วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
#DiogoLivesFOREVER : แด่’เพื่อนพระเอก’ที่จากลา

#DiogoLivesFOREVER : แด่’เพื่อนพระเอก’ที่จากลา

วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.38 น.
Tag : โชต้า บีแหลมสิงห์ ลิเวอร์พูล เสียชีวิต
  •  



ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งต้องมี นักเตะที่ “ไม่เด่น” แต่จะต้อง “มีความสำคัญ”


ต้องการมีนักเตะที่ “พึ่งพาได้” โดยที่ไม่หือไม่อือไม่เถียง


ต้องการมีนักเตะที่ “มีความพร้อม” ทั้งการได้รับการเลือกให้เป็น “ตัวจริง” และยอมรับการถูก “เปลี่ยนตัว” 


ต้องการมีนักเตะที่ “มีความพร้อม” ในการเป็น “ตัวสำรอง” ที่พร้อมลงไป “เปลี่ยนเกม”


จะมีนักบอลสักกี่คนที่ทำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ เล่นบอลได้ง่ายขึ้น


คุณสมบัติทั้งหมดมีอยู่ในตัวของ ดีโอโก้ โชต้า ตัวรุกทีมชาติโปรตุเกส ที่สามารถยกระดับตัวเองได้อย่างน่าสนใจ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมาถึงแบบไม่มีใครคาดคิด


การเสียชีวิตของ โชต้า เป็นที่ทราบกันแล้วว่า เกิดขึ้นเพราะอะไรที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร แฟนบอลแฟนกีฬาแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ต่างให้ความสนใจ เมื่อได้รับทราบข่าว เพราะเราแทบจะไม่เคยเห็น นักเตะที่กำลังขึ้นสู่ระดับท็อป เล่นอยู่กับท็อปทีม จะเสียชีวิตในระหว่างเป็นนักเตะ “กำลังสำคัญ”


มันเกิดขึ้นกับชีวิตของ โชต้า


คนนอกวงการเมื่อเห็นภาพที่เขาแต่งงานได้เพียง 11 วัน แล้วต้องมาจากลา โดยมี ภรรยาที่รักกันมาตั้งแต่เด็ก พร้อมกับมีลูกกัน 3 คนที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ต้อง “ไม่ได้เจอหน้าพ่อ” ตลอดกาลและตลอดไป


ประเด็นการเสียชีวิตของ โชต้า ที่น่าตกใจขอสรุปให้ได้อ่านกัน 5 ข้อ


1.การผ่าตัดปอด ซึ่งเป็นอาการที่ปอดส่วนหนึ่งยุบตัว แพทย์ไม่แนะนำให้เดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะแรงดันของอากาศ ทำให้ต้องใช้รถยนต์ และต่อเรือเพื่อมายัง ลิเวอร์พูล เตรียมตัวปรีซีซั่น


2.นักกายภาพ ยืนยันว่า หลังจากทานอาหารค่ำกับ โชต้า และอังเดรเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. พวกเขาได้ออกเดินทางในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนของอากาศ


3.พวกเขาจะไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองบูร์โกส เพื่อลงเรือเฟอร์รีไปที่เมืองพลีมัธ ก่อนจะไปยัง ลิเวอร์พูล 


4. ยางรถยนต์ Lamborghini Huracan ราคา 150,000 ปอนด์ ของเขาระเบิด ขณะกำลังเร่งแซงรถคันอื่นบนถนน A-52 ที่เซร์นาดิยา ที่จังหวัดซาโมรา ประเทศสเปน ซึ่งอยู่ห่างจากมาดริด ประมาณ 250 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนโปรตุเกส ไป 10 กิโลเมตร ทำให้รถหลุดออกจากถนน พลิกคว่ำ และระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้ทั้งคัน


……….พอเรามารู้ คงสังเกตุว่า ทำไม โชต้า เหมือนกับไม่ฟิต และเล่นได้ไม่ค่อยต่อเนื่อง ก็เพราะป่วยเป็นโรค “ปอดแฟ่บ” ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตปกติ และการเป็นนักฟุตบอล


อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้แทบจะไม่รู้มาก่อน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขามาแก้ตัว เพราะผลงานในสนาม กับการอยู่กับโค้ชถึง 2 คน ตลอด 5 ปีที่แอนฟิลด์ พร้อมกับพิสูจน์ตัวเองจาก “ตัวเลือกที่ 4” จาก 3 ชอยต์ส ที่ทีมเลือกใช้ตามระบบฟุตบอล จนกลายมาเป็น “เบอร์แรก” พร้อมกับสามารถปรับตัวเองจากการเล่น “ด้านซ้ายสุด” กลายมาเป็นนักเตะที่ “เข้าพื้นที่ด้านขวา” ได้เฉียบขาดที่สุดคนหนึ่งของทีม และอาจจะของลีกด้วยซ้ำไป


๐ งานหินกับตัวเลือกตัวที่4

อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีอยู่ครึ่งซีซั่น(2016-17) ที่ทีมแทบจะเล่น 4-2-4 ให้มันรู้ไป แต่ปรับทดตำแหน่งของ เฟลิปเป้ คูตินโญ่ ลงมาเหมือนเป็น 4-3-3 แต่นั่นคือแนวรุก 4 คน คือ คูตินโญ่, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนวงแตกเพราะ คูตินโญ่ อยากไปปวดหลังที่ บาร์เซโลน่า

จากนั้นในซีซั่น 2018-19 ทีมกำลังจะแปลโฉมเป็น 4-2-3-1 แบบเต็มตัว เพียแต่ ฟาบินโญ่ กับ นาบี เกอิต้า ท็อปฟอร์มไม่ทันกัน หลังจาก ฟาบินโญ่ ต้องปรับตัวอยู่ 3 เดือน พอเล่นได้ เกอิต้า ที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วก็บาดเจ็บ ขณะเดียวกันเมื่อทีมลงตัวจากบุคลิก 4-3-3 จนถึงยอดเสาจนแชมป์หลั่งไหลมาเต็มตัก ทั้งแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2019, ซูเปอร์คัพ 2019, แชมป์สโมสรโลก 2019 และแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่รอคอยปี 2020 

ภาพจำมันคือระบบ 4-3-3 โดยเล่นแบบกองหน้าตัวหลอกของ ฟีร์มิโน่ สไตล์ 


แต่หลายเกม ผมแอบคิดมาว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงชื่นชอบระบบ 4-2-3-1 มากกว่าสูตรอื่น ๆ เขาพยายามที่จะสอดไส้ และสร้างขึ้นมา โดยมี 4-3-3 เคียงกาย เนื่องจากคุณสมบัติของนักเตะที่มี และการเติมนักเตะไม่ได้ดั่งใจ กระทั่งการมาของ ดีโอโก้ โชต้า

ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์เลือกกับแนวทางการเล่นเกมรุกมากยิ่งขึ้น แม้ว่า โชต้าจะมาจากระบบที่ใกล้เคียงกันที่เขาเล่นกับ “หมาป่า” วูล์ฟส์ นั่นคือ 3-4-3

โชต้า เล่นตัวรุกด้านซ้าย ร่วมกันกับ ราอูล ฆิมิเนซ หน้าเป้าชาวจังโก้ และอดามา ตราโอเร่ ปีกล่ำสันสเปน ที่อยู่ขวา

เพียงแต่ “วิธีการ” ของ โชต้า เขามักจะทำ 2 สิ่งนั่นก็คือ 1.“วิ่งตัดใน” เข้ามาเล่นร่วมโดยยืนซ้อนหลังของ ราอูล และ 2.คือ “ยืนแนบใน” มากกว่าการฉ่างออกไปด้านซ้ายนอก

คือ วิธีการที่ คล็อปป์ นำมาใช้ และทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องตาหูแหกในช่วง 35 นาทีแรกที่เจอกัน ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อหงส์จัด 4 หอกลงพร้อมกันทั้ง ซาลาห์, มาเน่, ฟีร์มิโน่ และโชต้า

แต่แน่นอนว่า ทีมเดินมาด้วยระบบ “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ที่ดำเนินงานซ้ายกับขวา โดยมี มิดฟิลด์ปักตรงกลางเพื่อโควเวอร์ทั้งเกมรับและรุก ทำให้ “แดนบน” ยังคงมีพื้นที่ “3ที่นั่ง” ตามปกติ ดังนั้นไม่แปลกที่ โชต้า จะถูกเลือกทีหลัง หิน-เหล็ก-ไฟอย่าง ซาล่าห์, มาเน่ และฟีร์มิโน่

หนึ่งปีที่เริ่มต้นใหม่กับ 1.ทีมแชมป์เก่า 2.ชนตำแหน่งของ มาเน่ แบบเต็มๆ 3.ยุคโควิด และที่ลืมไม่ได้คือ 4.ซีซั่นพังทะลาย 

คล็อปป์ ต้องใช้เวลาไปซ่อมเกมรับ มากกว่าจะต้องไปปรับเกมรุก

๐ ซีซั่นที่ท้าท้ายและท็อปฟอร์ม

ถ้าว่ากันถึงการไล่ล่าแชมป์ 4 รายการแบบที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนของทีม ที่ลงเล่นแบบเต็มแม็กทุกรายการ 63 นัด และคว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยในประเทศมาครองได้สำเร็จ เป็นสมัยที่ 2 ของสโมสร นั่นคือ เอฟเอ คัพ กับ ลีกคัพ


เพียงแต่ภาพความสำเร็จนั้น มีเมฆหมอกแห่งความผิดหวังปกคลุม นั่นคือ การพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก เพียงคะแนนเดียว และแพ้นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก เพียงประตูเดียว ทำให้เหมือนกับปีนั้น “ทีมล้มเหลว”


แต่ปีนั้น เป็นปีที่ไส้ในของมันนั้น นักร้องวงหินเหล็กไฟ กำลังเปลี่ยนคน


อาการบาดเจ็บที่รบกวน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ถึง 4 รอบ รวมถึงติดโควิดไปด้วย ทำให้ตำแหน่ง “กองหน้าตัวกลาง” ตกมาเป็นของ ดีโอโก้ โชต้า


ผมแอบคิด(อีกแล้ว)ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ใช้ ดีโอโก้ โชต้า ในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางปักตรงกลางแบบเต็มตัว และลงเล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีมถึง 55 เกม เป็นเหตุให้ในเวลาต่อมา “กล้าเสี่ยง” ที่จะซื้อ ดาร์วิน นูนเญซ เข้ามาเพื่อหวังในการเล่น “มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง” หรือที่เรียกว่า “นักบอลไฮบริด” ในโลกอนาคต(ซึ่งก็คือเวลาปัจจุบันนี้) 


โชต้า กับ ดาร์วิน เหมือนกันคือเป็นตัวรุกด้านซ้ายมาก่อน แต่ด้วยการเล่นที่ “ยืดหยุ่น” และเป็น “ธรรมชาติ” ของ โชต้า มันไม่เป็นไปตามทฤษฏีสมคบคิด หรือจะเป็น “พิมพ์เขียว” ให้กับคนอื่นได้


โชต้า เข้ามาเล่นแทน ฟีร์มิโน่ ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยความสามารถในการยืดหยุ่น และวิธีการที่ทำมาโดยตลอดนั่นคือ แนบในอยู่แล้ว วิ่งตัดในอยู่แล้ว คราวนี้เปลี่ยนตำแหน่งการยืนและทำได้ดี ส่วนสำคัญก็คือ ทั้งซ้ายทั้งขวานั้นลงตัว นั่นคือ ซาลาห์ กับ มาเน่


เมื่อ โชต้า ปรับตัวได้ เขาทะยานออกมารับบอลด้านซ้าย แล้วสลับให้ มาเน่ วิ่งทะแยงตัดใน ทำให้บอลหงส์แดงปีนั้น มีมิติที่ยากต่อการประกบ ซึ่ง โชต้า ก็ซัดไป 21 ประตู กับ แอสซิสต์ 6 ลูก เป็นปีที่ดีที่สุดทั้งในแง่ของตัวเลข และการเล่น


๐ สู่การเป็นตัวเลือกแรก

ด้วยการเล่นเป็นประจักษ์ โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลด้วยการสร้างสมดุลย์ให้ทีมเป็นหลัก ส่งผลสำคัญที่ทำให้ โชต้า เริ่มได้รับการไว้วางใจจาก คล็อปป์ ให้ปักหลักยืนเป็นตัวเลือกแรกแทบจะทันที โดยมี ฟีร์มิโน่ คอยสลับ และการมาของ หลุยส์ ดิอาซ กับ ดาร์วิน นูนเญซ รวมไปถึง โคดี้ กัคโป ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งของ โชต้า แม้แต่น้อย กระทั่งเข้าสู่ยุคของ อาร์เน่อ ชล็อต ก็เห็นว่า เขายังเป็นคนแรกที่ถูกเลือกในตำแหน่งกองหน้าตัวกลาง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาตามทำร้ายตัวเขาก็คือ อาการบาดเจ็บที่เล่นงานบ่อยครั้ง แถมในช่วงหลังก็เจ็บแบบแปลก ๆ 

โชต้า เองที่ก่อนหน้านั้นแทบจะไม่มีอาการบาดเจ็บเลย ไม่ว่าจะเล่นที่ไหน โดยการอยู่กับ วูล์ฟส์ ก็เจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่เขาเริ่มต้นปีแรกกับทีมต้องพลาดการลงสนามไปมากถึง 19 เกม เพราะเจ็บข้อเท้า

หลังจากเล่นแบบเต็มสูบในซีซั่น 2022 ทำให้การออกสตาร์ทซีซั่นใหม่ดูไม่ดีเลย เมื่อเจ็บแฮมสตริงตั้งแต่ต้นซีซั่น ไม่ได้เล่นถึง 1 เดือน และก็มาโชคร้ายเจ็บหนักจนชวดไปบอลโลก 2022 เมื่อมีปัญหาที่น่อง ต้องพักยาวเกือบ 4 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม 2022 กว่าจะกลับมาได้ต้องรอกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2023 


ซึ่งปีนั้น ลิเวอร์พูล ถึงกับหลุดพื้นที่แชมเปียนส์ลีก และ โชต้า ลงเล่นไปแค่  28 นัด เท่านั้น แต่ยังทำได้ 7 ประตู แอสซิสต์ 8 ประตู

ปีสุดท้ายยุค คล็อปป์ เขาเป็นตัวเลือกแรกแต่ไม่วายบาดเจ็บไปสองรอบ หายไปรวม 3 เดือน เหมือนกับซีซั่นล่าสุดในยุคใหม่ของ อาร์เน่อ ชล็อต ก็เจ็บสองทีหายไปสองเดือนกว่า แต่อย่างที่ทุกคนเห็นว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฟิตกลับมา

โชต้า จากตัวสำรองในช่วงแรก กลายเป็นตัวหลักสำคัญของทีม ที่ขาดแล้ว มักจะมีปัญหาทันทีในเรื่องของความยืดหยุ่นและสมดุลในเกม


ที่สำคัญเราเห็นได้ว่า การวิ่งตีโค้งจากแนวลึก เพื่อมาสลับตำแหน่งกับ โม ซาล่าห์ ทางด้านขวาโดนวิ่งตัดมาเหมือนเป็นตัวแนบ เป็นอีกแบบฉบับที่ โชต้า เข้าสู่ “หมุดใหม่” ในสนาม ที่ลงตัวขึ้นเรื่อย ๆ 


จากนี้ไปเราจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว!!!!!!!

๐ ความสมดุลที่มาพร้อมกับความเฉียบขาด


สถิติระบุชัดเจนว่า หากคุณต้องการวัดความสามารถในการจบสกอร์ ตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีก กำเนิดเกิดขึ้นมาเมื่อปี 1992 การยิงเข้ากรอบคือตัวชี้วัดเดียวที่คุณใช้วัดได้ว่า โชต้า อันตรายที่สุดของทีม


มีผู้เล่น 39 คนที่ยิงเข้ากรอบที่ไม่ใช่จุดโทษอย่างน้อย 50 ครั้งให้กับ ลิเวอร์พูล ในช่วง 33 ปีที่ผ่านมา โชต้า ทำประตูได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าใคร


หากเราขยายการค้นหาไปยังผู้เล่นที่มีโอกาสยิงเข้ากรอบอย่างน้อย 150 ครั้งในยุคพรีเมียร์ลีก โชต้า อยู่อันดับที่ 4 ร่วมกับ คริส วู้ด


คงไม่มีใครถนัดทั้งสองเท้าเท่าเขาเช่นกัน ประตูในลีก 24 ประตูของเขาในสองฤดูกาลแรกกับ “หงส์แดง” นั้นแบ่งเป็น เท้าขวา 10 ลูก,โหม่ง 7 ลูก และเท้าซ้าย 7 ลูก


ยิ่งไปกว่านั้น  “การยิงประตูสำคัญ" นั้น นับตั้งแต่มาอยู่แอนฟิลด์ ปรากฎว่า โชต้า มีสัดส่วนของประตูสำคัญเหล่านี้มากกว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง มิน แม้กระทั่ง โม ซาลาห์!!!!


สถิติระบุว่า มันยากที่จะทำประตูสำคัญๆ ได้ดีกว่า โชต้า ผู้เล่นคนอื่นอาจทำประตูได้มากกว่า แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะพวกเขาลงเล่นมากกว่าก็เท่านั้น


…………เมื่อเป็นแบบนี้ โชต้า ได้จากไป ลิเวอร์พูล และโลกฟุตบอล ได้เสียนักเตะระดับมันสมอง และเล่นบอลสองได้ดีที่สุด ไปอีกหนึ่งคน

มนุษย์เราไม่จำเป็นต้องเล่นบท “พระเอก” แต่เป็น “พระรอง” ที่คอย “ประคองพระเอก” บางทีก็ดูดีกว่าเป็นไหน ๆ 

“โรบิน”แห่งแอนฟิลด์ ด้วยทัศนคติอันยอดเยี่ยม เป็นเพื่อนพระเอกที่เก่งที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล และตลอดไป……….


Diogo Jota— The Absolute Portuguese Scouser!


บี แหลมสิงห์


สถิติ“โชต้า”กับลิเวอร์พูล


2020-21 ลง 30 นัด บอลลีก 19 นัด 13 ประตู แอสซิสต์ 1 ประตู
2021-22 ลง 55 นัด บอลลีก 35 นัด 21 ประตู แอสซิสต์ 6 ประตู
2022-23 ลง 28 นัด บอลลีก 22 นัด 7 ประตู แอสซิสต์ 8 ประตู
2023-24 ลง 32 นัด บอลลีก 21 นัด 15 ประตู แอสซิสต์ 4 ประตู
2024-25 ลง 37 นัด บอลลีก 26 นัด 9 ประตู แอสซิสต์ 3 ประตู
 


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กลับถึงบ้าน! ร่ำไห้รับ“โชต้า”-ทำพิธีศพเสาร์นี้ กลับถึงบ้าน! ร่ำไห้รับ“โชต้า”-ทำพิธีศพเสาร์นี้
  • ฟ้าหลังฝน...คนแดนกระทิง!กับบอลหญิงชิงเจ้ายุโรป2025 ฟ้าหลังฝน...คนแดนกระทิง!กับบอลหญิงชิงเจ้ายุโรป2025
  • รักของขวัญใจมหาชน!\'รอนนี่\'เยียวยาครั้งใหญ่เพื่อกลับมาเป็นแชมป์ รักของขวัญใจมหาชน!'รอนนี่'เยียวยาครั้งใหญ่เพื่อกลับมาเป็นแชมป์
  • ผ่าแข้งแบ๊กใหม่ 40 ล้านปอนด์ ช่วยหงส์ป้องแชมป์ ผ่าแข้งแบ๊กใหม่ 40 ล้านปอนด์ ช่วยหงส์ป้องแชมป์
  • จับตา!เปิดตลาดแข้งรอบใหญ่ คาดซื้อเดือดล่าแชมป์2025-26 จับตา!เปิดตลาดแข้งรอบใหญ่ คาดซื้อเดือดล่าแชมป์2025-26
  • The Never Ending Story  ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก2025 The Never Ending Story ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก2025
  •  

Breaking News

สัมพันธ์แน่นแฟ้น! ผบ.ทสส.เยือนเวียดนาม กระชับความร่วมมือกลาโหม

'โตโน่'สุดซึ้ง! แฟนคลับในสวีเดนส่งการ์ดให้กำลังใจ

'ในหลวง-พระราชินี'พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของ แก่อาสาสมัครทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ

'ตั้ม วิชญะ'ไลฟ์แจงดราม่า'หญิงออน' วอนอย่าโยงแม่'ดวงดาว'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved