การเปิดตัวมาสคอตบอลโลก 2026 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลายคนชอบ และหลายคนไม่ชอบ เป็นธรรมดาของมนุษย์ขี้เหม็น
ครั้งนี้มีให้สะสมกันถึง 3 ตัวด้วยกัน
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศ สัญลักษณ์ตัวนำโชค บอลโลก 2026 หรือ "มาสคอต" ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยครั้งนี้มีทั้งหมด 3 ตัว เพราะเจ้าภาพมี 3 ชาติครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ตัวแรกชื่อ "คลัตช์"(Clutch) สัญลักษณ์ตัวแทนสหรัฐอเมริกา เป็น “นกอินทรีหัวขาว" หรือ นกอินทรีหัวล้าน สวมชุดเยือนสีน้ำเงินของทีมชาติสหรัฐอเมริกา โดย “พญาอินทรี" เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสัญลักษณ์ของตราประทับตั้งแต่ ค.ศ. 1782 นี่คือนกประจำชาติอย่างเป็นทางการของดินแดนแห่งเสรี
ตัวที่สอง ชื่อ "เมเปิ้ล"(Maple) สัญลักษณ์ตัวแทนแคนาดา เป็น ”กวางมูส" เมเปิ้ล สวมชุดเหย้าสีแดงของประเทศ มาสคอตนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจจากใบเมเปิลของแคนาดา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศ
ตัวที่ 3 ชื่อ "ซายู"(Zayu) สัญลักษณ์ตัวแทนเม็กซิโก เป็น เสือจากัวร์ สวมชุดสีเขียวของจังโก้ โดย ซายู เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนวัฒนธรรมโบราณที่เชื่อว่ าเสือจากัวร์ มีความเชื่อมโยงกับอารยธรรม อาทิ ชาวมายา ที่ได้มอบความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ให้กับเสือจากัวร์ โดย เม็กซิกันโบราณ เชื่อกันว่า มีการเชื่อมโยงกันระหว่างเสือจากัวร์กับโลกใต้พิภพ และเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ
........ว่ากันถึง มาสคอตฟุตบอลโลก นั้น “ฟีฟ่า” ได้ระบุความเป็นความมา(เหมือนเสียไม่ได้)ของ “มาสคอตตัวแรก” ที่ชื่อว่า “วิลลี่” มีใจความไว้ 3 บรรทัด
แปลไทยเป็นไทย ออกมาว่า “มาสคอตดั้งเดิมและสำหรับใครหลายคน ยังคงเป็นมาสคอตฟุตบอลโลกที่ดีที่สุด นั่นคือ สิงโตของอังกฤษ”
“สวมเสื้อยูเนี่ยนแจ็คพร้อมคำว่า ‘WORLD CUP’ ประทับอยู่ด้านหน้า ถือเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมของเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 1966 ความสำเร็จของ World Cup Willie”
“กลายเป็นผู้บุกเบิกมาสคอตในการแข่งขันกีฬาสำคัญๆ และได้สร้างมาตรฐานให้กับมาสคอตรุ่นต่อๆ มา”
แค่นั่นมันคงไม่พอหรอกสำหรับคนอยากรู้อย่างพวกเรา.....เนอะ
ย้อนกลับไปในปี 1966 ฟุตบอลโลก มีอะไรให้ตื่นเต้นมากมาย และกลายเป็นความทรงจำขั้นสูงสุด
1.จัดขึ้นที่อังกฤษ เป็นครั้งแรก
2.อังกฤษ ครองแชมป์โลกครั้งแรก
3.ถ้วยแชมป์ จูลล์ส ริเมต์(Jules Rimet) หายก่อนแข่ง และถูกพบโดยสุนัขพิคเคิลส์
4.มีมาสคอตแรกอย่างเป็นทางการ
“มาสคอต” ตัวนี้มันมักจะถูกเรียกว่า “สิงโตมนุษย์” ออกแบบโดย เร็ก ฮอย(Reg Hoye) ศิลปินนักวาดภาพอิสระ ประกอบหนังสือเด็ก ซึ่งเป็นของแปลกใหม่สำหรับคนยุคนั้น
ชื่อของ “มิสเตอร์ ฮอย” อาจจะทำหลายคนคิ้วผูกโบว์ แต่ถ้าบอกว่า เขาคือผู้รังสรรค์ภาพประกอบในหนังสือของ เอนิด แมรี ไบลตัน (Enid Mary Blyton) นักเขียนที่มีคนอ่านและแปลผลงานมากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่โลกใบนี้เคยมีมา โดยหนังสือที่เธอแต่งโด่งดังมาทั่วโลกกว่าครึ่งศตวรรษได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือกว่า 700 เล่มและเรื่องสั้นกว่า 10,000 เรื่อง ได้รับการแปลเฉียด ๆ 90 ภาษา ไปยัง 30 ประเทศทั่วโล
ทำให้หลายคนน่าจะพอนึกภาพออก
........มิสเตอร์เร็ก ฮอย อาศัยอยู่ที่เมืองมาร์โลว์ มณฑลบักกิงแฮมเชอร์ กับครอบครัว เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ออกแบบมาสคอตให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) เพื่อใช้ในฟุตบอลโลกปี 1966
เขาออกแบบมาสคอตได้ 4 แบบ คือ เด็กชาย 1 แบบและสิงโต 3 แบบ
หนึ่งในมาสคอตสิงโตที่เขาออกแบบ นำมาจาก “ลีโอ” ลูกชายของเขา กลายเป็นมาสคอตประจำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน เด็กชายลีโอ ฮอย คือ “ดร. ลีโอ ฟรานซิส ฮอย” ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง เป็นศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์
“คุณพ่อมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้ามากเมื่อได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของตัวละครที่เขาต้องการถ่ายทอดออกมา” ลีโอเ ปิดเผย โหร์โฟร์ทู “ท่านไม่ได้รอดพ้นจากการถูกเสนอแนะเลย”
“แต่แนวคิดของท่านบนกระดาษนั้นถือเป็นที่สิ้นสุดและขึ้นอยู่กับการแก้ไขของท่านเท่านั้น!!!!!!”
BBC เปิดบทสัมภาษณ์ของ ดร.ลีโอ เมื่อหลายปีก่อน ว่า เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากในตอนนั้นที่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลก และบ้านของเราได้รับการนำเสนอให้ออกแบบ “มาสคอต” และชุดวอร์มที่มีตราสินค้าสำหรับสวมใส่เมื่อถูกสื่อมวลชนถ่ายภาพถึงบ้าน
"มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่มาก พ่อของผมประสบความสำเร็จอย่างมากกับเอนิด ไบลตัน แต่เมื่อ World Cup Willie เริ่มขึ้น มันก็น่าตื่นเต้นมาก เพราะความสนใจทั้งหมดนั้นอยู่ที่มาสคอตตัวนี้”
วิลลี่ อยู่ในคราบไคลของสิงโตการ์ตูนดุจมนุษย์สวมเสื้อฟุตบอลยูเนียนแจ็คและผมทรงม็อบท็อปสไตล์ยุค 60
“พ่อของผมกับวอลเตอร์ ทัคเวลล์ ตื่นเต้นกันมาก โดย วอลเตอร์ เป็นนักธุรกิจที่ฉลาดหลักแหลมและใส่ใจเรื่องการเงิน ขณะที่ พ่อของผมดีใจกับผลงานศิลปะที่ีมีชีวิตของเขา”
“นอกจากค่าธรรมเนียมการออกแบบแล้ว พ่อและครอบครัวของเรายังได้รับสิทธิพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ด้วย แต่ผมไม่คิดว่า พ่อต้องการอะไรมากกว่านั้น เช่นเดียวกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันหลายคน เพราะพวกเขาเพิ่งผ่านสงครามโลกกันมา และมีความสุขที่ได้กลับบ้าน”
“มาสคอต ได้รับความสนใจอย่างมากจากเยอรมนีตะวันตกและสหภาพโซเวียต ซึ่งถือเป็นเรื่องพิเศษมาก ทุกคนต่างร่วมเฉลิมฉลองกีฬาโดยปราศจากลัทธิชาตินิยมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน"
นับเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสสินค้าบูมที่เกิดขึ้นพร้อมกับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติส่วนใหญ่ทันที............
จนเป็นที่มาทำให้อีก 2 ปีต่อมา “โอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว 1968” เริ่มมีมาสคอตอย่างไม่เป็นทางการ ที่เกรอน็อบส์ ประเทศฝรั่งเศส และปี 1972 โอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ก็กำเนิดมาสคอต อย่างเป็นทางการ
หลังจาก “มาสคอต” ตัวนี้ดังระเบิดระเบ้อ นี้ถูกนำไปใช้ในการออกแบบมาสคอตเพิ่มเติม โดยคุณฮอยได้รับมอบหมายให้ออกแบบตัวละครหมีขั้วโลกให้กับสวนสัตว์ลอนดอน และ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่ไม่มีตัวละครใดเลยที่จะโดดเด่นไปกว่าผลงานชิ้นแรกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น
ดร.ลีโอ กล่าวว่า มาสคอตวิลลี่ ถูกใช้กับทุกอย่าง ตั้งแต่ผ้าเช็ดจานไปจนถึงผ้าคลุมเตียงและแก้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นสินค้าที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ในตอนนั้นมันยังใหม่มาก
"พ่อของผมรักชาติมาก ท่านจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความตื่นเต้นที่มาสคอตตัวนี้ได้รับ ไม่ได้ถูกจดจำแค่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนรุ่นเดียวกับผมจากประเทศอื่น ๆ ด้วย"
ก่อนที่ เร็ก ฮอย จะเสียชีวิตในปี 1987 แต่ มาสคอต 1966 ของเขายังคงเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจาก อิทธิพลของเขาที่มีต่อการสร้างแบรนด์กีฬาทั่วโลก
ยิ่งเมื่อผสมโรงกับการเป็นแชมป์โลกครั้งแรกของอังกฤษ ยิ่งทำให้ มาสคอต ตัวนี้ เจ้าวิลลี่จึงเป็นหนึ่งในภาพจำมาโดยตลอด
เมื่อปี 2007 สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ชนะคดีความ เพื่อขอให้บริษัทหยุดการนำโลโก้และชื่อมาสคอตของเขาไปใช้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
เอฟเอ ต้องการทำให้ทุกอย่างถูกต้อง และไม่ต้องการให้ “ไอค่อนแห่งมาสคอต” หรืออีกหนึ่ง “บิดาเชิงสัญลักษณ์” ต้องถูกใช้ฟรี ๆ เมื่อพิจารณาถึงความนิยมของเขาทั่วโลก
เพราะปัจจุบันนี้ ของขวัญจาก เร็ก ฮอย ที่มอบให้กับโลกแห่งกีฬาตั้งแต่ปี 1966 ยังคงสร้างคุณค่า และได้กลายเป็นธุรกิจมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์แล้ว
ขณะที่ ดร.ลีโอ ขอบคุณในความหวังดีของเอเอ ซึ่งตัวเขากับครอบครัวนั้น “ไม่ได้กังวลอะไร” เพราะสิ่งที่พ่อทำไว้นั้นยิ่งใหญ่
นี่คือ ชัยชนะของอังกฤษเป็นช่วงเวลาแห่งการจุดประกายความคิด
เป็นการสร้างความนิยมและค่านิยมที่ถูกต้องขั้นตำนานโลก
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี