่างต่อเนื่อง ทั้งในฉบับพิมพ์ และในโลกออนไลน์ที่ www.naewna.com คงจะจับจุดตรงนี้จากการนำเสนอของเราว่า ทางออกที่ดีที่สุดในยามนี้ก็คือ “ชีวิต” ย่อมสำคัญกว่าทุกอย่าง
มหันตภัยร้ายที่มองไม่เห็น และแฝงตัวอยู่ได้แบบแยบยลจนเกินคำว่า“โรคภัย” อย่างโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19ได้ทำร้ายทำลายทุกอย่างบนโลกใบนี้ ยิ่งกว่าคำว่า “แช่แข็งมนุษย์”
การหยุดแข่งขันพรีเมียร์ลีกหนแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีนัดอีกทีคือหลังวันที่ 3 เมษายน นั่นคือการ “ชิมลาง” และเป็นแค่การ “ซื้อเวลา” เพราะเมื่อเทียบกับการระบาดของโรคแล้ว ไม่มีทางเลยที่จะกลับมาได้
จึงไม่แปลกอะไรที่จะเรียกองค์กรฟุตบอลทั้งองคาพยพ ร่วมประชุมกันอีกครั้งเพื่อหาทางออก ซึ่งหลายต่อหลายกระแสออกมาอย่างต่อเนื่องสรุปก่อนประชุมคือ 3 ทาง
1. โมฆะ-ยกเลิก
2. ยุติ-ตัดจบ
3. เตะต่อ-รอสถานการณ์
4. ไม่มีถูกทุกข้อ
ข้อสอบเฉลยมาในตอนนี้ก็คือ ข้อ 3.ชีวิตต้องไปต่อ แต่รอสถานการณ์ว่าจะไปต่อแล้วเป็นอย่างไร
บอลอังกฤษจะไม่มีการแข่งขันอย่างน้อยจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้
มืออาชีพมีสปิริตไม่มีคำว่า ‘โมฆะ’
สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ร่วมประชุมกับ พรีเมียร์ลีก, อีเอฟแอล, ลีกฟุตบอลอาชีพหญิง, พีเอฟเอ และ แอลเอ็มเอ เพื่อหาทางออกสำหรับฤดูกาลที่เหลืออยู่ประมาณ 25 เปอร์เซนต์ในซีซั่นนี้ หากเรานับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ก็จะมีเกมแมทช์เดย์เตะอีก 92 เกม
โดยถ้อยแถลงการณ์ของ เอฟเอ ฉบับภาษาไทยเต็มบรรทัดมีดังนี้.........
“เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรามีความมุ่งมั่นที่จะค้นหาและทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับมาแข่งขันฤดูกาล 2019-20 ต่อไปให้ได้ และมั่นใจว่า การแข่งขันในระดับลีกของเราและทุกประเทศ ทั้งหมดจะแข่งขันทันทีที่ปลอดภัย และมีความเป็นไปได้”
“เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ที่เลื่อนฟุตบอลยูโร 2020 ออกไป เพื่อสร้างพื้นที่ในปฏิทินฟุตบอลลีก โดยให้ความแน่ใจว่าประเทศต่างๆ ในยุโรป และฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรป จะได้มีเวลาเพิ่มขึ้น พร้อมกับรักษาความสมบูรณ์แบบเอาไว้ให้จงได้ในทุกๆ รายการ”
“กฎและข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเอฟเอ ระบุว่าฤดูกาลจะต้องสิ้นสุดลงไม่เกิน 1 มิถุนายนและการแข่งขันแต่ละรายการจะต้องตั้งอยู่ภายในขอบเขตที่กำหนด โดย เอฟเอ จะเป็นผู้ดูแลเรื่องของระยะเวลาของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการของเอฟเอ ได้ตกลงที่จะขยายเวลาไปเรื่อยๆ ในการเตะซีซั่นนี้”
“นอกจากนี้ เรายังได้ทำข้อตกลงกันว่าการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2019-20 นี้ จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึงวันที่ 30 เมษายน 2020 นี้เป็นอย่างน้อย”
เท่าว่า “ทีมโมฆะ”.....ไม่ถูกใจสิ่งนี้!!!
‘ปริศนา’ ในถ้อยคำแถลงการณ์
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ฟุตบอลอังกฤษ ได้ทำการ “หยั่งเชิง” กันแล้ว 1 รอบว่า หยุดการเตะไป 2 สัปดาห์แล้วจะกลับมาใหม่ สุดท้ายก็ยังไม่มา
นัยสำคัญของแถลงการณ์ก็คือ “จะแข่งขันทันทีที่ปลอดภัย และมีความเป็นไปได้” ในย่อหน้าแรก
“คณะกรรมการของเอฟเอ ได้ตกลงที่จะขยายเวลาไปเรื่อยๆ ในการเตะซีซั่นนี้”ในย่อหน้าที่ 3
“เรายังได้ทำข้อตกลงกันว่า การแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2019-20 นี้ จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึงวันที่ 30 เมษายน2020 นี้ เป็นอย่างน้อย” ในย่อหน้าสุดท้าย
นั่นหมายความว่า การจะกลับมาเตะได้นั้น อยู่ที่การ “ประเมินสถานการณ์” ทั้งหมดอีกครั้ง ไม่ใช่การ “จะกลับมาเตะ”อย่างแน่นอน ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
เท่ากับว่า ฟุตบอลจะกลับมาได้ก็คือ 2 ประเด็นเห็นๆ ตอนนี้
1.ไม่มีบุคลากรในวงการฟุตบอลอังกฤษติดเชื้อเพิ่ม
2.ไวรัสจะต้องบรรเทาเบาบาง หรือหายไปโดยพลัน!!!
การเปิดทางของวงการฟุตบอล
การดำเนินการได้อย่างลงตัวแบบนี้นั่นคือการ “ทำงานร่วมกัน” ของทุกฝ่าย
การสมัครสมานสามัคคีกันในยามวิกฤติการมีผู้นำและทีมงานที่ดีคือสิ่งที่สำคัญมากๆ หากเมื่อไหร่ที่มีวิกฤติแล้ว ผู้นำแย่แถมทีมงานห่วย ยังไงก็ “รอดยาก”
หรือถ้ารอดได้ก็ปางตาย!!!
งานนี้น่าชื่นชมตรงที่การขานรับลูกกันแบบเป็นทอดๆ เริ่มตั้งแต่การประชุมของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการเลื่อนฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป หรือ ยูโร 2020 ออกไปแข่งปีหน้า เช่นเดียวกับสหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ หรือ คอนเมโบลที่เลื่อนโคปา อเมริกา ไปแข่งปีหน้าเช่นเดียวกัน
จากนั้น สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ที่มักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ยูฟ่ามาโดยตลอด ได้ตัดสินใจขานรับเหตุผลจากทั้ง ยูฟ่า และคอนเมโบล ด้วยการเลื่อนชิงแชมป์สโมสรโลกรูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็น “เมกะโปรเจกท์” ในกลางปีหน้าออกไปโดยไม่มีกำหนด
ก็เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างไปต่อได้
เมื่อองค์กรใหญ่ๆ ให้ความร่วมมือกันทุกคนต้องการทำในสิ่งที่ดี และเข้าใจถึงสถานการณ์ที่แท้จริง ทำให้พรีเมียร์ลีก รวมถึงลีกอื่นๆ ก็ตัดสินใจอะไรได้ง่ายยิ่งขึ้น
มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอล(ซ้าย) กับ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย นักเตะเชลซี ที่ติดไวรัสโควิด-19
สาเหตุที่ ‘ลมหายใจ’ ยังคงมี
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ นาทีปัจจุบัน พรีเมียร์ลีก ยังคงไว้ซึ่งลมหายใจของซีซั่นนี้
เหตุผลสำคัญในการที่จะต้องทำการแข่งขันเพื่อให้ “เสร็จสมบูรณ์” ในซีซั่นนี้ นั่นก็คือ สปิริตของมืออาชีพ
ทุกทีมเดินหน้ากันต่อ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญก็คือ ความมีน้ำใจนักกีฬาและต้องสู้กันให้รู้ดำรู้แดง เพราะการอยู่ยั้งยืนยงในลีกต่อไป คือเกียรติ, ศักดิ์ศรี และมูลค่า
ทำให้อีกเหตุผลที่คุณจะลืมไม่ได้เลยก็คือ พรีเมียร์ลีก คือกีฬาที่มูลค่าสูงที่สุด
จำนวนเกมอีก 92 เกม ที่จะต้องออนแอร์ไปทั่วทั้งโลก ภายใต้เงื่อนไขต่างๆที่บรรลุกันไป จ่ายเงินกันไปเรียบร้อย วงเงินตรงมีมันมหาศาลอย่างมาก จนยากที่ใครจะรับผิดชอบได้
“แมทช์เดย์” แต่ละนัดสำคัญมากๆ กับการบริหารกิจการของแต่ละทีมเป็นอย่างมาก
นาทีนี้ โควิด-19 เล่นงานแต่ละทีมจนงอมพระราม แม้แต่ร้านขายสินค้าก็ต้องปิด หรือการทัวร์สนามก็ต้องระงับ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
เงินหายไปไม่รู้เท่าไหร่เป็นเท่าไหร่
ต่อให้กลับมาแล้ว จำเป็นจะต้อง “ปิดสนามแข่ง” ยังไงก็ต้องทำ
โปรแกรมฟุตบอลจะเป็นเช่นไร
ตามกำหนดของลีก นั่นคือเกมจะกลับมาเตะเมื่อจบเดือนเมษายนนี้
ถ้ากลับมาจะตรงกับโปรแกรมเดิม คือแมทช์เดย์ที่ 36 วันที่ 2 พฤษภาคม 2020 ที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ใครจะเจอกับใครบ้าง
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ในฐานะจ่าฝูงที่ต้องการอีกแค่ 6 คะแนนจาก 9 นัดที่เหลือ จะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี เจองานช้างเมื่อต้องบุกไปเยือน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นอร์ท ลอนดอนถือเป็นบิ๊กแมทช์ประจำแมทช์เดย์รอบนี้
ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ซิตี้ แชมป์เก่าที่ตามหลังอยู่ 25 คะแนน แต่เล่นน้อยกว่า 1 เกม จะไปเฝ้าบ้านพบกับบอร์นมัธ ที่กำลังหนีตาย พร้อมกับมีเกมดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดที่ลอนดอน สเตเดี้ยม“ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบกับ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด
สรุปโปรแกรมแมทช์เดย์ 2 พฤษภาคม 2020 มีดังนี้ เอฟเวอร์ตัน-วิลล่า, เชลซี-นอริช, เซาแธมป์ตัน-ไบร์ทตัน, เบิร์นลี่ย์-วูล์ฟส์, แมนฯซิตี้-บอร์นมัธ, พาเลซ-แมนยูฯ,เลสเตอร์-เชฟฯยูไนเต็ด, เวสต์แฮม-วัตฟอร์ด, นิวคาสเซิล-สเปอร์ส และอาร์เซนอล-ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม นี่คือโปรแกรมตามกำหนดเดิม นั่นหมายความว่า ต้องรอทาง พรีเมียร์ลีก ยืนยันอีกครั้งว่า จะใช้โปรแกรมไหน
เมื่อ “โควิด-19” อ่อนแรงเมื่อไหร่.....อีกไม่นานได้รู้กัน!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี