บาร์ซ่า กับ เรอัล มาดริด กลับมาบี้แชมป์กันอีกครั้งกับ 11 เกมที่เหลือนับจากนี้

นับถอยหลังไปเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง ฟุตบอลลา ลีกา สเปนของดีระดับพรีเมียม จะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้ง ในวันที่11 มิถุนายนนี้

การฟาดแข้งตอนนี้ยังลุ้นกันสูสีสุดๆ กับการไล่ล่าแชมป์ นั่นคือ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ทีมนำฝูง ในฐานะแชมป์เก่า กับการไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 27 ที่บดกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่เสียบัลลังก์จ่าฝูงไปก่อนจะเกิดเหตุไวรัส ในช่องว่างที่ห่างกันแค่ 2 คะแนน

ในทางตรงกันข้าม เกมลุ้นหนีตายก็ยังคงความระทึกใจไม่แพ้กัน เพราะช่องว่างระหว่างโซนตกชั้นอันดับ 18 กับ อันดับ 15 ตอนนี้ห่างกันแค่ 4 แต้มเท่านั้น

วันนี้พาทุกคนมาติดตามเรื่องราว เกร็ดน่ารู้วงการลูกหนังกระทิงในซีซั่นนี้ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องในการติดตามลูกหนังลีกใหญ่ ที่กำลังจะกลับมาฟาดแข้งกันให้หายคิดถึง..................

l ลา ลีกา สเปน ยังคงอนุรักษ์นิยมอยู่หลายๆ เรื่องโดยเฉพาะตำแหน่งของผู้จัดการทีม ที่ยังคงนิยมใช้ “ของใน”มากกว่า “ของนอก” โดย 20 ทีมในลีก มีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่เป็นผู้จัดการทีมชาวต่างประเทศ และมีกัปตันทีมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ใช่คนสเปน

l ตำแหน่งกุนซือนั่นคือ ซีเนดีน ซีดาน จากฝรั่งเศส ที่คุมทัพ เรอัล มาดริด เป็นคำรบที่ 2 ขณะที่คู่ปรับร่วมกรุงอย่าง แอตเลติโก มาดริด ก็ใช้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ชาวอาร์เจนตินาคุมทัพ ส่วนอีกรายคือ ฮาเวียร์ อากีร์เร่ ชาวเม็กซิกัน ที่ทำทีมเลกาเนส

l กัปตันทีมหนึ่งเดียวที่ไม่ใช่คนแดนกระทิง นั่นคือลีโอเนล เมสซี่ จอมทัพอาร์เจนตินา ของ บาร์เซโลน่านั่นเอง

l ในซีซั่นนี้มีการเปลี่ยนกุนซือระหว่างฤดูกาลไปแล้ว 6 คนด้วยกัน

คนแรก มาร์เซลินโน่ โดนปลดจากบาเลนเซียเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2019 โดยที่ อัลแบร์ต เซลาเดส เข้ามาทำงานแทน

คนที่สอง ดาบิด กาเยโก้ โดน เอสปันญ่อล ปลดเมื่อ 7 ตุลาคม 2019 แล้วตั้ง ปาโบล มาชิน คุมทีม

คนที่ 3 เมาริซิโอ เปเยกริโน่ ขอลาออกจากเลกาเนส เมื่อ 21 ตุลาคม 2019 ทำให้ ฮาเวียร์ อากีร์เร่ได้มาคุมทัพ

คนที่ 4 ฟราน เอสซริบ้า ของเซลต้า บีโก้ ถูกเด้งเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2019 ทำให้ ออสการ์ การ์เซีย ได้งาน

คนที่ 5 ปาโบล มาชิน เข็นเอสปันญ่อล ไม่ขึ้น สังเวยตำแหน่งเมื่อ 23 ธันวาคม 2019 ในขณะที่ทีมอยู่อันดับบ๊วย โดยมี อเบลาร์โด้ มาเข็นแทน

คนที่ 6 รายล่าสุดคือเป็นทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่าแม้จะนำฝูงแต่ก็ปลด เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ออกไปแล้วดึงกีเก้ เซเตียน มานั่งเก้าอี้แทน

ลีโอเนล เมสซี่ ยังคงสนุกกับสถิติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

l การดวลแข้งผ่านไปแล้ว 27 นัด เหลือการสู้กันอีกถึง 11 เกม บาร์ซ่า ขึ้นนำอยู่ที่ 58 แต้ม ตามมาโดย เรอัล มาดริด 56 แต้ม เท่ากับเหลือสองทีมนี้ที่จะบี้แชมป์
เพราะที่เหลือต้องไปวัดใจกันในโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกในอีก 2 ที่...ที่เหลือ

l เซบีญ่า อยู่อันดับ 3 มี 47 คะแนน บี้กันอย่างสูสีกับ เรอัล โซเซียดัด ที่มี 46 คะแนนเท่ากับ เคตาเฟ่ ที่แรงต่อเนื่องสองปีติด รวมไปถึง “หมีมหาภัย” แอตเลติโกมาดริด ที่มี 45 แต้ม นอกจากนี้ยังประมาท “ไอ้ค้างคาว”บาเลนเซีย ไม่ได้ เพราะมีอยู่ 42 คะแนน ได้ท้าท้ายไปถ้วยใหญ่เช่นกัน

l ในโซนตกชั้น “ไอ้นกแก้ว” เอสปันญ่อล ยังหาทางกลับฝั่งไม่เจอ มีแค่ 20 แต้ม อุตส่าห์ฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาแต่ต้องโดนหยุดจากไวรัสไปซะก่อน ขณะที่ เลกาเนส
มี 23 แต้ม, เรอัล มายอร์ก้า 25 แต้ม, เซลต้า บีโก้ 26 แต้ม, เออิบาร์ 27 แต้ม และบายาโดลิด 29 แต้ม ทั้งหมดยังต้องลุ้นเพื่ออยู่รอด

l 20 ทีมลา ลีกา มาจากแทบจะทุกทิศทั่วประเทศ โดยแคว้นบาสก์ มีทีมในลีกมากที่สุดเท่ากับ กรุงมาดริดอย่างละ 4 ทีม คือ แอธเลติก บิลเบา, อลาเบส, เออิบาร์ และเรอัล โซเซียดัด จากแคว้นบาสก์ ส่วนจากเมืองหลวงคือ เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด, เลกาเนส และเคตาเฟ่

อันดาลูเซีย มี 3 ทีม คือ เซบีญ่า, เรอัล เบติส และกรานาด้า เท่ากับที่บาเลนเซี่ยน ที่มี 3 ทีมเช่นเดียวกัน คือ บาเลนเซีย, บียาร์เรอัล และเลบันเต้

คาตาโลเนีย หรือ คาตาลุนญ่า มี 2 ทีมก็คือบาร์เซโลน่า กับ เอสปันญ่อล ส่วนที่มาเดี่ยวก็คือ เรอัลมายอร์ก้า จากบาเลริค ไอส์แลนด์, เรอัล บายาโดลิดจาก กาสติล แอนด์ เลออง, เซลต้า บีโก้ จาก กาลิเซีย และ โอซาซูน่า จาก นาบาร์

l ผู้ทำประตูแรกในลา ลีกา สเปน คือ อาริตซ์อาดูริซ จอมเก๋าของแอตเลติก บิลเบา เมื่อ 16 สิงหาคม 2019 ตอนนี้ไม่ได้เล่นแล้ว เนื่องจากประกาศแขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อยในช่วงเบรกเพราะโควิด เนื่องจากเจ้าตัวบาดเจ็บและอายุล่วงเลยมาถึง 39 ปี

l ผู้ที่ทำประตูล่าสุดตอนนี้คือ ชาร์ลส์ ของเออิบาร์ ที่ยิง เรอัล โซเซียดัด เมื่อ 10 มีนาคมที่ผ่านมา

l ในเรื่องของการถล่มประตู ลีโอเนล เมสซี่ ยังคงเป็นเบอร์แรก หลังจากซัดไปแล้ว 19 ประตู และยังแอสซิสต์มากที่สุด 12 ลูก ตามมาโดย คาริม เบนเซม่า จากเรอัล มาดริด ยิงไป 14 ประตู และที่ตามมาเป็นพรวนจากการยิงได้ 11 ประตูเท่ากันคือ เคราร์ด โมเรโน่ ของบียาร์เรอัล, ลูก้า เปเรซ ของอลาเบส, โรเชร์ ของเลบันเต้ และหลุยส์ ซัวเรซ ของบาร์ซ่า

l มีการยิงแฮททริกเกิดขึ้น 4 ครั้งเป็นของ ลีโอเนล เมสซี่ ถึง 3 ครั้ง ในเกมกับ เซลต้า บีโก้, เรอัล มายอร์ก้าและเออิบาร์ ส่วนอีกครั้งเป็นของ โจอาควิน จอมเก๋าวัย 38 ปีของ เรอัล เบติส ที่ซัดใส่ แอธเลติก บิลเบา

l แยน โอบลัค นายประตูของ แอตเลติโก มาดริด ยังคงเป็นจอมหนึบของลีก เมื่อเสียประตูน้อยที่สุดคือ21 ประตูจาก 27 นัด ตามมาโดย ดาบิด โซเรีย จากเคตาเฟ่25 ประตู และยอร์ดี้ มาซิป ของเรอัล บายาโดลิด 33 ประตู

l นักเตะที่โดนใบเหลืองมากที่สุดซีซั่นนี้ถึง 11 ครั้ง มีมากถึง 4 คนด้วยกัน ประกอบด้วย เคราร์ด ปีเก้ ของบาร์เซโลน่า, โจนาธาน ซิลวา ของเลกาเนส, โรเบร์โต้โซลดาโด้ ของกรานาด้า และดาเมี่ยน ซูอาเรซ ของเคตาเฟ่

l มีนักบอลที่โดนใบแดงมากที่สุด 2 ใบในปีนี้เกิดขึ้นกับ 3 นักเตะ นั่นคือ เกลมองต์ ลองเลต์ ของบาร์เซโลน่า, ฟาคุนโด้ รอนกาญ่า ของโอซาซูน่า และ ซูเฮร์เฟดดาล ของเรอัล เบติส

l ทีมที่โดนลงโทษมากที่สุดในปีนี้ก็คือ เคตาเฟ่รับไปแล้วถึง 92 ใบเหลือง แต่ทีมที่โดนใบแดงมากที่สุดคือ เรอัล เบติส รวมทั้งสิ้น 7 ใบ

l ทีมที่โดนใบเหลืองน้อยที่สุดคือ เรอัล โซเซียดัด โดนไป 48 ใบ ส่วนทีมที่ไม่โดนใบแดงเลยมี 2 ทีมคือ เรอัลบายาโดลิด กับ บียาร์เรอัล

l นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนทั้งหมด 6 คนประกอบด้วย เดือนกันยายน มาร์ติน โอเดนการ์ด(เรอัลโซเซียดัด), เดือนตุลาคม คาร์ล โตโก้ เอคัมบี้(บียาร์เรอัล),เดือนพฤศจิกายน ลีโอเนล เมสซี่(บาร์เซโลน่า), เดือนธันวาคมหลุยส์ ซัวเรซ(บาร์เซโลน่า), เดือนมกราคม ติบอร์ กูร์กตัวส์(เรอัล มาดริด) และเดือนกุมภาพันธ์ ลีโอเนล เมสซี่ได้มาครองอีกครั้ง

บี แหลมสิงห์