ผมได้รับเกียรติสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตด้วยการได้รับการสรรหาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ช่วงปี 2551-2554 จากภาควิชาการ ซึ่งหน่วยงานที่เสนอชื่อผม คือ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ในช่วง 3 ปีนี้ผมเลือกอยู่ในคณะกรรมาธิการสาธารณสุข และคณะกรรมาธิการการกีฬา โดยในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขที่มีคุณหมออนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ได้กรุณาให้ผมเป็นเลขาธิการขององค์การรัฐสภาแห่งเอเชียทางด้านการพัฒนาประชากร หรือ Secretary General ของ Asian Federation of Parliamentarians on Population and Development (AFPPD) ซึ่งมีอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Fukuda เป็นประธาน ซึ่งส่วนใหญ่ท่านมักมอบหมายให้ผม และ CEO Shiv Kare ทำหน้าที่แทน ซึ่งทำให้ผมมีโอกาสไปเป็นประธานในพิธีเปิด ปิด บรรยาย การประชุมของสมาชิกรัฐสภาในหลายๆ ประเทศ และ AFPPD มีผลงานดีมากจน UN มอบเหรียญทองให้แก่ AFPPD
อีกทั้งกรรมาธิการอีกชุดหนึ่งที่ผมเป็น คือ กรรมาธิการการกีฬาซึ่งมีคุณวรวุฒิ โรจนพานิช เป็นประธาน คุณวรวุฒิมีความคิดริเริ่ม เข้มแข็ง มีวิสัยทัศน์และมีความเชี่ยวชาญทางด้านกีฬาอย่างแท้จริง ได้จัดให้เราไป Olympic ที่เมืองจีน ไปฟุตบอลโลกที่ประเทศอัฟริกาใต้ (Johannesburg) ซึ่งผมคิดว่าเป็น high light ของคณะกรรมาธิการการกีฬาชุดเรา
คุณวรวุฒิ เข้าใจกีฬาเป็นอย่างดี จึงให้คณะกรรมาธิการการกีฬามีอนุกรรมาธิการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาขึ้นมา โดยให้ผมเป็นประธาน ผมก็ได้เรียนเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ (ไม่ใช่แพทย์)การกีฬา และกีฬาเวชศาสตร์(แพทย์)ในสาขาต่างๆ เช่น ชีวกลศาสตร์ โภชนาการ สรีรวิทยา กระดูก จิตวิทยา และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นอนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการของเราได้ไปดูงานที่ Sports Centre ของประเทศมาเลเซีย และที่เป็น high light คือ เราได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์และเวชศาสตร์การกีฬาเขียนหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเป็นครั้งแรก (และคงเป็นครั้งเดียวของวุฒิสภา) โดยมีชื่อเต็มว่า รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เรื่อง “วิทยาศาสตร์การกีฬาผสมผสาน (Multidisciplinary Sports Science)” จัดโดยสำนักกรรมาธิการ 3 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
คณะอนุกรรมาธิการวิทยาศาสตร์การกีฬาและที่ปรึกษา มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หลายท่าน อาทิเช่น นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ พล.ต.สุรพงษ์ อริยะมงคล นพ.อรรถ นานา นพ.ชาตรี บานชื่น นพ.ชนะการ พรพัฒน์กุล นพ.รณชัย คงสกนธ์ นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ นพ.อี๊ด ลอประยูร นพ.สุรศักดิ์ เกิดจันทึก (รองผู้ว่า กกท.2566) ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ (อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ดร.สินธุ์ชัย แก้วกิติชัย นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ฯลฯ
ผู้เชี่ยวชาญที่เขียนวิทยาศาสตร์การกีฬาผสมผสานก็มีมากมายเช่นกัน อาทิ นพ.เรืองศักดิ์ ศิริผล นพ.ชัยศักดิ์ จรรยาเวโรจน์ ดร.สันติภาพ เตชะวณิช พญ.ปรียานุช แย้มวงษ์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ (ศิริราช) นพ.รณชัย คงสกนธ์ (จิตแพทย์ รามา) ดร.รุ่งชัย ชวนไชยะกุล ดร.ไถ้อ้อน ชินธเนศ ดร.วีรวัฒน์ ลิ้มรุ่งเรืองกิจ ดร.วรรธนะ ชลายนเดชะ ดร.วารีวิดจายา ดร.สิริพร ศศิมณฑลกุล (เกษตร) ดร.ชนินทร์ตรงจิตภักดี นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ นพ.อี๊ด ลอประยูร นพ.เฉลิม ลิ่วศรีสกุล นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ นพ.ชนะการ พรพัฒน์กุล (กระดูก มช.) ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ และผมเอง นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
หนังสือเล่มนี้ถึงแม้จะเตรียมตั้งแต่ 2551-2554 และจัดพิมพ์ ในปี 2555 แต่หัวข้อ หลายประเด็นก็ยังมีความทันสมัยสำคัญ ในปัจจุบันนี้ อย่างเช่น “ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล สิ่งที่อยากเห็นในประเทศไทย ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่ผมเขียนและขอนำมาลงไว้ ณ ที่นี้ให้ทุกๆ ท่านที่สนใจทราบ คิด ติ เพิ่มข้อเสนอ ฯลฯ ได้ คือ 1) จัดตั้งศูนย์กีฬาแห่งชาติตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี 26 ธันวาคม 2551 2) ทำเด็กให้สูงใหญ่-สำหรับกีฬาบางประเภท 3) สอนกีฬาตั้งแต่เด็ก หาอายุที่เหมาะสมที่สุด ที่อายุน้อยที่สุด สำหรับการฝึกกีฬาแต่ละประเภท 4) สนับสนุนให้มีโรงเรียนประจำ นอกเมือง และทุกโรงเรียนเล่นกีฬาทุกวัน 5) สร้างสนามกีฬาทุกอำเภอ ทุกตำบล 6) มีสนามเทนนิส แบดมินตัน ฟุตบอล ฯลฯ ให้เล่น และเช่าเครื่องมือในราคาย่อมเยาว์ มีสวนสาธารณะสำหรับเดิน วิ่ง ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ มากขึ้น 7) สนับสนุนให้ทุกโรงเรียนมีครูพละที่เป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬา มีตำแหน่งรองรับ 8) บรรจุการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (รวมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค) เพื่อความเป็นเลิศ โภชนาการ ฯลฯ ในหลักสูตรของโรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย 9) สนับสนุนให้ทุกสมาคมกีฬามีฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีทั้งแพทย์และไม่ใช่แพทย์ โดยในการให้งบประมาณมีข้อแม้ว่าต้องมีฝ่ายนี้ เช่น อย่างน้อยต้องมีแพทย์ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา ฯลฯ 10) สนับสนุนให้มีวิทยาลัยกีฬาเวชศาสตร์ มีการฝึกอบรมและสอบเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสาขานี้ 11) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ “150 คน” (แพทย์และไม่ใช่แพทย์) เช่น อย่างน้อย 76 คน อยู่ในต่างจังหวัด และ 74 คนอยู่ในกรุงเทพฯ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างๆ อาจทำงานได้ 2 งาน เช่น ที่จุฬาฯ มหิดล เกษตร ฯลฯ และที่ กกท. 12) มีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลแต่ละกีฬา จะได้เกิดความเชี่ยวชาญ13) มีเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำของการปฐมพยาบาล ดูแลนักกีฬา เครื่องช่วยกู้ชีวิต ของสถานที่ ออกกำลังกายในระดับต่างๆ 14) ส่งเสริมการออกกำลังกาย-เพื่อสุขภาพ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก โดยมีสวนออกกำลังกาย-เพื่อความเป็นเลิศ-ซึ่งต้องเป็นการลงทุนระยะสั้น และยาว 15) ทุกหน่วยงาน ที่ทำงาน ที่มีคนทำงานเกิน 30 คน ควรมีสถานที่ออกกำลังกาย หรือ ห้อง fitness รวมทั้งห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า 16) ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้งรัฐและเอกชน จังหวัด เทศบาล อบจ. อบต. ชุมชน ฯลฯ 17) มีการประชาสัมพันธ์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างต่อเนื่อง เช่น มีบทความในหนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ ฟรี ทุกสัปดาห์ 18) ส่งเสริมให้มีผู้เชี่ยวชาญสำหรับการออกกำลังกาย เล่นกีฬา ในเยาวชน ผู้หญิง ผู้สูงอายุผู้พิการและผู้ป่วยโรคต่างๆ 19) ส่งเสริมให้มีความรู้ทางด้าน jet lag, doping, ผลของการมีประจำเดือนต่อการออกกำลังกาย, จิตวิทยา 20) ส่งเสริมให้มีการเลือกนักกีฬาให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทกีฬา เช่น คนเกิดมามีกล้ามเนื้อที่วิ่งเร็วหรือวิ่งทนอยู่แล้ว เลือกมาฝึกให้ถูกต้องตามศักยภาพของเขา 21) มีผู้เชี่ยวชาญที่จะแนะนำวิธีการฝึกโดยเฉพาะสำหรับกีฬาแต่ละประเภท 22) ส่งเสริม กระตุ้น สนับสนุนให้เล่นกีฬาที่มีการแข่งขันระดับโอลิมปิก และกีฬาไทยอย่างทั่วถึง 23) ส่งเสริมให้มีการบริหารทางด้านกีฬาอย่างเหมาะสม 24) ส่งเสริมให้มีสนามฟุตบอลที่มีขนาดใหญ่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมฟุตบอลอาชีพ และเพื่อจะเสนอประเทศให้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกในอนาคต 25) ส่งเสริมให้มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่ไปยังสนามกีฬาต่างๆ 26) ส่งเสริมให้มีการฝึกอบรม ดูแล ผู้ตัดสินกีฬาต่างๆ อย่างเหมาะสมและเพียงพอ 27) ให้งบประมาณสมาคมกีฬาต่างๆ อย่างเหมาะสม และรวดเร็ว สำหรับการฝึกอบรมและเก็บตัว 28) ส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมผู้ฝึกอบรมทุกระดับ และให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม 29) ปรับปรุงกฎหมายทุกชนิดที่เกี่ยวกับกีฬา 30) สนับสนุนให้มีการนำยอดบริจาคสำหรับวงการกีฬาไปหักลดหย่อนการเสียภาษีได้ในอัตราที่เหมาะสม
ถ้าทุกสมาคมกีฬาเพียงแต่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ และจิตวิทยา สมรรถภาพของนักกีฬาจะดีขึ้นทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ท่านผู้อ่านเห็นด้วยไหมครับว่า สิ่งที่ผมเขียนในช่วงปี พ.ศ.2551-2554 ยังมีความสำคัญและยังเป็นความจริงอยู่ ผมจะค่อยๆ ขยายแต่ละหัวข้อในโอกาสต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี