อเล็กซานเดอร์ อิซัค หัวหอกคนดัง ต้องการพิจารณาทางเลือกในการย้ายออกจาก "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากพลาดการทัวร์ปรีซีซั่นในเอเชีย

สโมสรได้คัดเลือกผู้เล่น 30 คน แต่ระบุว่ากองหน้าชาวสวีเดนรายนี้ว่า ที่ไม่ได้ไปเตะที่ฟาร์อีสต์ ด้วยการให้เหตุผลว่า "บาดเจ็บเล็กน้อยที่ต้นขา"

แทบจะหาคนเชื่อไม่มี

ยิ่งสถานการณ์มันตรงกันข้ามกับ ลูอิส ฮอลล์ กองหลังซึ่งไม่ได้ลงเล่นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ก็ถูกรวมอยู่ในทีมทัวร์ด้วย

ยิ่งดูแย่ไปใหญ่ 

เป็นที่เข้าใจกันว่า สโมสรชั้นนำของยุโรปหลายแห่งทราบดีว่า อิซัค กำลังมองหาก้าวใหม่ในอาชีพของเขา

บ้างก็ระบุว่า มีปัญหาในการเจรจากับ พอล มิตเชลล์ สปอร์ตติ้ง ไดเรคเตอร์ เรื่องสัญญาใหม่ และตอนนี้ มิตเชลล์ ก็ไม่อยู่แล้ว

อิซัค ยกระดับตัวเองอย่างมากในซีซั่นที่ผ่านมา หลังจากไม่ค่อยเจ็บ และทำไป 27 ประตูจากการลงเล่น 42 นัดในทุกรายการให้กับนิวคาสเซิล

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล กล่าวว่า อิซัค จะ "เป็นส่วนหนึ่งของทีม" อย่างแน่นอนสำหรับเกมที่สิงคโปร์และเกาหลีใต้

แต่มีเรื่องแปลก ๆ ตรงที่ว่า อิซัค พลาดลงเล่นในเกมปรีซีซั่นนัดแรกที่พ่ายเซลติก 0-4 โดย ฮาว บอกว่า มีอาการเจ็บและส่งตัวกลับ ทั้งที่จริง ๆ แล้วอยู่กับทีมก่อนก็ได้

ฮาว ยังให้สัมภาษณ์แปลก ๆ หลังเกมกับ เซลติค ว่า เขา "มั่นใจ" ว่านักเตะจะอยู่กับสโมสรในช่วงต้นฤดูกาล และเป็นเรื่องยากสำหรับตัวเขาที่จะให้คำชี้แจงที่ชัดเจน 100% เกี่ยวกับนักเตะคนใดคนหนึ่ง

"อเล็กซ์มีความสุขกับนิวคาสเซิล เขารักนักเตะที่เขาเล่นด้วย ทีมงาน และทีม และผมไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับเขาเลย" ฮาว กับ BBC 

ผมว่ามันชอบกล

นิวคาสเซิล ยังคงชัดเจนเหมือนเดิมตรงที่พวกเขา "ต้องการ" และ "ขอยืนยัน" ว่า อิซัค ไม่ได้มีไว้ขาย และไม่ต้องการขายนักเตะคนสำคัญออกไปจากทีม

ผู้สื่อข่าวสายเลือดจอร์ดี้หลายคนก็ระบุตรงกันว่า สโมสร ยังมีความปรารถนาและทำทุกวิถีทางให้ อิซัค อยู่กับทีมต่อไปอย่างน้อยอีกหนึ่งฤดูกาลแต่ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักฟุตบอล

นิวคาสเซิลจะพบกับอาร์เซนอลในวันอาทิตย์ที่สิงคโปร์ ก่อนที่จะเดินทางไปเกาหลีใต้ เพื่อพบกับทีมเคลีกออลสตาร์ในวันที่ 30 กรกฎาคม และท็อตแนมในวันที่ 3 สิงหาคม

"เดอะ ฮ็อตช็อต" อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงขวัญใจมหาชน ให้สัมภาษณ์ประมาณว่า อิซัคไม่ได้ร่วมทัวร์เอเชียนั้นเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ ถือเป็นเรื่อง 'ไร้สาระ'

"เอาเข้าจริงควรจะบอกความจริงไปตรง ๆ มันไร้สาระมากที่ นิวคาสเซิล ออกมาพูดว่า อิซัค เจ็บ เพราะถ้าพวกเขาคิดว่าคนอื่นจะมองไม่เห็น... มันก็น่าผิดหวัง"

"ผมเข้าใจว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา แต่มันก็เป็นแบบนี้แหละ ฟุตบอลมันเป็นแบบนี้แหล่ะ!"

"สุดท้าย คุณต้องได้ข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับสโมสรฟุตบอล และหากใครก็ตามยินดีจ่ายมากกว่า 150 ล้านปอนด์ และหากเขาต้องการย้ายทีมจริงๆ คุณก็ไม่สามารถก้าวข้ามเขาได้"

สถานการณ์ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค มีตัวแปรมากมาย 

1.ค่าจ้าง

2.ความทะเยอทะยาน

3.ระดับการลงทุนใน "โครงการ" 

4.ข้อจำกัดของ PSR 

5.การลาออกของผู้อำนวยการกีฬา 

6.ความดึงดูดใจของลิเวอร์พูล ฯลฯ 

แต่สถานการณ์จะพัฒนามาถึงจุดนี้หรือไม่ ลองนึกภาพว่า เวลานี้ยังเป็น อแมนดา สเตฟลีย์ ที่ยังอยู่กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 

สเตฟลีย์ ดูเหมือนจะเป็นสื่อกลางที่น่าเชื่อถือระหว่างนักเตะและคณะกรรมการเสมอ เธอคอยประสานและคลี่คลายความตึงเครียดได้อย่างรวดเร็ว 

ท่าทีที่ อิซัค มองหาตัวเลือกใหม่ ๆ อาจเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด สเตฟลีย์ อาจเป็นระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับคณะกรรมการให้รับทราบเกี่ยวกับความไม่พอใจของ อิซัค 

นิวคาสเซิล ดูเหมือนจะลอยอยู่ในทะเลของ PSR และเจ้าของทีม ที่ห่างไกลเรื่องภายในทีม

จากปฏิกิริยาต่อสถานการณ์ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีอันสูญเสียความไว้วางใจจากแฟนๆ บางส่วน 

เนื่องจากข้ออ้างเรื่อง "อาการบาดเจ็บต้นขาเล็กน้อย" ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้ อิซัค พลาดการทัวร์ปรีซีซั่นในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็น ลูอิส ฮอลล์ ที่กำลังพักฟื้นหลังจากไม่ได้เล่นมาครึ่งปี ก็หอบเสื้อผ้าไปกับทีมด้วย

นิวคาสเซิล มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารที่ดี และพวกเขาจำเป็นต้องทำงานร่วมกับ เอ็ดดี้ ฮาว และคณะกรรมการ เพื่อทวงคืนเรื่องราว มันคือการส่งสารถึงแฟนๆ ว่า "โครงการ" ของทีมจะไม่พังทลายลงเพราะความเป็นไปได้ที่ดาวดังจะย้ายออกไป 

ต้องแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความทะเยอทะยาน และกำลังทำงานภายใต้ข้อจำกัดของ PSR แม้จะน่าหงุดหงิดเพียงใดก็ตาม

พวกเขายังต้องส่งข้อความถึง อิซัค โดยเปิดประตูห้องแต่งตัวไว้ เผื่อในกรณีที่เขาเปลี่ยนใจ การส่งข้อความคือกุญแจสำคัญในตอนนี้

ตัวอย่างคือ ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะผลงานอันยอดเยี่ยมของอิซัคที่นิวคาสเซิล เขาได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากเพื่อนร่วมทีมที่มีพรสวรรค์, พัฒนาฝีเท้าจากโค้ชที่ยอดเยี่ยม และได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลที่คลั่งไคล้ที่สุดทีมหนึ่งของวงการลูกหนัง ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก 

นิวคาสเซิล ทำแบบนั้นเพื่ออิซัค พวกเขาช่วยทำให้ อิซัค คนนี้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์

ท้ายที่สุดแล้ว มันอาจไม่เปลี่ยนใจ อิซัค ได้ แต่มันเป็นการส่งสารไปยังนักเตะที่กำลังตัดสินใจให้รู้สึกได้ว่า เซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมเพียงใด หากสถานการณ์ดูเหมือนจะแก้ไขไม่ได้ และเขาตั้งใจที่จะย้ายทีม ก็ควรเน้นย้ำถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของเขาอีกครั้ง และให้เห็นถึงเหตุผลที่สโมสรให้ค่าตัวเขาสูงมาก 

มูลค่าของเขาสูงถึง 130 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

เรื่องการสื่อสาร สิ่งสำคัญคือคณะกรรมการสโมสรต้องเน้นย้ำว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับ ฮาว มากเพียงใด และหาก อิแซคย้ายออกไปก็ควรใช้เงินให้คุ้มค่า 

พวกเขาเคยเสียนักเตะชั้นดีไปมากมาย หนึ่งในนั้นคือ แอนดี้ โคล แต่กลับสร้างทีมขึ้นมาใหม่ จนเกือบจะได้แชมป์ลีก ในปี 1996 สถานการณ์แบบนี้ต้องสร้างความเชื่อมใั่นไม่ใช่กลัว

นิวคาสเซิ่ล ต้องสร้างความไว้วางใจให้กับแฟนๆ อีกครั้ง แม้แต่แพลตฟอร์มของแฟนๆ ที่ปกติให้การสนับสนุนก็ยังวิพากษ์วิจารณ์สโมสรและ อิซัค อย่างหนัก แต่อย่าหลอกแฟนบอล 

การโพสต์รูปนักเตะยิ้มแย้มมากมาย อาทิ ติโน ลิฟราเมนโต, โชอาลินตอน และบรูโน กิมาไรส์ นั่งอยู่บนเครื่องบินไปสิงคโปร์ ถือเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องปกติของสโมสร 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ มีที่นั่งว่างบนเครื่องบิน

การโพสต์รูปโค้ชสโมสรหน้าโรงแรมของทีมพร้อมข้อความ "สวัสดีสิงคโปร์!" เป็นเรื่องที่ดี แต่การได้รับคำตอบแบบ "อิซัคอยู่ไหน" มากมายนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นเรื่องยากสำหรับการทำงานของแอดมิน หนึ่งในความคิดเห็นที่รอบคอบที่สุดจากแฟนนิวคาสเซิลคือ "น่าจะมีการสื่อสารจากสโมสรบ้าง ให้ความกระจ่างและข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปและสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น" 

นี่คือคำถามที่ชาญฉลาด แน่นอนว่า สโมสรก็จะต้องตอบคำถามที่ชาญฉลาดด้วย

การได้รับคำเตือนจากคณะกรรมการ ว่า พวกเขาก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นเดียวกับแฟนบอล และยังคงมุ่งมั่นต่อไปนั้นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม 

ดังนั้นแฟน ๆ นิวคาสเซิลสมควรได้รับคำอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และควรได้รับความมั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของทีม

ทีนี้ทีมใดบ้างที่สามารถจ่ายเงินกับความเหมาะสม ณ เวลานี้ ให้กับ อิซัค ได้บ้าง?

อิซัค มีสัญญาอีก 3 ปี และเดอะแม็กพายส์ ซึ่งอยู่ภายใต้กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย อยู่ในสถานะที่สบายใจด้วยกฎกำไรและความยั่งยืน (PSR) ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่จะขายนักเตะ

สโมสรส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีกไม่สามารถเทียบเคียงกับมูลค่า 130 ล้านปอนด์ที่ นิวคาสเซิล ประเมินแข้งของ อิซัค ไว้ได้

ก่อนหน้านี้ อาร์เซนอล เคยให้ความสนใจและมีงบประมาณ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็หันไปสนใจ วิคเตอร์ เกียวเคอเรส เพื่อนร่วมชาติชาวสวีเดนของเขา และใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเงินทุนพอที่จะคว้าตัว อิซัค แต่ไม่น่าจะย้ายทีมโดยมีเออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ ๆ เซ็นสัญญาอยู่กันจนเถ้าแก่ไม่แก่เฒ่าจนถึงปี 2034

เชลซี เพิ่งซื้อคนในตำแหน่งเดียวกันทั้ง เลียม ดีแลป และชูเอา เปโดร มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย

สำนักข่าวหลักต่างประเทศ มองว่า ลิเวอร์พูล "ยังคง" สนใจในตัวของดาวยิงวัย 25 ปีรายนี้ แม้ว่าจะเซ็นสัญญาแนวรุกในตำแหน่งทีใกล้เคียกันอย่าง อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าชาวฝรั่งเศส วัย 23 ปี จากไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต เพิ่งจะเกิดขึ้นไปหมาด ๆ ด้วยค่าตัวเงินสด 69 ล้านปอนด์

รวมถึงเป็นทีมเดียวที่ซื้อได้เพราะ PSR ยังคงสดใสไผ่สีทอง

หากมองข้ามไปวงนอก บาเยิร์น มิวนิค ยังต่อยับอยู่เลยกับการซื้อ หลุยส์ ดิอาซ กับ นิค โวเตอมาเดอ 

เรอัล มาดริด ก็มี คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ค้ำอยู่หมุดนี้

บาร์ซ่า อดีตเจ้าบุญทุ่มตอนนี้โยกไปแล้วไม่รู้กี่โยก 

เศรษฐกิจแบบนี้ต้อง "เสี่ยคะนิน" แล้วละครับ "เฮียคะน้า" ไม่สู้ราคานี้

สุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลคือการ "คาดการณ์" 

ทางออกคือการเจรจาโดยสันติวิธี แต่ไม่รับวิธีนี้

ก็ต้องขาดกัน.....

บี แหลมสิงห์