ไม่อยากจะเชื่อว่า วิกฤติศรัทธา เกิดขึ้นกับ บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลุนญ่า เมื่อเห็นภาพแฟนฟุตบอลแหวกโควิด-19 ออกมารอโห่และด่านักเตะของตัวเอง
หลังความพ่ายแพ้ยับเยินยูยี่ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ขาดลอยถึง 2-8
การตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การแพ้ในลักษณะแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคัมป์นู ทั้งระบบการบริหาร, ระบบการฝึกซ้อม และระบบการเล่น
ครบรอบ 12 ปียิ่งดูเหมือนกับว่า "ลา มาเซีย" จะกลายเป็น "อนุสรณ์แห่งความสำเร็จ" หลังจากไม่มีซูเปอร์สตาร์ดาวเด่นขึ้นมาให้กับทีมได้ชื่นใจ
หมดยุคการเล่นฟุตบอลแบบ "ติกิตาก้า" ไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อความหวังของ โยฮัน ครัฟฟ์ เกิดขึ้นจริงเป็นเวลา 10 ปี แต่หลังจากนั้นคุณภาพผู้เล่นเสื่อมถอย
เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ ออกไปตามกาลเวลา ผลกระทบอาจจะยังไม่มากเท่ากับว่า ทีมเสีย อันเดรส อิเนียสต้า ยิ่งทำให้ บาร์ซ่า อ่อนกำลังลง และหาทิศทางใหม่ที่กลับไปเป็นทิศทางเดิม ๆ
การบริหารงาน"จำเป็น"ต้องกลับไปเป็นเหมือนวันวาน นั่นก็คือ "ซื้อนักบอล" และในโลกปัจจุบัน นักฟุตบอลดี ๆ มีน้อย และนักฟุตบอลราคาก็เกินฝีมือ
คำว่า "เจ้าบุญทุ่ม" มันเกิดขึ้นจากการตั้งฉายาของบรรดาเกจิอาจารย์ยุคบรมครูของอาชีพสื่อไทย สะท้อนให้เห็นถึงกาลครั้งก่อนในการซื้อ, ซื้อ แล้วก็ซื้อ กระทั่ง โยฮัน ครัฟฟ์ ยอมรับว่า ถ้าซื้อแบบนี้"ไม่ทัน"เรอัล มาดริด แน่ๆ
น่าประหลาดใจกับการแต่งตั้ง กีเก้ เซเตียน เข้ามาคุมทัพ แม้ว่าคุณอาจจะไม่พอใจ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ แต่ต้องไม่ลืมว่า คนที่มาแทนนั้นต้องดีกว่า แต่กลับกลายเป็นแย่กว่าคนที่ถูกไล่ออก
บอร์ดบริหารงัดข้อกันหนักสาหัสสุด ๆ ความระหองระแหงภายในของบอร์ดบริหารบาร์ซา เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนปลด เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เพราะบอร์ดมองว่า โจเซป บาร์โตเมว ลงมือช้าเกินไป
มีข่าวหลุดกรณีของ I3 Ventures บริษัทประชาสัมพันธ์ ที่ถูกว่าจ้างให้"ดิสเครดิต"นักบอลตัวเอง และอดีตนักบอลตัวเอง โดยเฉพาะการ"ปล่อยข่าว"ว่า นักบอลปฏิเสธไม่ยอมลดค่าเหนื่อยช่วยสโมสรช่วงโควิด-19
การเจรจาใช้เวลานานถึง 10 วัน กว่าทุกอย่างจะยอม และลดไปถึง 70 เปอร์เซนต์ หลายคนบอกว่า "อ้าวเฮ้ย!!!! ตกลงทีมกูรวยที่สุดในโลกนี่หว่า" แล้วทำไมถึงต้องลดค่าจ้างแบบกระทันหันแบบเหมือน"ฉวยโอกาส"แบบนี้
"อยากออกก็ออกไป!!!!" เป็นผู้บริหารสูงสุด คุณจะใช้แต่"พระเดช"อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องรู้จักใส่ใจในความรู้สึกของคนทำงาน บาโตเมว ไม่สนใจยักไหล่ "เชิญออกไปได้เลย"
ลงท้ายไม่มีใครอยากจะเชื่อ เพราะไปกันทั้งขบวนการ
เอมิลี เราซานด์ รองประธานฯ ที่ถูกวางเอาไว้ว่า จะมีการมอบอำนาจนั่งประธานคนต่อไป, เอ็นริเก้ โตมบาส อีกหนึ่งรองประธาน, ซิลวิโอ เอเลียส ผู้อำนวยการ และโจเซป ปอนต์
ต่อด้วย ยอร์ดี้ คลาซามิเกลีย อีกหนึ่งบอร์ดคนสำคัญ ก็ควง มาเรีย เตชิดอร์ เลขาธิการ ก็ออกจากทีมเช่นกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้ทีมบริหารเหลือไม่ถึงครึ่ง เพราะของจำนวนบอร์ด ต้องมีอย่างน้อย 14 คน แต่ตอนนี้มีแค่ 12 คน
แรงกดดันล่าสุดก็คือ จะต้องรีบมีการเลือกตั้งให้เร็วกว่าปี 2021 ที่กำหนดเอาไว้
"การบริหารแบบนี้มันน่าอับอาย อย่ายื้ออะไรอีกเลย ตอนนี้ บาร์ซ่า มีแต่ความเจ็บปวด หากยิ่งช้าจะยิ่งเสียเวลาอันมีค่าไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ บาร์โตเมว ต้องออก พร้อมด้วยการเลือกตั้งโดยเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้' คำกล่าวของ บิคตอร์ ฟอนต์ ผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานบาร์ซ่า กล่าว
การเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 6 ปีกำลังจะเกิดขึ้น
เรื่องส่วนหัวก็ยุ่ง เรื่องส่วนตัวก็รุงรัง
การทำงานของ กีเก้ เซเตียน ดูมีปัญหาไปหมด จากทีมที่นำเป็นจ่าฝูงก่อนจะต้องหยุดเพราะไวรัสร้าย กลับกลายมาเสียแชมป์ลา ลีกา ต่อด้วยโดนยำเละในแชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเพราะ"สปิริต"ของทีมเสียไปเพราะ"มือขวา"ของ เซเตียน
เค้าคือ เอแดร์ ซาราเบีย ผมขอเรียกเค้าแทนบุคลิกว่า "ไอ้แอ๊ค" ก็แล้วกัน
นอกจากแทคติคที่ซับซ้อน และเข้าใจยากของ เซเตียน บวกกับความโอเวอร์แอ๊คชั่น และ "ฮึดเกินฝีมือ"ของ ซาราเบีย ที่พยายาม"เล่นกล้อง" และพยายามจะ"พร่ำสอน"จระเข้ให้ว่ายน้ำ สอนลิงปีนต้นมะพร้าว หรือสอนเมียให้ล้างจาน กับนักบอลบาร์ซ่า มาก......มากจนเกินไป
การสั่งสอนแทคติคพร่ำเพรื่อ"ออกสื่อ"เหมือนกับการ"จงใจทำ"ของ ซาราเบีย แต่ในช่วงหลัง ภาพความเย็นชาจากทุกคนแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด
สุดท้ายคือการทุ่มเงินแบบไม่ลืมหูลืมตา
การซื้อนักบอลอย่าง เฟลิปเป้ คูตินโญ่ กับ อุสมาน เดมเบเล่ สองคนรวมกว่า 200 ล้านปอนด์ หรือการเติม อองตวน กรีซมันน์ มาอีกกว่า 100 ล้านปอนด์ มันไม่ได้อะไรเลยนอกจากคำว่า "สีสัน"
แผนการทำงานของ บาร์ซ่า ไม่ได้ไปด้วยกันอย่างเหลือเชื่อ มันค่อย ๆ เกิดผลร้าย หลังจาก"มีแผล"ให้เห็นมา 3-4 ปีหลัง แล้วมันก็มาแสดงให้เห็นในช่วงเวลานี้ เพราะทีมอย่าง บาร์ซ่า แพ้ได้
แต่คุณจะแพ้เละ ๆ แบบนี้ไม่ได้
* โดนยิง 6 เม็ดในรอบ 69 ปี
* เสีย7เม็ดหนแรกรอบ71ปี
* เสีย5เม็ดในยุโรปรอบ44ปี
*เสีย4เม็ดในครึ่งแรกเป็นหนแรกในยุโรป
แหลกละเอียดแบบนี้ ทุกฝ่ายที่มีโลโก้บาร์ซ่าอยู่ที่อกต้องรับผิดชอบ
นาทีนี้เห็นว่า โรนัลด์ คูมัน จะเข้ามารับงานแทน กีเก้ เซเตียน บอกได้เลยว่า ผมนึกไปถึง ลอว์รี่ ซานเชซ
ตอนนั้นอดีตแข้งวิมเบิลดัน กำลังทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมกับ ไอร์แลนด์เหนือ กำลังจะได้ไปบอลยูโร 2008 แล้วก็กระโดดมาคุมทัพ ฟูแล่ม บอกว่า งานดูท้าทาย และอาจจะไม่มีโอกาสดี ๆ แบบนี้อีก ทั้งที่งานกับ ไอร์แลนด์เหนือ ก็ยังไม่สำริดถึงเส้นชัย
สุดท้ายพังหมดทั้ง ฟูแล่ม, ไอร์แลนด์เหนือ และก็ไม่เหลือที่ยืนให้ ซานเชซ ในฐานะกุนซืออีกเลย
คูมัน ก็เช่นกัน
พูดแบบเดียวกันกับ ซานเชซ
งานก็ยังไม่จบเหมือนกับ ซานเชซ
ไม่ต้องบอกว่า บรรทัดต่อไปจะเขียนว่าอะไร
เคยเฉย ๆ กับการคุม เซาธ์แฮมป์ตัน และโดนปลดคาชามข้ามที่เอฟเวอร์ตัน
โชคดีขนาดไหนที่มาคุม เนเธอร์แลนด์
จริงอยู่นี่คือนักเตะระดับตำนาน และบุญธรรมกรรมแต่งให้เขาเป็นฮีโร่ตะบันฟรีคิกโกล์ผ่านมือ จานลูก้า ปายูก้า ตุ๊กแกรักแป้งมากของ ซามพ์โดเรีย ตุงตาข่ายที่หอคอยคู่ เป็นประตูชัยให้ บาร์ซ่า เถลิงถ้วยใหญ่หนแรกเมื่อปี 1992
แต่ศูนย์รวมใจตอนนี้ ยังไม่ทันส่องกระจก ก็เห็นเงาแล้วว่าเป็นใคร
ให้มันจบเป็นเรื่อง ๆ ไปไม่ดีกว่าหรือ......................
ดังนั้นตอนนี้มันไม่ใช่ว่า ใครจะเป็นกุนซือเพียงอย่างเดียว ยังมีเรื่องนักบอบ เรื่องประธาน เรื่องระบบต่าง ๆ ให้ได้สางกันอีกบานตะไท
นี่คือวิกฤติครั้งใหญ่ที่รากเลือดที่สุดของบาร์ซ่า
บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี