ตำนาน-วิญญาณ-รักและชัง 'แดงเดือด'เรื่องละบรรทัด

ตำนาน-วิญญาณ-รักและชัง 'แดงเดือด'เรื่องละบรรทัด

วันอาทิตย์ ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2564, 18.00 น.

บันทึกประวัติศาสตร์เกมแดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนศึกใหญ่จะเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนวันนี้

๐ สองเมืองแรกที่มี “รถไฟ” เชื่อมต่อระหว่างเมือง เริ่มต้นเมื่อ 15 กันยายน 1830 หรือ First inter-city railway in the world.


๐ ระยะทางห่างกันของสองเมืองนี้ คือ 35 ไมล์ หรือ 56 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางปกติไม่เกิน 45 นาที

๐ ปลายศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์พูล เป็นเมืองท่าระดับโลก เพราะ 40% ของโลกใบนี้ต้องมาเทียบท่าที่เมอร์ซี่ย์ไซด์

๐ ช่วงเวลาเดียวกัน แมนเชสเตอร์ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งแรก และใหญ่โตที่สุดของโลก ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ อุตสาหกรรมทอฝ้าย 

๐ เวลานั้น ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและความสำเร็จของโรงงานฝ้ายทั้งภูมิภาคทางตอนเหนือของอังกฤษ

๐ การเชื่อมโยงระหว่างสองเมืองนี้ แข็งแกร่งอย่างมาก ถูกขนานนามให้เป็น เมืองหลวงที่สองของจักรวรรดิอังกฤษ

๐ แมนเชสเตอร์ ไรณรงค์ขอการสนับสนุนคนในเมือง “ขอขุดคลองแห่งใหม่” เพื่อเชื่อมต่อจากทะเลไอริช เข้าสู่แมนเชสเตอร์โดยตรง 

๐ โครงการนี้ทำเพื่อทดแทน คลองบริดจ์วอเตอร์ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1776 รวมไปถึงคลองที่เชื่อมผ่านแม่น้ำเมอร์ซี่ย์มายังแมนเชสเตอร์

๐ แผนการนี้สำเร็จ ทำให้เกิดการขุดลอกคลองที่ชื่อ “คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์” หรือ The Manchester Ship Canal เปิดใช้งานเป็นทางการ เมื่อ 1 มกราคม ค.ศ.1894

๐ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีตรงนี้ พร้อมกับคนต้องตกงานแทบจะกลายเป็นเมืองร้างในเวลาต่อมา เพราะโลกไม่ได้เดินทางจากเรือเป็นหลักอีกต่อไป

๐ นักประวัติศาสตร์ ให้ความเห็นตรงกันว่า "การขุดคลอง" เป็นการก่อกำเนิดการจงเกลียดจงชังกันอย่างรุนแรงของสองเมืองนี้

๐ เตะกันหนแรกนัดเป็นทางการ 12 ตุุลาคม 1895 ในเกมดิวิชั่น 2 ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล ชนะไป 7-1

๐ เตะแบบไม่เป็นทางการนัดแรก ปี 1893-94 ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0

๐ 2ทีมนี้คือ"คู่ล้มบอล"เป็น"คู่แรกของโลก" เมื่อวันที่ 2 เมษายน 1915 หรือ The 1915 Good Friday betting scandal

๐ สองมหาบุรุษของทั้งสองทีมนี้ นั่นคือ เซอร์แมตต์ บัสบี้ และ บิลล์ แชงคลี่ย์ ทั้งสองท่านเป็นเพื่อนกัน 

๐ เซอร์แมตต์ เคยเล่นให้ลิเวอร์พูล ถึง 122 เกม และเป็นหนึ่งในผู้แนะนำให้ ท่านแชงค์ มาคุมทัพลิเวอร์พูล

๐ นายอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวในการรับงานแมนฯยูว่า "Knock Liverpool off their FUCKING perch" แล้วเขาก็ทำสำเร็จ และได้เป็น"ท่านเซอร์"

๐ ไรอัน กิ๊กส์ ลงเล่นศึกนี้มากที่สุด 48 นัด

๐ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันสเกาเซอร์ เป็นผู้ยิงประตูในศึกนี้มากที่สุด 9 ประตู เท่ากับ จอร์จ วอลล์ และแซนดี้ เทิร์นบูลล์ สองแข้งแมนฯยู

๐ Head to Head แมนฯยู เหนือกว่าด้วยการชนะ 80 เสมอ 57 ลิเวอร์พูล ชนะ 67

๐ เกมสุดท้ายยุคดิวิชั่น 1 "หงส์แดง" ชนะ 2-0 ที่แอนฟิลด์ เกมนั้น เอียน รัช ยิงประตูแรกใส่ผีได้นับตั้งแต่เจอกันมาในลีก 18 เกม ถ้ารวมทุกถ้วยคือ 23 เกม

๐ เกมแรกในยุคพรีเมียร์ลีก เสมอกัน 2-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

๐ มีนักเตะ"ย้ายตรง"ระหว่างทั้งสองทีมเพียงแค่ 9 คนเท่านั้น 

๐ คนสุดท้ายย้ายค่าย คือ ฟิล คริสเนลล์ จาก แมนฯยูไนเต็ด ไป ลิเวอร์พูล 25,000 ปอนด์ เมื่อเมษายน ปี 1964 หรือ 57 ปีแล้ว!!!!

๐ รอน แอ็ตกินสัน อดีตกุนซือจอมโอ่อ่าของ แมนฯยูไนเต็ด บอกว่า เขาไม่อยากคุมทัพมาเล่นที่แอนฟิลด์ เพราะมันเหมือนไม่ได้มาเตะบอล แต่เหมือนไปทำสงครามเวียดนามมากว่า

๐ มีแค่ 3 ครั้งเท่านั้นในยุคพรีเมียร์ลีก ที่ต้องมาชนกันในฐานะ"ทีมลุ้นแชมป์" ล่าสุดที่อันดับก่อนแมทช์เดย์ติดกันแบบ 1 กับ 2 แบบนี้ คือ เมษายน ปี 1997 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯยู 1-3 

๐ อีก 2 เกมที่บดลุ้นแชมป์แต่อันดับไม่ติดกัน แต่บี้แชมป์โดยตรงคือ ซีซั่น 2001-02 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 และ ซีซั่น 2008-09 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4

๐ ในยุคแรก ๆ สองเมืองนี้มีสโลแกนที่ทุกคนรู้ดีว่า "Manchester made and Liverpool Trade"

เหมือนกับคำว่า ดั่งน้ำต้องพึ่งเรือ ดังเสือก็ต้องพึ่งป่า ยังไงยังงั้่น.....ก่อนจะแตกหักกัน และปัจจุบันก็กลับมาร่วมกันทำการท่องเที่ยว "คลองเจ้ากรรม" อีกครั้ง!!!!

แต่คืนนี้จะไม่มีพึ่งพากันแน่นอน แม้ว่า "อีกหนึ่งแมน" หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะน่ากลัวกว่าสองคู่ปะทะแดงเดือดนี่ก็ตามทีเหอะ!!!

#บีแหลมสิงห์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top