ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมมันเดย์ไนท์ คืนวันจันทร์นี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับ 9 ของตาราง จะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันทีมอันดับ 16 ของตาราง เริ่มฟาดแข้งในเวลา 02.00 น.เป็นต้นไป
เจ้าถิ่น สิงห์บลูส์ ที่เกมล่าสุดทำผลงานแย่อีกครั้งเมื่อบุกไปเจ๊ากับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วย 2-2 ทำให้เวลานี้โอกาสลุ้นไปเตะถ้วยยุโรปยังต้องลุ้นหนักอยู่ เกมนี้สภาพทีมของ เมาริซิโอโปเช็ตติโน่ ยังมีแข้งเดี้ยงอยู่เพียบทั้ง เวสลีย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์,โรเมโอ ลาเวีย, เลสลีย์ อูโกชุกวู และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ส่วน โรเบิร์ต ซานเชส และ เลวาย โคลวิลล์ ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง ส่วนแกนหลักรายอื่นจะยังต้องฝากความหวังไว้ที่ติอาโก้ ซิลวา ,เบอนัวต์ บาเดียชิล ,เอนโซ่ เฟอร์นานเดซ,มอยเซส ไคเซโด ,โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มิไคโล มูดริก และ นิโคลัส แจ็คสัน
ทางฝั่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ที่โดนตัดแต้มจนมี 27 แต้ม เกมนี้สภาพทีมของ ฌอน ไดซ์ กุนซือของทีม จะยังไม่มี เดเล่ อัลลี่ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง ลูวิส ด็อบบิน และ อาร์เนาต์ ดันจูมา ต้องรอเช็คฟิต แต่จะได้ อมาดู โอนาน่า และ อิดริสซา กานา เกย์กลับมาฟิตพร้อมในเกมนี้ ร่วมกับแกนหลักรายอื่นทั้ง อมาดูโอนาน่า, ดไวท์ แม็คนีล, อับดูลาย ดูกูเร่, เซมุส โคลแมน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวท และ วิตาลี มิโคเลนโก้
สำหรับ เชลซี นั้นถือว่ามีสถิติที่ดีเมื่อเจอ เอฟเวอร์ตัน ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ 30 เกมหลังสุดไม่เคยพ่ายในทุกรายการ ส่วนผลงานเจอล่าสุดนัดแรกในฤดูกาลนี้ เอฟเวอร์ตัน ชนะไปได้ 2-0 ส่วนสถิติดวลกัน 10 เกมหลัง เอฟเวอร์ตัน ชนะไปได้ 5 เกม เชลซี ชนะ 4 เกม และเสมอกัน 1 เกม
ขณะเดียวกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเวลานี้พวกเขานั้นพร้อมแล้วที่จะลุ้นคว้า เทรเบิ้ลแชมป์ อีกครั้ง
โดย ซิตี้ ที่เพิ่งถล่ม ลูตัน ทาวน์ 5-1 ทำให้สถานการณ์ยังคงอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ร่วมกับ อาร์เซน่อล และ ลิเวอรพูล ในช่วง 6 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งนอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว ซิตี้ที่ได้เทรเบิลแชมป์ฤดูกาลก่อนยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเตรียมเตะรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง พบ เรอัล มาดริด ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม กลางสัปดาห์นี้ และเอฟเอคัพ ซึ่งมาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยจะพบเชลซี ในสัปดาห์หน้า
เป๊ป เผยถึงเรื่องนี้ว่า “เราได้คุยกับนักเตะว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหนที่มาอยู่จุดนี้อีกครั้ง เรายังอยู่ในเส้นทางพรีเมียร์ลีก ส่วนแชมเปี้ยนส์ ลีก เรามีโอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศ และเอฟเอคัพ เรามีโอกาสลุ้นเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้ง
นี่เป็นสิ่งที่พิเศษเหลือเกิน ลองคิดดูว่าถ้าเราไม่มีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือแชมป์รายการอื่นแล้วดูสิ อยากให้นักเตะท่องว่า อีกสัปดาห์, อีกสัปดาห์, อีกสัปดาห์ ผมไม่รู้ว่าวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าวันนี้เราไม่ชนะ คู่แข่งของเราก็คงได้แชมป์”
ทั้งนี้ในเกมที่จะเจอกับ “ราชันชุดขาว” หากว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้จะยืดสถิติไม่แพ้ใครในบ้านเป็นเกมที่ 42 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่ทำไว้ในช่วงเดือนธันวาคม 1919 ถึง พฤศจิกายน 1921 หรือเมื่อเกือบ 103 ปีที่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี