วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผมผิดเอง! ‘ชล็อต’ร่ายยาว ยืดอกรับทำ‘หงส์’พ่ายฟอเรสต์ยับคาบ้าน
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พลาดท่าพ่ายแพ้คาบ้านอย่างยับเยินให้กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปแบบไร้หูรูด 0-3 ทำให้พวกเขาลงเล่นฟุตบอลลีกในฤดูกาลนี้ 12 นัดชนะ 6 แพ้ไป 6 อยู่ครึ่งล่างของตาราง
ภายหลังเกม อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ ของลิเวอร์พูล ยอมรับว่า เป็นความรับผิดชอบของตัวเขาเอง ไม่ว่าเราจะชนะหรือแพ้ มันเป็นความรับผิดชอบของตัวเขา
“สิ่งที่ผมเห็นอีกอย่างคือทีทีมเรากลับมาเล่นได้เหมือนเดิม และแฟนบอลของเราก็อยู่จนจบเกม เชียร์ทีมจนจบเกม และนักเตะก็พยายามต่อไปจนจบเกม สิ่งที่ผมเห็นในวันนี้ แต่ไม่ใช่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งการเตะที่บ้านซิตี้(ก่อนฟีฟ่าเดย์) เราไม่ใช่ทีมเดียวที่ฟอร์มตกในครึ่งแรก และในทุกเกมที่เราเล่น เราเป็นทีมที่ครองเกมได้เหนือกว่า และเราสามารถสร้างโอกาสได้ แต่ผลลัพธ์มันไม่ได้”
“เรื่องผลการแข่งขันและผลงานของทีมนัดนี้ ย่ำแย่แค่ไหน วัดผลได้ยาก แต่แน่นอนว่ามันแย่มาก การได้เล่นในบ้าน แพ้ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเจอทีมไหน แน่นอนว่ามันเป็นผลการแข่งขันที่แย่มากๆ”
“ผลแบบนี้มันไม่สามารถคาดคิดได้เลย ถ้าหากดูจากครึ่งชั่วโมงแรกของเกม เพราะในความคิดของผม มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเรา ผมไม่เคยเห็นเราสร้างสรรค์เกมได้มากขนาดนี้ในครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อาจจะตลอดทั้งฤดูกาลนี้เลยก็ได้”
“ผมไม่แน่ใจ เพราะตอนนี้ผมจำทุกเกมไม่ได้แล้ว แต่เราสร้างสรรค์เกมได้เยอะมาก แต่ครั้งแรกที่พวกเขามาถึงกรอบเขตโทษของเรา พวกเขายิงประตูได้ และมันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณพลาดโอกาสของตัวเอง และมาเสียประตู มันทำให้หลายอย่างของเราผิดพลาดไป”
เรื่องของสมดุลในการจัดตัวนั้น ชล็อต กล่าวว่า เราต้องเริ่มเกมด้วยกองกลางในตำแหน่งฟูลแบ็คขวา เพราะฟูลแบ็คของเราทั้งสองคนมีอาการบาดเจ็บ หลายคนพูดถึง โจ โกเมซ เป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นในตำแหน่งนั้นได้ แต่เขาไม่ได้ฝึกซ้อมมาตลอดทั้งสัปดาห์ ผมไม่คิดว่าเขาพร้อมลงสนามอย่างเต็มที่ เมื่อคุณตามหลัง 0-2 ในความคิดของผม การส่งกองหลังลงสนามไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริงๆ”
“ปกติแล้วพวกคุณก็ชอบกับการที่เราตามหลังแล้วต้องส่งตัวรุก อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ผมทำ คุณชอบที่จะส่งผู้เล่นที่สามารถทำประตูได้ลงสนาม แต่มันไม่ได้ผลลัพธ์”
“หลังจากที่ผมถอดอิบราฮิมา โกนาเต้ ออก เราก็ได้ใช้กองกลางสองคนในไลน์อัพสุดท้าย(3-3-4) นั่นคือเหตุผลที่ผมส่งฮูโก้ เอคิติเก้ ลงมาแทน เพื่อดึงนักเตะที่สามารถทำประตูได้ และก่อนที่เราจะเสียลูกสุดท้าย ผมเลือกใช้แผน 3-3-4 เพราะหลังจากเปลี่ยนตัวครั้งแรกแล้ว ผมรู้สึกว่าเราสร้างโอกาสได้ไม่มากนัก ผมรู้ เรารู้ คุณอาจจะรู้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ผมอยู่ที่นี่มาหนึ่งปีครึ่งแล้วนะ”
“ถ้ายิงประตูได้ในสนามแห่งนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ คุณต้องการประตู ต้องให้อะไรเกิดขึ้นบ้าง และหลังจากเปลี่ยนตัวครั้งแรกกับฮูโก้ ผมไม่คิดว่าเราจะสร้างโอกาสได้มากนัก ผมคิดว่าตอนที่เราตามหลังอยู่ 0-2 เราลองเสี่ยงดู แต่มันก็ไม่ได้ผล เพราะสองวินาทีต่อมาเราก็ตามหลังอยู่ 0-3
เรื่องของประตูแรกของฟอเรสต์ “ชล็อต” บอกว่า ระหว่างเกม ผู้คนบอกผมว่าเขาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ผมเลยไม่กังวลเลย เขาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าหรือเปล่า แน่ใจ 100% ไหม? แล้วผมก็ต้องดูย้อนหลัง แต่ผมเห็นเราเสียไป 3 ประตูในฤดูกาลนี้ เสียสองประตูกับแอตเลติโก มาดริด และเสียหนึ่งประตูกับ ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งอยู่ในสายตาของผู้รักษาประตูมากกว่าประตูที่เราทำได้ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
“แต่ผมคิดว่าตอนนี้คงไม่มีใครอยากฟังผมพูดถึงการตัดสินของกรรมการหรอก!!!”
“เพราะถ้าคุณแพ้ฟอเรสต์ 0-3 ผมควรจะดูตัวเองและทีมก่อน แทนที่จะดูตรงนั้น มันแสดงให้เห็นว่าลูกตั้งเตะสามารถเปลี่ยนโมเมนตัมและเปลี่ยนเกมได้อย่างไร เพราะก่อนที่เราจะเสียประตูแรก ผมแค่รอให้เราทำประตูได้ หลังจากนั้นเราก็แทบจะไม่สร้างโอกาสได้อีกต่อไป”
“อย่างที่ผมบอก ช่วงหลังๆ นี้ เรามักจะพลาดโอกาสอยู่เสมอ พลาดโอกาสในการขึ้นนำแล้วพอเสียประตูไป โอกาสนั้นก็หายไป แต่มันจะไม่เกิดขึ้นตลอดทั้งฤดูกาล เราจำเป็นต้องมีช่วงเวลาแห่งพลังที่จะทำประตู ถ้าคุณเล่นได้ดีและนำ 1-0 ทีมตรงข้ามจะรู้สึกว่า 'เราเล่นมาครึ่งชั่วโมงแล้ว และตามหลัง 0-1 และเราแทบจะไม่เห็นบอลเลย...' แต่กลับกลายเป็นว่าตรงกันข้าม พวกเขาได้รับพลังมหาศาลจากการทำประตู 1-0 ผมเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ในสถานการณ์ปกติผลลัพธ์คงจะแตกต่างออกไป แต่ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และคุณต้องทำอะไรมากกว่านั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากกว่าตอนที่ทุกอย่างเป็นไปในทางของคุณ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า งานที่เขาทำในฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือแชมป์ แต่ในปัจจุบันอาชีพของเขาดูไม่มั่นคงเท่าไหร่ มันจะมีทางออกในเร็ววันนี้หรือไม่นั้น “ชล็อต” ตอบว่า แน่นอนว่าต้องมีทางออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากคุณภาพของนักเตะที่มีอยู่
“ผมคิดว่าไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ไม่ว่าคุณจะจัดตัวจริงหรือเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเมื่อมองย้อนกลับไป คุณมักจะคิดว่า เราจะทำได้ดีกว่านี้ตรงไหน เราจะปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง แต่นั่นไม่ใช่การสงสัยในตัวเอง”
“ผมอยากจะย้ำอีกครั้งว่า ผมต้องรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในปัจจุบัน คุณยืดอกรับเมื่อคุณชนะ แต่คุณก็รับผิดชอบเมื่อคุณแพ้เช่นกัน แม้ว่าคุณจะถามคำถามนี้กับผม แต่ไม่ได้พูดถึงการตัดสินของกรรมการหรือข้อแก้ตัวอื่นๆ ผมก็ยังหาข้อแก้ตัวได้ไม่มากพอที่จะทำให้เราได้ผลการแข่งขันแบบนี้ ซึ่งมันยังห่างไกลจากคำว่าดีพอ และผมก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนั้น”
“นักบอลไม่ได้ประหม่า ผมไม่เห็นนักเตะคนไหนที่ขาดความมั่นใจหรือลังเลเลยในการทำประตู อย่างเช่น อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ผมคิดว่าเขายิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ถูกป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน สิ่งเดียวที่ผมเห็นคือเราสร้างสรรค์โอกาสได้ และการจบสกอร์เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่การบล็อกและการเซฟก็มีคุณภาพเช่นกัน”
“ปีกของเราทั้งสองฝั่งทำงานกันได้ดี แต่เรามีปัญหาในการสร้างโอกาส เพราะการถูกตั้งรับกันแน่นมาก ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นหลายคนอยู่ในกรอบเขตโทษ แล้วถ้าคุณลองเล่น 75 นาทีด้วยกองหลังสี่คน กองกลางสามคน และกองหน้าสามคน ถึงแม้ว่ากองหลังจะเป็นกองกลาง แต่นั่นก็มาจากอาการบาดเจ็บ”
“ชล็อต” ทิ้งท้ายว่า แนวคิดก็คือ ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนั้นด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นฝ่ายรุก ซึ่งผมก็ทำไปแล้วในฤดูกาลที่แล้วเช่นกัน ถอด โกนาเต้ ออกแล้วส่ง ดีโอโก้ โชต้า ลงสนาม และอีกหนึ่งนาทีต่อมา ในเกมเยือนฟอเรสต์เราทำประตูได้
“ตอนนั้นมันดูกล้าหาญมาก แต่ตอนนี้มันคงดูงี่เง่ามากกว่า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี