พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2025-26 คือ ปีที่ 127 ของฟุตบอลลีกอังกฤษ เป็น ฤดูกาลที่ 34 ในยุคพรีเมียร์ลีก เตรียมเปิดฉากขึ้น

โดยปีนี้มี 20 สโมสรลงทำการแข่งขันเหมือนเดิมแชมป์เก่าคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งครองแชมป์สมัยที่ 20 สูงสุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเมืองผู้ดี พร้อมกับมีสามสโมสรที่เลื่อนชั้นขึ้นมาใหม่ประกอบด้วย ลีดส์ ยูไนเต็ด, เบิร์นลี่ย์  และซันเดอร์แลนด์ 

ซึ่งฤดูกาลนี้มีการเปลี่ยนแปลงกฎและนวัตกรรม ที่โดดเด่นหลายประการ และยึดถือเรื่องราวแบบเดิม

1.ซีซั่นนี้กฎการตัดสินอันดับต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม ประกอบด้วย 1.คะแนนมากที่สุด, 2.ประตูได้เสีย และ 3.ประตูที่ยิงได้ 

2.เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังอังกฤษที่ จะใช้ระบบเซมิออโตเมท(semi-automated offside technology ) มาร่วมตัดสินแบบเต็มฤดูกาลหลังจากที่ใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2025 ที่ผ่านมาในเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตีกับคริสตัล พาเลซ , 

3.มีการเปลี่ยนผู้ผลิตลูกฟุตบอลมาเป็นพูม่า หลังจาก พรีเมียร์ลีก ใช้แบรนด์ไนกี้ มายาวนานถึง 25 ปี มีชื่อว่า “PUMA Orbita Ultimate PL” ซึ่งมาในสีชมพู-ม่วง

4.กล้องที่ผู้ตัดสินสวมใส่ หรือ Ref-Cams ซึ่งทดลองใช้ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณานำมาใช้

5.ฤดูกาลนี้มีหนึ่งทีมที่ย้ายสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการนั่น คือสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันที่ย้ายจากสนามเดิมคือ “กูดิสัน พาร์ค” ซึ่งใช้มาทั้งสิ้น 133 ปีไปอยู่ที่สนามใหม่ “ฟิล ดิคเคลสัน สเตเดียม” ในย่านแว็คซ์ฮอลล์ เมืองลิเวอร์พูล ความจุ 52,769 ที่นั่ง

6.มีเพียงแค่ 2 สโมสรเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม ประกอบด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ปลด แองจ์ ปอสเตโตกลู ออกจากทีม แล้วไปดึง โธมัส แฟรงค์ จากเบรนท์ฟอร์ด มาทำหน้าที่แทน และ เบรนท์ฟอร์ด เลือก คีธ แอนดรูว์ ชาวไอร์แลนด์ มาถือบังเหียนแทน 

7.ฤดูกาลนี้การแข่งขันจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 33 สัปดาห์ และจะเตะกลางสัปดาห์ รวมทั้งหมด 5 นัด 

8.การแข่งขันจะเริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2026 

9.ขณะนี้พรีเมียร์ลีกใช้เงินไปแล้วถึง 2,000 ล้านปอนด์ คาดว่าจะพังสถิติการซื้อตัวซัมเมอร์ได้ สถิติเดิมคือ ยอดใช้จ่ายสูงสุดที่ 2,360 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2023

10.พระราชบัญญัติการกำกับดูแลฟุตบอล (Football Governance Act) จะให้อำนาจแก่หน่วยงานที่เป็นอิสระจากรัฐบาลและหน่วยงานด้านฟุตบอล

จำเป็นต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลฟุตบอลอิสระ เพื่อต่อต้านเจ้าของสโมสรที่ประมาทเลินเล่อและขาดความระมัดระวัง ในการเข้ามาลงทุนและทำให้ทีมตกต่ำจากการบริหารที่ไม่ดี

11.นำนวัตกรรมการถ่ายทอดสดบางช่วงในห้องแต่งตัว และสัมภาษณ์ผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวระหว่างเกม มานำเสนอในการดูระหว่างการถ่ายทอดสด

ขณะเดียวกัน ในช่วงระหว่างการดีใจที่ทำประตูได้นั้น กล้องถ่ายทอดยังได้รับอนุญาตให้เข้าสนาม เพื่อบันทึกภาพใกล้ชิดมากกว่าเดิมอีกด้วย

พรีเมียร์ลีกมีการถ่ายทอดสดไปยัง 900 ล้านครัวเรือนใน 189 ประเทศทั่วโลก 

12.กฎ 8 วินาทีสำหรับผู้รักษาประตู ในการปล่อยบอล การนับถอยหลังจะเริ่มเมื่อผู้รักษาประตู ครองบอลได้สมบูรณ์และไม่มีคู่ต่อสู้ขัดขวาง กรรมการจะเป็นผู้กำหนดเวลาเริ่มนับ หากนานเกินไป

การลงโทษคือ ครั้งที่ 1 = เตะมุม, ครั้งที่ 2 = เตะมุมและเตือน, ครั้งที่ 3 = เตะมุมและใบเหลือง เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นทั่วไปเพื่อลดการเสียเวลา

13.แคมเปญต่างๆ นักเตะ ประกอบด้วย 1.ต่อต้านการเหยียดเผ่าพันธุ์ด้วยการ “คุกเข่า” หรือ “No Room For Racism” เดือนตุลาคม , 2.การมีส่วนร่วมของกลุ่ม LGBTQ+ เดือนกุมภาพันธ์, 3.โครงการ “More than a game” เดือนมีนาคม ที่เน้นย้ำถึงผลกระทบทางสังคมของพรีเมียร์ลีกและสโมสร และ 4.โครงการ “Inside Matters” เดือนพฤษภาคม เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี

บี แหลมสิงห์