วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
คำลาแด่ราชัน! RIP ‘เปเล่’อัญมณีลูกหนังโลก

คำลาแด่ราชัน! RIP ‘เปเล่’อัญมณีลูกหนังโลก

วันศุกร์ ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 13.44 น.
Tag : เปเล่ ไข่มุกดำ ฟุตบอล บราซิล บีแหลมสิงห์
  •  

คำลาแด่ราชัน! RIP ‘เปเล่’อัญมณีลูกหนังโลก

ระหว่าง ปี 1958-1970 ฟุตบอลโลกมีมนุษย์มหัศจรรย์ชื่อว่า “เปเล่”


เพลานั้นคือช่วงเวลาแห่งมหัศจรรย์ฟุตบอลที่โลกใบนี้ได้มี “ทีวี” มีการ “ถ่ายทอดสด” และโลกเริ่มรู้จักกับคำว่า “ฟุตบอล” กันอย่างแพร่หลาย หลังจากหมอกมืดจากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ค่อย ๆ จางไปจากโลกใบนี้

ปี 1958 เป็นครั้งแรกที่ “ฟุตบอลโลกไร้พ่อ” เมื่อ จูลส์ ริเมต์ บิดาแห่งศึกฟุตบอลโลก ได้เสียชีวิตไป วันที่ 16 ตุลาคม ปี 1956 ที่กรุงปารีส ขณะมีอายุ 83 ปี

ฟุตบอลโลกครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ 4 ชาติจากสหราชอาณาจักร เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกัน นั่นคือ อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ

ครั้งนี้ “แซมบ้า” บราซิล เดินทางมาสร้างประวัติศาสตร์บนแผ่นดินไวกิ้ง โดยเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์นอกทวีป และนี่คือปฐมบทของการครองแชมป์โลกสมัยแรกของพวกเขา พร้อมกับกำเนิดซูเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนังที่ครองแชมป์โลก ด้วยวัยเพียง 17 ปี 249 วัน ที่ชื่อว่า “เอ๊ดสัน อรันเตส เดอ นาซิเมนโต้” หรือ เปเล่!!!

เปเล่ ได้โอกาสลงเล่นครั้งแรก คือการออกสตาร์ทรอบแรกนัดสุดท้ายพร้อม ๆ กับ “นกน้อย” การ์รินช่า ในเกมกับ สหภาพโซเวียต นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอลไปตลอดกาล

จากนั้น เปเล่ จะเร่งเครื่องยิงในรอบน็อคเอาท์ และระเบิดแฮททริคในเกมรอบตัดเชือกกับ ฝรั่งเศส และยิงสองประตูสุดสำคัญในนัดชิงชนะเลิศที่โค่น สวีเดน 5-2

ประตูที่ เปเล่ ชอบที่สุดก็คือ การกระดกบอลข้ามศีรษะแนวรับสวีเดน แล้วยิงเข้าไปตุงตาข่าย

ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการกำเนิดของ เปเล่ อัญมณีทรงคุณค่าแห่งวงการฟุตบอล และการให้โอกาสของ บิเซนเต้ ฟิโอล่า กุนซือ

4 ปีต่อมา ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 7 ปี 1962 ที่ชิลี

ฟุตบอลโลก ทำให้ทั่วปฐพีได้รู้จัก “ชิลี” ดินแดนในอเมริกาใต้

พวกเขาปรับปรุงสนามแห่งชาติในกรุงซานติอาโก ให้มีความจุเป็น 77,000 คน จากเดิม 45,000 คน และสร้างสนามใหม่ขึ้นที่ วิน่า เดล มาร์ และอาริก้า แต่มีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจ

สาหัสกว่าก็คือแผ่นดินไหว เมื่อ 22 พฤษภาคม 1960 ด้วยความแรงถึง 9.4-9.6 แม็กนิจูด สั่นสะเทือนไปทั้งแปซิฟิค แรงสุดเท่าที่ดินแดนนี้เคยพบมา ที่เรียกกันว่า The 1960 Valdivia earthquake

สนามที่ใช้จัดการแข่งขันทั้ง 4 สนาม ได้รับความเสียหายอย่างมาก จนเกือบถูก ฟีฟ่า ยกเลิกสิทธิการเป็นเจ้าภาพ แต่ก็สามารถซ่อมแซมได้ทันเวลา

บราซิล ป้องกันแชมป์ไว้ได้ มีการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น ไอมอเร่ โมเรลร่า แต่นักเตะในทีมยังคงมีตัวแกร่งมากมาย และเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากอิตาลี ที่เป็นแชมป์ 2 สมัยติด ด้วยสไตล์ 4-2-4

แม้ว่า เปเล่ จะเจ็บอดเล่นตั้งแต่นัดที่ 2 แต่ขุนพลยอดเยี่ยมเต็มทีมไปหมดทั้ง นีลตัน ซานโต๊ส, ดีดี้, มาริโอ ซากาโล่, วาว่า, การ์รินช่า และอมาริลโด้ โดยนัดชิงปราบ เชโกสโลวาเกีย 3-1 จากการยิงของ อมาริลโด้, ซิโต้ และวาว่า ซึ่งครั้งนี้ บัตรประจำตัวนักเตะของ เปเล่ สะกดชื่อผิดจาก “เอ๊ดสัน” มาเป็น “เอดิสัน” หน้าตาเฉย!!!!

มาในปี 1966 เปเล่ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง และบราซิล แชมป์โลก 2 สมัยตกรอบแรกอย่างเจ็บปวดที่สุด ซึ่งอังกฤษครองแชมป์ด้วยประตูผีที่ไม่ใช่ผัดไท

กระทั่งบอลโลก ครั้งที่ 9 ปี 1970 ที่เม็กซิโก

เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลก เดินทางไปยังทวีปอเมริกากลาง หรือ คอนคาเคฟ และนี่คือ “รุ่งอรุณแห่งฟุตบอลโลก”

มีการถ่ายทอดสดด้วยระบบ “ทีวีสี” เป็นครั้งแรก , มี “ลูกฟุตบอล” ยุคใหม่อย่าง เทลสตาร์ และกำลังจะถ่ายเลือดใหม่ เพราะกำลังจะหมดยุคทองของ เปเล่ ในวัย 30 กะรัต

บราซิล ที่ปวดร้าวจากฟุตบอลโลกคราก่อน เดินหน้ากลับมาด้วยพลังที่มากขึ้นกว่าเดิม ขุมกำลังสุดยอดทั้ง เปเล่, ริเวลลิโน่, ทอสเทา, คาร์ลอส อัลแบร์โต้, เกอร์สัน ก่อนจะก้าวไปเป็นแชมป์โลก ด้วยการต้อน อิตาลี ในนัดชิง ขาดลอย 4-1

มวลเหตุมาจากความยอดเยี่ยมของ บราซิล บวกกับ อิตาลี หมดพลังหลังจากใส่หมดแม็คในรอบตัดเชือกที่พวกเขาน็อค เยอรมันตะวันตก 4-3 ในแมทช์ที่ได้รับการขนานนามว่า "The Game of the Century"

ลูกเซฟด้วยการกระโดดจากเสาแรกไปที่เสาสองของ กอร์ดอน แบงค์ส จากการโหม่งของ เปเล่ ถูกยกให้เป็น "The greatest save of all time" แต่อังกฤษ ผิดพลาดมหันต์แพ้ เยอรมันตะวันตก 2-3 ด้วยการพลาดท่าเปลี่ยน บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ออกจากสนาม ทำให้กลับมาแพ้ทั้งที่นำก่อน 2-0

ท้ายที่สุด เปเล่ ครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 เป็นคนแรกและคนเดียวของโลก ที่มีทีมที่เรียกว่า "The Team of the Century"

ขณะที่ มาริโอ ซากาโล่ เป็นแชมป์โลกทั้งการเป็นนักเตะและกุนซือคนแรก ที่สำคัญก็คือ บราซิล ได้กรรมสิทธิ์ครอบครองถ้วยจูลส์ ริเมต์ แต่เพียงผู้เดียว ในฐานะแชมป์โลก 3 สมัยชาติแรก

…………….นี่คือช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของบราซิล ฟุตบอลโลก 4 สมัย พวกเขาได้แชมป์ถึง 3 สมัย คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงไม่พ้น เปเล่

เรื่องราวของ อัญมณีลูกหนังอันล้ำค่าของโลก ถูกนำมาเปิดเผยอย่างชัดเจนอีกครั้ง ในภาพยนตร์เรื่อง “Pelé (2021)”

ภาพยนตร์สารคดีจะเน้นไปที่ประวัติการเริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติบราซิลที่ละเอียดของเปเล่ รวมไปถึงการฝึกซ้อมและเรียนรู้จากความสำเร็จของเขา

คำพูดของ เปเล่ ประสบการณ์จากการเดินทางออกนอกแผ่นดินเกิดครั้งแรก จาก บราซิล ไปที่ สวีเดน เมื่อปี 1958 นั่นก็คือ "เด็ก ๆ เดินมาแล้วขอจับที่หน้าของผม แล้วก็ดูที่มือของพวกเธอ และคิดว่า สีจากหน้าของผมตกบนมือของเธอหรือไม่"

ผู้เล่าเรื่อง , ผู้ดำเนินเรื่อง คือพระเอกของงานนี้ นี่คือ นักฟุตบอลที่ดีที่สุดหรือเปล่า เราบอกไม่ได้ แต่นี่คือนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ "โลกฟุตบอล"

เอ๊ดสัน อารานเตส เดอ นาสซิเมนโต้ หรือที่โลกรู้จักในชื่อที่ตัวเขาไม่ชอบ นั่นคือ "เปเล่"

ครอบครัวที่เรียกแทนเขาว่า "ดีโก้" ก่อนที่ทั่วโลกจะรู้จักในนามของ "เปเล่" นั่นคือชื่อที่เพื่อนในโรงเรียนใช้เรียกกองหน้าผู้นี้

เปเล่ ถ่ายทอดออกมาทำให้โลกรู้จักประเทศบราซิล และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้านการเมืองที่เข้ามาแทรกแซง การเมืองที่เข้ามาแทรกซึมในทุกวงการ

เขาเกิดมาพร้อมกับช่วงเวลาที่โลกใบนี้กำลังมี"โทรทัศน์" และไม่ว่าจะเปิดไปทางช่องใด ก็จะเห็นนักเตะใส่เสื้อเหลืองถล่มประตูจนกลายเป็นเครื่องหมายการค้า

โลกได้รู้จัก ประเทศบราซิล ก็เพราะ เปเล่

โลกได้รู้จักว่า บราซิล มี เปเล่ ก่อนจะรู้จักกว่า บราซิล มี กาแฟ ด้วยซ้ำไป.............

เรื่องราวของ เปเล่ ถูกถ่ายทอดออกไปนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะเมื่อปี 2016 ในชื่อว่า Pelé: Birth of a Legend ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

นักฟุตบอลแห่งตำนาน กับการยิงประตูมากที่สุดในโลก 1,281 ประตู จาก 1,363 เกม คือสถิติโลกที่บันทึกเอาไว้ในเกม "อย่างเป็นทางการ"

ในนามแห่งทีมชาติ เปเล่ ทำสถิติลงเล่น 92 นัด ซัดไป 77 ประตู

เป็นนักกีฬาคนเดียวที่ครองแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุด 3 สมัย ในปี 1958, 1962 และ 1970

เปเล่ แจ้งเกิดจากชัยชนะบนแผ่นดินสวีเดน กับแชมป์โลกสมัยแรก บนวัยเพียง 17 ปี 249 วัน ด้วยอายุน้อยที่สุดในโลก

ภาพที่เขาร่ำไห้ปรากฏออกไปทั่วโลก จนโฟกัสว่า เด็กคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงยิงประตูได้ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมด้วยทักษะ และเยือกเย็นอย่างยิ่ง พร้อมกับระเบิดประตูได้ถึง 6 ลูก โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ ยิงได้ 2 ลูก

การกระดกบอลข้ามหัวกองหลัง แล้วซัดผ่านนายประตูสวีเดน เข้าไปเสียบตาข่าย คือที่สุดของภาพแห่งความทรงจำ และจะมีภาพนี้อยู่เสมอในเทศกาลฟุตบอลโลก

จากเด็กหนุ่มที่ชีวิตไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีเงินเรียน ต้องไปช่วยพ่อที่เป็นพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ วิธีการซ้อมฟุตบอลของเขาคือ ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถเตะได้

ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ลูกฟุตบอลซะด้วย!!!

........เปเล่ อยากเป็นนักฟุตบอล ทั้งหมดทั้งมวลมาจากการที่ เปเล่ ในวัย 9 ขวบ เมื่อปี 1950 เขาได้เห็นน้ำตาของคุณพ่อเป็นครั้งแรกในชีวิต กับ "โศกนาฏกรรมทางฟุตบอล" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

บราซิล พลิกล็อคแพ้ในนัดชิงดำให้กับ อุรุกวัย 1-2 ที่ชามอ่างยักษ์ "มาราคาน่า สเตเดี้ยม"

ครั้งนั้น เปเล่ และพ่อของเขา "ดอนดินโญ่" ติดตามชมเกมผ่านทางโทรทัศน์ เพราะไม่มีเงินซื้อตั๋วเข้าไปชมเกม เนื่องจากครอบครัวที่ยากจน

เปเล่ บอกว่า ไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงานที่หนัก บาดเจ็บจากฟุตบอลจนต้องเลิกเล่น และมาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่โรงพยาบาล หรือกระทั่งต้องอดมื้อกินมื้อ แต่พ่อก็ไม่เคยร้องไห้ให้ครอบครัวเห็น

อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น เปเล่ หรือ "ดีโก้" ได้เห็นพ่อร้องไห้ เมื่อทีมชาติบราซิลไม่ได้แชมป์โลก สมัยแรก

ทำให้เป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในกาลต่อมา........

เปเล่ ก้าวมาติดทีมชาติ นอกจากฝีเท้าดีแล้ว เขายังโชคดีที่รายล้อมไปด้วยสุดยอดขุนพลที่เคียงข้างเขา ทำให้ บราซิล จากเดิมที่เป็นทีมธรรมดา กลายเป็นราชันลูกหนังโลก

ปี 1958 เขาเล่นเคียงข้างกับ ดีดี้, การ์รินช่า, มาริโอ ซากาโล่ และวาว่า

ปี 1962 เขาบาดเจ็บหนัก แต่ยังมี ดีดี้, การ์รินช่า, ซากาโล่ และวาว่า เคียงข้าง แถมยังมี ซิโต้ กับ อมาริลโด้

ปี 1970 เขาประสานพลังกับ ทอสเทา, ริเวลิโน่, แจร์ซินโญ่, เกอร์สัน และคาร์ลอส อัลแบร์โต้

4 สมัยในการเล่นฟุตบอลโลก เขายิงได้ทุกครั้ง รวมทั้งสิ้น 12 ประตู

ความอัจฉริยะของ เปเล่ นั่นคือ สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก ทั้งที่รูปร่างไม่ได้ใหญ่โตอะไร สูงแค่ 173 เซ็นติเมตร แต่เทคตัวได้ดี และสามารถทำได้ทุกอย่างในการทำให้ทีมได้ประตู

ได้รับการยกย่องว่า "เป็นนักเตะที่ดีที่สุด" จากตำนานนักเตะต่างยุคต่างสมัยทั้ง เฟเรนซ์ ปุสกัส, โยฮัน ครัฟฟ์, ชุสต์ ฟองแตง, บ็อบบี้ มัวร์, เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, รวมไปถึงเพื่อนร่วมรุ่นที่เคียงบ่าเคียงไหล่

เปเล่ เป็นแรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่าง จากการที่ฟุตบอลโลก 1970 ถ่ายทอดสดด้วยระบบภาพสีเป็นครั้งแรก เขาโด่งดังแบบสุด ๆ และการวางตัวอันยอดเยี่ยม

ไม่แปลกที่นักเตะอย่างเขาจะกลายเป็น “เครื่องหมายการค้า” ในวงการลูกหนังโลก พร้อมกับเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกอีกด้วย

ลูกบอลเทลสตาร์ 1970 เป็นลูกหนัง ที่คุ้นตา จนเป็นต้นแบบของการออกแบบลูกฟุตบอลระดับโลก ที่เราเรียกกันตามๆ กันมาว่า "บอลเปเล่" เพราะมันเกิดใน ยุคของ "ไข่มุกดำ" แห่งบราซิล ครองแชมป์โลก เป็นสมัยที่ 3 และต่อมาก็มี "บอลเปเล่" ในบ้านเราให้ฮิตกันเกร่อในยุคต่อๆ มา

"เทลสตาร์" ถูกตั้งชื่อให้เกียรติกับ "เทลสตาร์ 1" ดาวเทียมที่ถูกส่งขึ้นไป เมื่อ 10 กรกฎาคม 1962 โคจรรอบโลกเป็นวงรี โดยใช้การควบคุมการโคจรจากสถานีภาคพื้นดินที่อยู่บนโลก ดาวเทียมดวงนี้ถือว่าเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ใช้ในการสื่อสารอย่างแท้จริง และใช้ส่งรายการโทรทัศน์รวมลงมาด้วย

นั่นก็เพราะว่า บอลโลก ปี 1970 คือครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์

เปเล่ เป็นแรงบันดาลใจหลายอย่าง เพื่อนร่วมรุ่นยังมีคนชื่อจริงชื่อ “เปเล่” สมัยเรียน ปวช.

ยาทากันยุง ก็มียี่ห้อ เปเล่……………

เปเล่ ได้มาไขปริศนาในวัย 80 ปีเล่าย้อนเรื่องราวด้วยตัวเขาเอง เป็นการไขคำตอบทั้งหมดกับคำว่า "แข้งทอง" นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร

จุดกำเนิดการตีลังกายิง, การยิงครึ่งสนาม และการยิงที่สมควรเป็นประตูมากที่สุดแต่ไม่ได้ประตู เกิดขึ้นจากบุคคลคนนี้เพียงท่านเดียว

มีคุณค่าเกินกว่าจะถูกใครมาล้อเลียนเรื่องการวิเคราะห์ของเขาในกาลต่อมา แบบเปรียบกันไม่ได้

มูลค่าของฟุตบอล, มูลค่าของนักฟุตบอล และฟุตบอลถูกหล่อหลอมมาจากเบ้าเดียวกันนั่นคือ เปเล่

สำคัญที่สุดก็คือ ภาพยนตร์ได้สะท้อนความรุนแรง และการกดขี่ทางการเมือง มันส่งผลมาถึงยุคต่อมาที่ "คุณหมอยอดนักเตะ" โซคราเตส ที่แสดงออกทาง "ผ้าโพกศีรษะ" ทั้งในบอลโลก 1982 และ 1986

สุดท้ายก็ประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่ว่า แท้ที่จริงแล้ว “เปเล่” มีชื่อที่ถูกเรียกมาตลอดว่า “ดีโก้” ซึ่งสอดคล้องกับ”คู่เปรียบ”ตลอดกาลอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า

เพียงแต่ มาราโดน่า ชัดเจนเหลือเกินกับการเลือก ฟิเดล คาสโตร จนเป็นเหตุให้เขา”เข้าเหลี่ยม”จนถูกอัปเปหิออกจากบอลโลก 1994

ทำความเข้าใจกันได้ว่า ทำไม เปเล่ ถึงต้องไปปรากฏตัวกับผู้นำเผด็จการ จนเพื่อนสนิทเข้าใจผิด แล้วทำไมถึงกล้าประกาศว่า "ไม่เลือกข้างใด"

คนอยู่"ตรงกลาง"ไม่ได้มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น แต่มัน"มีอยู่จริง"

"เปเล่"คือหนึ่งในตัวอย่างที่เป็น "สังคมของคนที่อยากเป็นกลาง" และ "อยากอยู่ตรงกลาง" เนื่องเพราะไม่ได้รำคาญเพียง "ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" ซึ่งมันก็เยอะมากมาจนถึงโลกปัจจุบัน

การวางตัวของ เปเล่ แสดงให้เห็นถึงอะไรบางอย่างที่ชัดเจน และทำเพื่อสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เพราะชีวิตในหลาย ๆ ครั้ง

ไม่ต้องเลือกข้าง......บ้างก็ได้!!!!

........RIP เปเล่.....................................

#บีแหลมสิงห์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'El Clásico2025\' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง 'El Clásico2025' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง
  • 5ปีของ’อาร์เตต้า’ ยังไม่ถึงเวลาของ’อาร์เซนอล’ 5ปีของ’อาร์เตต้า’ ยังไม่ถึงเวลาของ’อาร์เซนอล’
  • จาก\'ลูกระเบิด\'สู่\'ไซโคลนนรก\' \'มังกรผงาดลาย\'จ้าวซินตง!!! จาก'ลูกระเบิด'สู่'ไซโคลนนรก' 'มังกรผงาดลาย'จ้าวซินตง!!!
  • แต้มสุดท้าย!5แชมเปี้ยนชิพพอยต์สของ\'หงส์แดง\' แต้มสุดท้าย!5แชมเปี้ยนชิพพอยต์สของ'หงส์แดง'
  • เดือดก่อนดวล! \'ชุดขาว\'ไล่กรรมการ-ยันพร้อมเตะบาร์ซ่า เดือดก่อนดวล! 'ชุดขาว'ไล่กรรมการ-ยันพร้อมเตะบาร์ซ่า
  • ก่อนถึงเส้นชัย’พรีเมียร์ลีก’ ก่อนถึงเส้นชัย’พรีเมียร์ลีก’
  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved