โอลิมปิก ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 ได้จบลงไปอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นโอลิมปิกที่ยากเย็นที่สุด กับการเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่น ที่เราไม่รู้เหมือนกันว่า อีก 100 ปีข้างหน้า
ญี่ปุ่น จะมาเป็นเจ้าภาพอีกหรือไม่
สองครั้งกับการเป็นเจ้าภาพที่ดูเหมือนว่า “ประวัติศาสตร์ต้องจารึก” เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเคยปฏิเสธการเป็นประเทศแรกของโลกมนุษย์ทางฝั่งเอเชีย เมื่อขอยกเลิกการเป็นเจ้าภาพทั้งโอลิมปิกฤดูร้อน และหนาว ในปฏิทินเดียวกัน ปี 1940 เพื่อเดินหน้าเข้าสู่สงครามโลกอย่างเต็มตัว
กระทั่งการกลับมาใช้โอลิมปิกเกมส์ 1964 เปิดประเทศหลังจากพ่ายยับ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ฮิโรชิม่า และนางาซากิ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ญี่ปุ่น ได้เป็นชาติแรกที่ “เปิดโลกใหม่” ในยุค “โรคอุบัติใหม่” ในปี 2021 แต่ในชื่อ “โตเกียว 2020” เนื่องจากต้องเลื่อนการแข่งขัน
มีหลายสิ่งที่น่าจดจำ เมื่อพวกเขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไป ทำอย่างมีวินัยและเต็มที่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า หากไม่ใช่ญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ จะสามารถควบคุมการระบาดได้ดีขนาดนี้หรือไม่
ด้วยความมีวินัยเป็น ดีเอ็นเอ ดังนั้น ทุกอย่างที่มันยาก มันทำให้คลายตัวไปได้หลายเรื่อง
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ทิ้งไปเลยนั่นก็คือ การนอบน้อมถ่อมตนต่อให้สถานการณ์ย่ำแย่แค่ไหน ความเรียบร้อยและสุภาพของคนแดนซามูไร
ชนะใจไปเกินร้อย
ขณะที่เกมการแข่งขัน ถือว่าเหลือเชื่ออย่างที่สุด กับ การทำสถิติต่าง ๆ มากมาย และมีเรื่องราวที่น่าจดจำ มีสตอรี่ที่เขียนกันเกินหลายหน้ากระดาษ แค่ยกน้ำหนักก็ทุบรวมกัน 55 ครั้งแล้ว.............อาทิ
อัลลิสัน เฟลิกซ์ กลายเป็นตำนาน เมื่อแข่ง 5 โอลิมปิกเกมส์ ได้ไป 7 เหรียญทอง รวมแล้วกวาด 11 เหรียญรางวัล เป็นนักกีฬากรีฑาชาวอเมริกันที่เก่งที่สุดตลอดกาล
เหตุการณ์ Jamaican sweep!! เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์ ทุบสถิติ 33 ปีของโฟลโจ-ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์ได้สำเร็จ ใน 100 ม. หญิง เร็วกว่าสถิติเดิม 0.12 วินาที และบนโพเดี้ยมมีแต่นักกีฬาจาเมก้า ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นถึง 2 หนในโอลิมปิกครั้งนี้ โดยอีกที่เกิดที่สนามจักรยานจากทีมสวิตเซอร์แลนด์
คือปรากฏการณ์แห่ง A podium sweep
มาร์แซล ยาค็อป นักวิ่งเจ้าของสถิติแชมป์ยุโรป 60 เมตรจากอิตาลี ชื่อชอบกระโดดไกล กลายเป็นมนุษย์ที่เร็วที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่วิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 9.80 วินาที
ยาค็อป วิ่งเข้าเส้นชัย เป็นคนยุโรปคนแรกในรอบ 29 ปี ที่ได้เหรียญทองวิ่ง 100 เมตร ก่อนจะนำทัพ อิตาลี ครองรางวัล 4x100 เมตรอีกต่างหาก
ยูลิมาร์ โรจาส สาวก้านยาวจากเวเนซุเอลา เขย่งก้าวกระโดด 3 ครั้ง ออกมาคนละแบบ นั่นคือ 1.ทำลายสถิติโอลิมปิก 2.ฟาวล์และ 3.คือทำลายทำลายสถิติโลก!!!!
ภาพสุดประทับใจคงไม่พ้น มูตาซ เอสซา บาร์ชิม นักกระโดดสูงจากกาตาร์ กอดกันกลมกับ จานมาร์โก ทัมเบรี่ จากอิตาลี ขอรับเหรียญทองร่วม หลังจากทำสถิติเท่ากัน 2.37 เมตร และไม่ขอแข่งต่อเพื่อตัดสินผู้ชนะ
…..จากนั้น
เอ๊ดดี้ อัลบาเรซ กลายเป็นนักกีฬาคนที่ 6 ของโลกใบนี้ ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว เขาเป็นนักกีฬารีเลย์สเก็ต 5,000 สปีด ได้เหรียญในเกมส์ฤดูหนาว 2014 ก่อนจะได้เหรียญเงินกับทีมเบสบอล ในศึกฤดูร้อนปีนี้
นอร์เวย์ ได้เหรียญทองประเภทชายเป็นครั้งแรกของวอลเลย์บอลชายหาด ขณะที่ ฝรั่งเศส ได้เหรียญทองวอลเลย์บอลชายเป็นครั้งแรกเช่นกัน
เอพริล อลิซาเบ็ธ รอสส์ นักวอลเลย์บอลชายหาดหญิงสหรัฐ กลายเป็นคนแรกที่ได้เหรียญรางวัล “ทุกเหรียญ” ในการเล่น 3 ครั้งติดต่อกัน ที่แปลกกว่าคนอื่นก็คือ เธอได้เหรียญเงิน 2012 ต่อด้วยเหรียญทองแดง 2016 ก่อนที่เธอจะครองเหรียญทองในครั้งนี้
ซูเบดาร์ นีราจ โชปรา กลายเป็นนักกรีฑาคนแรกของอินเดีย ที่ได้เหรียญทอง หลังจาก นายทหารชั้นสัญญาบัตรในกองทัพอินเดีย ได้เหรียญทองขว้างจักร ชาย
ลินอย อาชราม เป็นชาวอิสราเอล คนแรกที่ได้เหรียญยิมนาสติกลีลา
พี่น้องตระกูลอาเบะ ฮิฟูมิ และ ยูตะ คว้าทองยูโดให้เจ้าภาพนับเป็นพี่น้องคู่แรก คว้าเหรียญทองในกีฬาประเภทบุคคลชนิดเดียวกัน และภายในวันเดียวกัน ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฮิดิลี ดิแอซ เธอเป็นนักกีฬาคนแรกจากฟิลิปปินส์ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ ในเกมยกน้ำหนักหญิง55 กิโลกรัม ซึ่ง ฟิลิปปินส์ รอคอยเหรียญทอง นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรก ปี 1924
หรือจะเป็นการแหวกธรรมเนียมที่นักยิมนาสติกหญิงทีมชาติเยอรมนี สวมชุดแบบปกปิดร่างกายลงแข่งขัน เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ
รวมถึงการยอมรับที่เหมาะสมกับแนวคิดของเจ้าภาพของทอม ดาลี่ย์ นักกระโดดน้ำจากสหราชอาณาจักร ที่ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมาก ที่จะได้พูดว่า ผมเป็นเกย์ และก็เป็นผู้ชนะรางวัลโอลิมปิก”
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ “อาทิ” เท่านั้น
นี่คือความคลาสสิกในครั้งนี้ ที่มี “นักกีฬาหน้าใหม่”, “แชมป์คนใหม่” กับ “โลกใบใหม่” ของโอลิมปิกเกมส์
กับการทำงาน โอลิมปิกเกมส์ สมัยที่ 6 ในอาชีพการ ทำงาน และครั้งที่ 3 บนเวทีสนามจริง จาก ลอนดอน สู่ รีโอ เดอจาเนโร และที่นี่โตเกียว
กับชุดผู้สื่อข่าวที่ต้องก้าวไปสู่ “โลกใหม่” ไปพร้อมกับนักกีฬา กับสิ่งที่ องค์การอนามัยโลก และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หวังใจไว้ว่า โอลิมปิกหนนี้จะเป็น “ต้นแบบ”
ในการดำเนินชีวิตยุคไวรัสร้าย
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านไม่ว่าจะคนละบรรทัด,อ่านจนจบ หรืออ่านมาในทุกๆ วัน ภารกิจต่อเนื่องลากยาวตั้งแต่ฟุตบอลลีกมาจนถึงยูโร และโอลิมปิก ที่แม้ว่า “ร่างแทบแหลก”
แต่ยังคงยิ้มได้
เพราะหนึ่งในโอลิมปิกแห่งความทรงจำครั้งนี้ มีสถิติที่คลาสสิกที่สุดและไม่มีทางลบเลือนไปจากความทรงจำอีก2 เรื่อง
1.เหรียญทองเทควันโดแรกของไทย จาก พาณิภัค
วงศ์พัฒนกิจ
2.เหรียญทองแดงแรกของไทยจากมวยสากลหญิง จาก
สุดาพร สีสอนดี
นี่แหล่ะ “ไทยชนะ” ของจริง!!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี