‘เชลซี’วูบ!‘ทูเคิ่ล’ไม่สบอารมณ์แพ้บอลยุโรป

โธมัส ทูเคิ่ล คุมทีมเชลซีเป็นครั้งที่ 100 เมื่อวันอังคาร แต่ไม่มีการฉลองอะไรใด ๆ หลังเกม หลังจากแข้งจากแดนที่ดินแพงแห่งลอนดอน ไม่ปะติดปะต่อกันในการเล่น ก่อนจะแพ้พลิกล็อก 0-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก กับ ดินาโม ซาเกร็บ ส่งแรงกดดันที่ดูเหมือนจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ให้กับกุนซือชาวเยอรมี และนักเตะของเขา

จบเกม ทูเคิ่ล แทบไม่อยากจะพูดอะไร หลังจากที่เชลซีพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 ใน 7 เกมในทุกรายการดวลแข้งฤดูกาลนี้

“ชัดเจนว่าเราไม่ได้มีฟอร์มที่ดี เราไม่มีสมาธิอยู่ที่นั่น ผมไม่เข้าใจ ตกลงเราต้องอยู่ที่ไหน และอยู่ที่ไหนกันแน่ มันก็คือเรื่องของตัวผม มันอยู่ที่เรา เราต้องหาทางแก้ไข ในขณะนี้ ทุกอย่างขาดหายไป มีหลายอย่างมากเกินไปที่จะวิเคราะห์ความผิดพลาด ซึ่งผมเป็นส่วนหนึ่งของมัน ผมโกรธตัวเอง ผมโกรธที่เห็นการเล่นแบบนี้ของเรา ผมไม่เห็นว่าเรากำลังจะกลับมาได้เลย”

“เราต้องดีขึ้นกว่านี้อีกมาก ทุกคนรู้ดีว่า มันยังไม่จบ เราไม่มีความสุข แต่ผมหวังว่าเรากำลังไปในทางที่ดี ไม่กลับมาเล่นแบบนี้อีก เพราะมันสร้างความประหลาดใจอย่างแท้จริงเต็มสองตาที่ทุกคนได้เห็น”

เชลซี ถือได้ว่า เป็นหนึ่งในทีมที่เปลี่ยนวงการฟุตบอลอังกฤษ นับจากการได้ โรมัน อับราโมวิช ซื้อทีมเมื่อปี 2003 พวกเขามีช่วงเวลาที่น่าทึ่งในการจับจ่ายใช้สอยในตลาดนักเตะ ทำให้ตลอด 19 ปีในฐานะเจ้าของทีม “เสี่ยหมี” นำพา สิงห์บลูส์ คว้าถ้วยรางวัลไป 20 ชิ้น รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัยและแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย

เมื่อเขาถูกบังคับให้ขายสโมสรเนื่องจากการเชื่อมโยงของเขากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และเกิดความยากลำบากนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้น แต่สุดท้าย ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของคนใหม่ ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ อับราโมวิช เคยทำ นั่นก็คืออนุญาตให้ ทูเคิล ซื้อตัว และอนุมัติเงินให้สาดลงไปอย่างเต็มที่

การใช้เงินเกือบ 300 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ เชลซี กลายเป็นเบอร์ 1 ที่ใช้เงินซื้อนักบอลสูงที่สุดในยุโรป แต่ดูเหมือนว่าการเซ็นสัญญายังไม่สัมฤทธิ์ผล

ทูเคิล และทีมของเขา กำลังดิ้นรนอย่างหนัก

กองหลังตัวกลาง คาลิดู คูลิบาลี่ และเวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ราคารวมกันมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ยังไม่ได้สร้างความประทับใจในแนวรับที่บิ้วอินขึ้นมาใหม่ ขณะที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง ที่ลงเล่นเป็นครั้งแรกจะต้องใช้เวลาในการปรับตัว

ราฮีม สเตอร์ลิง นักเตะทีมชาติอังกฤษ เล่นได้เงียบสนิทในนัดนี้ และมาร์ค คูคูเรลลา แบ็คซ้ายชาวสเปนมูลค่า 60 ล้านปอนด์ ลงสำรองแต่แทบไม่มีผลอะไรเลย

เชลซี ล้มเหลวในการรักษาคลีนชีตในหกเกมที่ผ่านมา นับตั้งแต่นัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีกด้วยชัยชนะ 1-0 ที่เอฟเวอร์ตัน

เกมนี้เป็นอีกครั้งที่เหลือเชื่อเมื่อพวกเขาแพ้ด้วยประตูชัยของ มิสลาฟ ออร์ซิซ ผู้ที่เคยทำแฮตทริกชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในยูโรปาลีกในฤดูกาล 2020-21

“ผลงานนี้เกิดขึ้นจากการที่เราด้อยประสิทธิภาพ เรามีเรื่องราวเหมือนเดิมเช่นเคย เราไม่ตื่นตัว ช่วง 15-20 นาทีแรกมันไม่ดีเลยกับการเสียประตู และเสียง่าย ๆ แค่ 13 นาทีผ่านไป ทำให้เราต้องดิ้นรน เราต้องบีบตัวเองมากขึ้น และเราไม่เคยอยู่ในจุดสูงสุดของเกมเลย” ทูเคิ่ล ย้ำอีกครั้ง

“ผมไม่รู้ว่าการแสดงนี้มาจากไหน มันคือการขาดความหิวกระหายในการเล่น, การขาดความเข้มข้นในตัวเรา, การขาดความมุ่งมั่นในการเอาชนะเข้าปะทะ ดังนั้นคุณไม่สามารถคาดหวังที่จะชนะเกม หากคุณทำไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ ทั้งในพรีเมียร์ลีก หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก”

ทูเคิล พา เชลซี คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกสมัยที่ 2 ได้ในระยะเวลาเพียง 4 เดือนหลังจากได้รับการแต่งตั้งในเดือนมกราคม 2021 ต่อด้วยแชมป์ซูเปอร์คัพ และสโมสรโลก ที่ได้แชมป์ตามมาอย่างรวดเร็ว แต่ฤดูกาลที่แล้วจบลงโดยไร้ถ้วยรางวัล ตอนนี้เขากลับอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน และขยับขึ้นมาเป็นเต็งที่จะถูกปลดจากตำแหน่ง

โจ โคล อดีตแนวรุกยุคต้นความสำเร็จของ โชเซ่ มูรินโญ่ บอกว่า เชลซี ต้องการที่สุดก็คือ สมดุล นั่นคือกุญแจสำคัญ กองหลังคนใหม่ต้องดึงให้ทั้งหมดเล่นอย่างเข้าขากันด้วยกันโดยเร็วที่สุด

“มีหลายเรื่องที่เราต้องดีกว่านี้ เราผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน ผมมองว่า คูลิบาลี่ ยืนผิดตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการเล่นด้านข้างที่เป็นอาวุธสำคัญ กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ขาดความมั่นใจ เพราะพวกเขาได้บอลแล้วไม่รู้จะจ่ายไปตรงไหน ขาดเป้าหมาย และทำให้ขาดการแอสซิสต์”

พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพที่เชลซีมีอยู่ และอาจจะมากกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างในแทคติคมันไม่ได้เกิดขึ้นในเชิงบวกกับ คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเยค อย่างน่าเสียดาย

#บีแหลมสิงห์