ติดหมัดมาจากการจับสลากฟุตบอลโลก เมื่อคืนนี้
จับโฟกัสไปที่ กลุ่มจี ที่ประกอบไปด้วย บราซิล, เซอร์เบีย ,สวิตเซอร์แลนด์ และแคเมอรูน
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ปรากฏว่า บราซิล, เซอร์เบีย และสวิตเซอร์แลนด์ ต่างอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หนนี้ก็เช่นเดียวกัน ได้กลับมาซดกันอีก
ครั้งก่อนเป็นอีกหนที่ “ฟุตบอล” เป็นพื้นที่สำหรับการแสดง “สัญลักษณ์ทางการเมือง”ในเกมระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ กับ เซอร์เบีย หนนี้ก็คงจะมีอีกแน่ ๆ เพราะตัวหลักตัวก่อหวอดอยู่กันครบครัน!!!
..........ผมเคยเขียนเรื่อง “ลูกหนังพลัดถิ่น” อย่างละเอียดยิบไปให้อ่านกันเมื่อครั้งเกมคัดเลือก ยูโร 2016 แอบคิดอยู่ในใจว่า มันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่
แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ บอลโลก 2018 !!!
+++++++++++++++
เรื่องราวต้องท้าวความกลับไปก็คือ ในย่านนี้มีการมีการหลอมรวมหลากหลายวัฒนธรรม อย่างเช่น แอลเบเนีย
พวกเขาที่รับประเพณีสื่อต่อจาก กรีก, โรม และเวเนเชี่ยนส์
มีพื้นที่อยู่ติดกับ กรีซ, ยูโกสลาเวีย, โคโซโว, เซอร์เบีย และทางออกสู่ทะเลเอเดรียติค
แต่เนื่องมาจาก “สงคราม” ในแดนที่ใกล้เคียงอย่าง “โคโซโว” ที่มีประชากรส่วนใหญ่เชื้อสายแอลเบเนีย ทำให้พวกเขามาเตะบอลยูโร ด้วยการมีนักบอลถึง 9 คนเกิดในโคโซโว ดินแดนที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย หรือ อดีตยูโกสลาเวีย ตั้งแต่จบสงครามบอลข่าน ปี 1913
ยังผลก็คือเกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่างประชากรเชื้อสายแอลเบเนียน กับเชื้อสายเซิร์บ เพราะ แอลเบเนีย มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับ เซอร์เบีย โดยมี โคโซโว คั่นกลาง ซึ่งดินแดนนี้มีกลุ่มชาติพันธุ์แอลเบเนียเป็นชนส่วนใหญ่
ไม่แปลกที่จะปะทะกันง่าย เพราะมันเปราะบางมาก ๆ
เรื่องนี้ได้ก่อตัวสั่งสมเรื่อยมาและนำไปสู่การทำสงครามหลายครั้ง ก่อนจะปะทะกันในสนามฟุตบอลในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2015 เกิดความวุ่นวายที่สนาม ปาร์ติซาน สตาดิโอน
เกมนั้นนับเป็นหนแรกตั้งแต่ปี 1967 ที่ แอลเบเนีย ยกพลมาเตะกับ เซอร์เบีย ถึงถิ่น โดยก่อนแข่ง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้ทำการสั่งห้ามแฟนบอลทีมเยือนตามมาเชียร์เป็นอัน เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุรุนแรง จากการเมือง
++++++++++++++
ผ่านได้เพียงครึ่งชั่วโมงก็มี “โดรน” หรือ เครื่องบินเล็กไร้คนขับลำหนึ่งบินเข้ามาในสนาม พร้อมกับธงกลุ่มชาตินิยมแอลเบเนีย
ธงดังกล่าวที่มีภาพของ อิสมาอิล เกมาลี่ ผู้นำการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การประกาศอิสรภาพจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน และก่อตั้งรัฐแอลเบเนีย ปี 1912 กับ อิซ่า โบเลตินี่ ผู้นำการประท้วงของชาวแอลเบเนียเมื่อปี 1910
นอกจากธงกลุ่มชาตินิยมแล้ว รวมถึงสัญลักษณ์แผนที่”เกรตเตอร์ แอลเบเนีย” อีกด้วย
“เกรตเตอร์ แอลเบเนีย” มาจาก ดินแดนที่กลุ่มชาตินิยมชาวแอลเบเนีย มีความประสงค์ให้เกิดขึ้น นอกเหนือจาก แอลเบเนีย กับ โคโซโว ยังมีพื้นที่คลอบคลุมส่วนหนึ่งของ เปรเซโว, บูยาโนวัช กับ เม็ดเวด้า ใน เซอร์เบีย, ดินแดนทางตะวันออกของมอนเตเนโกร, ตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือของมาซิโดเนีย และ ตะวันตกเฉียงเหนือของกรีซ
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสับสนกับเหตุการณ์ ปรากฏว่า สเตฟาน มิโตรวิช เซนเตอร์ฮาล์ฟเซอร์เบีย พยายามดึงธงลงมา ทำให้นักเตะแอลเบเนีย ไม่พอใจ ก่อนจะเกิดการชุลมุน จนเหตุการณ์บานปลายมีการปะทะกันอย่างรุนแรงของนักบอลทั้งสองทีม รวมไปถึงแฟนบอลเซอร์เบียบางรายที่ลงมาในสนาม ทำให้ มาร์ติน แอ็ตกินสัน ผู้ตัดสินจากอังกฤษ ต้องสั่งนักเตะเข้าห้องพักโดยด่วน และหลังหยุดไปนาน 30 นาที จึงมีการประกาศยุติการแข่งขันในนาทีที่ 41
แน่นอนเมื่อมีการปะทะกันมานับร้อยปี ประชาชนของแอลเบเนีย ที่อยู่แถบนั้นก็ลี้ภัยไปตามที่ต่าง ๆ ในยุโรป และเป้าหมายที่พวกเขาไปพักพิงแห่งใหม่
หนึ่งในเป้าใหญ่ก็คือ “สวิตเซอร์แลนด์”
คือลี้ภัยจะด้วยความเต็มใจหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ พวกเขามีความสุขมากกว่าที่แดนสงครามแน่นอน
......มาถึงเหตุการณ์ในบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
++++++++++++++
ประเทศสวิส คือ ดินแดนแห่งการลี้ภัยของพวกแอลเบเนีย
ตัวอย่างชัดเจนคือ กรานิต ชาก้า ที่ครอบครัวอพยพจากโคโซโว มาอยู่ บาเซิ่ล ตั้งแต่ยังไม่เกิด ก่อนที่เขาเลือกเล่นให้ทีมชาติสวิส ส่วนพี่ชายคือ ตูลองต์ ชาก้า เลือกเล่นให้ทีมชาติแอลเบเนีย!!!
พ่อของ ชาก้า เคยถูกคุมขังในอดีตยูโกสลาเวียเพื่อรณรงค์เพื่อสนับสนุนอิสรภาพแห่งโคโซโว
อีกคนคือ เชอร์ดาน ชาคิรี่ ปีกหุ่นมะขามครึ่งข้อ เขาเกิดที่เมืองจิลัน ทางตะวันออกของโคโซโว ซึ่งครอบครัวของเขาอพยพจากแดนสงคราม ในปี 1992 ซึ่ง ชาคิรี่ อายุแค่ขวบเดียวเท่านั้น!!!
รวมไปถึง บาเลริม เซไมลี่ ชาวแอลเบเนีย จากโบโกวินเย่ ในมาซิโดเนีย, แฮริส เซเฟโรวิช เป็นบอสเนีย, มาริโอ คาฟราโนวิช เป็นบอสเนีย และโจซิป เดอร์มิช เป็นโครเอเชีย แต่ที่น่าสนใจก็คือ ชาก้า กับ ชาคิรี่
ถือเป็นความบังเอิญแบบพอดี หรือว่าชะตาฟ้าลิขิตให้ทั้งคู่พังประตูได้ในเกมดังกล่าวนี้!!!
ท่าดีใจของทั้งสองคน นั่นคือ เอาสองมือแสดงสัญลักษณ์ เพื่อให้ดูเหมือน “นกอินทรีสองหัว”
ที่อยู่บนธงประจำชาติของแอลเบเนีย
แน่นอนว่า เป็นการแสดงออกสัญลักษณ์ทางการเมือง และมีแนวโน้มที่จะทำให้ความตึงเครียดทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ว่า ชาคิรี่ ยังบอกว่าไม่มีอะไร แต่มันมีอะไรในนั้นแน่ ๆ
เนื่องจาก อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช หัวหอกเซิร์บ ก็ออกมาบอกว่า ถ้ารักกันซะขนาดนั้น
ทำไมไม่ไปเล่นให้ โคโซโว กันเลยล่ะ!!!
***************
อย่าลืมว่า เคยเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดอย่างที่สุด เมื่อ เซอร์เบีย ส่งกองทัพฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมในโคโซโวในปี 1998 กระทั่งในเดือนมิถุนายน 1999 สหประชาชาติ ได้ส่งทหารนาโต้ 40,000 คนเข้ารักษาความสงบในโคโซโว จึงกลายเป็นสงครามระหว่าง ทหารเซิร์บ กับ ทหารนาโต้ สุดท้าย เซอร์เบีย ถอนทัพหลังโดนยำอย่างหนักถึง 3 เดือนเต็ม ๆ
จากนั้น โคโซโว จึงได้ชื่อว่าเป็นแคว้นหนึ่งของเซอร์เบีย เพียงในนามเท่านั้น เพราะการบริหารงานทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ โดยมีโดยกองกำลังทหารของสหประชาชาติ นำโดย นาโต้ เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในประเทศ
ยิ่งการประกาศเอกราชของโคโซโวในปี 2008 ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเซอร์เบียกับโคโซโว เลวร้ายยิ่งขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลเบลเกรดยังคงถือว่า โคโซโว เป็นจังหวัดหนึ่งของเซอร์เบีย แม้ว่า โคโซโวจะได้รับการรับรองจากหลายประเทศทั่วโลกให้เป็นรัฐเอกราชแล้วก็ตาม อาทิ สหรัฐ, ฝรั่งเศสหรือ สหราชอาณาจักร รวมถึงไทย
ส่วนพวกที่หนุนเซิร์บ อาทิ รัสเซีย กับ สเปน
ที่สำคัญหนนี้มาระเบิดอารมณ์กันที่รัสเซีย คอยตามดูกันให้ดี เรื่องนี้ไม่ได้จบง่าย ๆ เพราะ”ความรู้สึก”อย่างที่ ชาคิรี่ บอก นี่คือเรื่องใหญ่
มันไม่ใช่แค่”อารมณ์ชั่ววูบ” มันไม่ใช่แค่”ความรู้สึก”
แต่นี่คือหมายเหตุแห่งชาติพันธุ์!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี