การเข้าสู่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ เป็นสมัยที่ 4 ของ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ทำให้ หมู เป็นอันดับ 2 ร่วมของนักกีฬาที่ดีที่สุดของไทย ในการเข้าถึงรอบสุดท้ายสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก

การฝ่าสองด่านในรอบคัดเลือก นั่นคือ ชนะ มาร์ติน โอ’ดอนเนลล์ 10-6 เฟรม ต่อด้วยชนะ จาง อั้นต๋า จากจีน ในการชิงดำเฟรมสุดท้ายแบบสุดระทึกใจ 10-9 เฟรม การันตีรับเงินไปแล้ว 20,000 ปอนด์ หรือกว่า 820,000 บาท

ผลงานที่ผ่านมา หมู เข้าแข่งขันสมัยแรกเมื่อปี 2017 รอบแรก แพ้ นีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลก 1 สมัยจากออสเตรเลีย 4-10, สมัยสอง ปี 2020 รอบแรก ชนะ ฌอน เมอร์ฟี่ย์ แชมป์โลก 1 สมัย ชาวอังกฤษ10-4 ก่อนจะไปแพ้รอบ 16 คน ให้กับ มาร์ค เซลบี้ แชมป์โลก 4 สมัย ไปอย่างหวุดหวิดในเฟรมตัดสิน 12-13 และสมัยล่าสุด สมัยที่ 3 เมื่อปีที่แล้ว 2022 รอบแรก ชนะ ลูก้า เบรเซิ่ล มือ 11 ของโลก จากเบลเยียม 10-5 แต่มายุติเส้นทางด้วยการแพ้ จอห์น ฮิกกินส์ แชมป์โลก 4 สมัยจากสก็อตแลนด์ ในรอบที่สองหรือ 16 คนสุดท้าย ไป 7-13 เฟรม 

ที่่ผ่านมา มีนักกีฬาไทย ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 5 คน นั่นคือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย 13 สมัย, ต่าย พิจิตร 1 สมัย, แจ๊ค สระบุรี 1 สมัย, เอฟ นครนายก 4 สมัย เท่ากันกับ หมู ปากน้ำ

แจ๊ค ลิซอฟสกี้ นักแทงชาวอังกฤษ ด่านแรกของ “หมู ปากน้ำ” ในปีนี้ที่จะชิงกันเข้ารอบ ด้วยการดวลคิวระบบ 10 ใน 19 เฟรม

สิ่งสำคัญก็คือ เส้นทางการเข้าสู่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ในแต่ละปีนั้นถือว่าสาหัสแบบสุดๆ ที่ผ่านมานั้นมีนักกีฬาไทย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ทั้งหมด 5 คน ถือเป็นความภูมิใจอย่างมาก

เริ่มจาก “ไทยทอร์นาโด” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ในยุคชื่อ “วัฒนา ภู่โอบอ้อม”และทำให้ฝรั่งเรียกกันว่า “เจมส์วัฒนา” คือคนไทยคนแรกที่ทำได้สำเร็จ

ต๋อง เกือบเข้าครูซิเบิ้ลหนแรกเมื่อปี 1991 แต่พลาดท่าแพ้ให้กับ เคร็กเอ็ดเวิร์ดส์ ในรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย 8-10 เฟรม ก่อนจะประสบความสำเร็จในปี 1992

การประเดิมเล่นที่ครูซิเบิ้ลเกมแรกรอบ 32 คน ชนะ โทนี่ โจนส์ ของอังกฤษ 10-5 ก่อนจะมาแพ้ สตีเฟ่น เฮนดรี้ มือ 2 ของโลกตอนนั้น 10-13 เฟรม

ต๋อง มีผลงานสุดยอดด้วยการผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้ 2 สมัย เริ่มจากปี 1993 ต๋อง เป็นมือ 7 ของโลก ชนะ โทนี่ โจนส์, สตีฟ เจมส์ และจอห์น แพร์ร็อตต์ ก่อนจะพ่าย จิมมี่ ไวท์ 9-16 เฟรม

จากนั้นในปี 1997 ต๋อง คือมือ 12 ของโลก เข้าถึงรอบตัดเชือก หลังจากสยบ แกรม ด็อตต์, สตีเฟ่น ลี และจอห์น แพร์ร็อตต์ แต่มาแพ้ สตีเฟ่น เฮนดรี้ 13-17  เบ็ดเสร็จ ต๋อง ลงเล่นชิงแชมป์โลก รวมทั้งสิ้น 13 ครั้งด้วยกัน

คนที่ 2 ในปี 1995 “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จในการเล่นอาชีพปีแรก ซึ่งหนนั้นต่าย พิจิตร ต้องผ่านการคัดเลือกถึง 8 ด่านกว่าจะเข้ารอบมาได้แทบจะกระอักเลือด แต่ถือว่าคุ้มค่าทุกประการ

เริ่มจากชนะ มาร์ค ว็อทลี่ย์ 5-3, ชนะ เอเดรียน โรซ่า 5-1, ชนะ ไมค์ ดันน์ 5-2 และมาเล่นระบบ 10 ใน 19 เฟรม ไล่ต้อน วอร์เรน คิง 10-0, สจ๊วร์ต เรียร์ดอน 10-8, อเล็กซ์ ฮิกกินส์ 10-5, เอียน เฮนเดอร์สัน 10-6 และทุบ ไมค์ ฮอลเล็ตต์ 10-8 เข้ามาเล่นในครูซิเบิ้ล ได้เจอกับวิลลี่ ธอร์น มือวางอันดับ 16 ซึ่ง ต่าย ขึ้นหน้าก่อน 2-0 โดนตีเสมอ 4-4 ก่อนจะตามหลัง 6-7 สุดท้ายแล้ว ต่าย ก็แพ้ไป 6-10 เฟรม

คนที่ 3 ต้องรอนานถึง 18 ปี นั่นคือ ปี 2013 “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง จอมคิวระดับตลกตกงาน จากสระบุรี เริ่มต้นด้วยการลงเล่นรอบคัดเลือก ชนะ ไมเคิล เลสลี่ย์ 10-4 ต่อด้วยการคว่ำ หลิว ฉวง 10-9 ไปแบบสุดระทึก จากนั้นก็มาปราบ แอนโธนี่ย์แฮมิลตัน 10-4 และก็มาน็อก เจมี่ โคป ขาดกระจุย 10-3

ได้เข้ามาเล่นด้วยการบดชนะสตีเฟ่น แม็คไกวร์ ไปแบบลุ้นจนหยดสุดท้าย 10-9 เฟรม ชนิดที่เวลาการแข่งขันไม่พอ ต้องรอมาสู้กันแบบต้องรอให้คู่อื่นจบก่อน แต่ในรอบ 16 คน แจ๊ค พลาดท่าแพ้ ไมเคิล ไวท์ 3-13 ก็จบเร็วกว่าเดิม เพราะไม่ได้เล่นในเซสชั่นสุดท้าย แต่ก็ฮือฮาได้รับฉายา “Poomtastic”

คนที่ 4 “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ที่เคยแพ้แล้วแพ้อีกในการเทิร์นโปรรอบแรก แต่ไม่ยอมท้อต่อชะตา ได้เข้ารอบในปี 2017

เริ่มต้นเส้นทางสู่ฝันจากการปราบ เจ๊ค โจนส์ 10-5 ต่อด้วยการชนะ แอนโธนี่ย์แฮมิลตัน สุดระทึก 10-9 และเชือด ลี วอล์คเกอร์ 10-8 เข้าสู่ครูซิเบิ้ล เจ้าหมู ก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการลงกราบแฟนสอยคิวแบบพับเพียบเรียบร้อย พร้อมกับใช้เพลง “แสงสุดท้าย” ของ บอดี้สแลม ในการเปิดตัวเพื่อเข้าสู่สนาม

ถึงนาทีปัจจุบัน หมู ทำได้เป็นสมัยที่ 4

คนที่ 5 คือ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู ที่เฝ้ารอคอยความฝันมาโดยตลอด ก่อนจะเข้ารอบได้ 2 สมัยติดต่อกันใน 2 ปี ที่ผ่านมา 2018 กับ 2019 เป็นคนไทยคนที่ 2 ที่ได้เข้าครูซิเบิ้ล 2 สมัยติดต่อกัน ตามหลัง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย โดย เอฟ เข้ารอบสุดท้ายคือปี 2018, 2019, 2020 และ 2022 แต่ไม่เคยผ่านเข้ารอบที่ 2 หลังจากจับสลากทุกครั้ง ต้องเจอกับอดีตแชมป์โลกและของแข็งทั้งหมด นั่นคือ จอห์น ฮิกกินส์ 2 ครั้ง,จัดด์ ทรัมป์ และรอนนี่ โอซุลลิแวน

“หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ หนึ่งเดียวของไทยเตรียมลงดวลคิวรอบแรก หรือ 32 คน สนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลก ที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์

ปีนี้ลุ้นกระบี่ไทยคือ หมู ปากน้ำ ที่หวังจะทำผลงานได้ดีกว่าเดิมนั่นคือ รอบ 2 หรือ รอบ 16 คนสุดท้าย หากทำได้สำเร็จเข้าถึงรอบ 3 หรือ 8 คน จะทำให้เป็นคนที่ 2 ต่อจาก ต๋อง ที่เป็นคนไทยเข้ารอบลึกที่สุดในสังเวียนศักดิ์สิทธิ์นี้

หมู เปิดเผยว่า การเข้าครูซิเบิ้ล ครั้งที่ 4 อยากไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะปีนี้มีความมั่นใจมากขึ้น ผลงานดีขึ้น และสำคัญมาก ๆ ก็คือ ผมสามารถชนะมือใหญ่ๆได้บ่อยครั้งมากขึ้นเข้ารอบลึกๆได้บ่อยขึ้น ก็ยอมรับว่าคาดหวังไว้ไกลพอสมควร แต่ถ้าไม่เป็นดั่งหวังก็แค่มีความสุขกับมัน

“ผมแค่รู้สึกว่าเวลาของผมมันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แม้จะไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่อะไรหลายๆอย่างในตอนนี้ผมดีขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาขึ้นผมหวังว่าสิ่งที่ผมฝันมันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้”

ส่วนอาการป่วยนั้น หมู ระบุว่า ยังไม่ได้ไปหาหมอเพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด เนื่องจากโปรแกรมแข่งขันต่อเนื่องอย่างมาก ปัญหาคือมีอาการมือสั่น อันนี้หายยากมาก ซึ่งผมก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพราะมันสั่นเองโดยผมไม่ได้ตั้งใจ บางวันก็หายบางวันก็สั่น ตัวอย่างก็คือการแข่งในรอบคัดเลือกทั้ง 2 ครั้ง มือผมสั่นมากครับ ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ทำให้สิ่งที่ต้องทำให้มากที่สุดคือ ออกกำลังกาย และสร้างความแข็งแรงให้กับตัวเอง

“การเจอกับ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ฝีมือของผมอย่างมาก จริงอยู่ที่เหมือนกับว่า ผมโชคดีไม่ต้องไปเจอกับมือใหญ่เบอร์ใหญ่อย่าง รอนนี่ โอซุลลิแวน, จัดด์ ทรัมป์ หรือ จอห์น ฮิกกินส์ แต่เราไม่มีสิทธิ์ประมาท เพราะ แจ๊ค แม้จะไม่สม่ำเสมอ แต่เป็นประเภทมวยแม่น ถ้าออกได้แล้วคือออกได้เลย สิ่งที่ต้องทำคือ บีบเกมให้ได้มากที่สุด นำเกมกลับมาเป็นของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

จากสถิติการแข่งขันในระดับอาชีพโลกที่ผ่านมา หมู ไม่เคยดวลกับ แจ๊ค มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่ง หมู ระบุว่า เคยได้ลองแข่งขันกันในช่วงการฝึกซ้อม รวมทั้งสิ้น 2 ครั้ง ในช่วงปี 2019 ถือว่า แจ๊ค เล่นเกมบุกได้ดุดันมาก จุดนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ

“ส่วนเพลงที่จะใช้เปิดตัวนั้น ยังเป็นเพลงแสงสุดท้าย ของ บอดี้สแลม เหมือนเดิม โดยได้รับการอนุเคราะห์จากพี่ตูน ซึ่งตอนแรกแอบคิดเหมือนกันว่าจะใช้เพลง ธาตุทองซาวด์ ของ ศิลปิน YOUNGOHM แต่สุดท้ายเลือกเพลงเดิมเข้าสู่สังเวียน”

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันระหว่าง นพพล แสงคำ กับ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ ในเซสชั่นแรก 9 เฟรม แข่งวันอังคารที่ 18 เมษายนนี้ เวลา 16.00 น. จากนั้นมาสู้กันต่อในเฟรมที่เหลือ เซสชั่นที่สอง วันพุธที่ 19 เมษายนนี้ ในเวลาเดียวกัน ถ่ายทอดสดตลอดทัวร์นาเมนท์ที่ "ทรูวิชั่นส์" ช่องทรูสปอร์ต 2, 3, 5 และ 7 (667, 668, 684 และ 688)

งานนี้ได้ลุ้นเพราะผลงานปีนี้การเข้าถึงรอบตัดเชือกรายการใหญ่ถึง 2 ครั้ง นั่นหมายว่า ธรรมดาที่ไหน

พยัคฆ์แห่งปากน้ำ ได้เวลาคำรามอีกครา!!!!

บี แหลมสิงห์