ฟุตบอลหญิง รายการชิงแชมป์อาเซียน 2025 ASEAN Women's Championship ครั้งที่ 13 ที่เวียดนาม จบลงเป็นที่เรียบร้อย


แชมป์ตกเป็นของทีมชาติออสเตรเลียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีด้วยกันเฉือนชนะเมียนมาร์ ไปได้ 1-0 ที่เมืองไห่ ฟง ซึ่งอาจจะไม่แปลกที่เราได้เห็น ออสเตรเลีย ได้แชมป์ 


แต่สิ่งที่เห็นชัด ชัดเจนมากที่สุดนั่นก็คือทีมชาติไทยแทบจะไม่มีโอกาสได้เหรียญทองซีเกมส์เลย


ซีเกมส์ 4 สมัยหลังสุดแชมป์ตกเป็นของเวียดนาม ซึ่งครั้งนี้นักเตะตระกูลเหงียนตกรอบรองชนะเลิศเมื่อต้านพลังของนักฟุตบอลจะแดนดาวน์อันเดอร์เอาไว้ไม่ไหวแพ้ไป 1-2 


ซึ่งทีมชาติไทยของเราจบในอันดับที่ 4 แพ้ให้กับเวียดนาม 1-3 


ฟูโตชิ อิเคดะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังการว่า ทีมของเราเป็นทีมทีมที่มีผู้เล่นอายุน้อย ยังคงต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์และแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นค่อยข้างมาก เราจะต้องแก้ไขและพัฒนาทีมกันต่อไป


“ในซีเกมส์ช่วงปลายปีนี้ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ เรายังมีเวลาก่อนที่จะถึงทัวร์นาเมนต์นั้น เราจะต้องพยายามเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดของเราไปแข่งในซีเกมส์ เพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ทีมในอาเซียนที่พัฒนาขึ้นมา แต่ฟุตบอลหญิงทั่วโลกกำลังพัฒนาขึ้นมาเหมือนกัน”



หลังจากนี้ สตาฟโค้ชจะร่วมประชุมกับผู้บริหารสมาคมฯ เพื่อวางแผนสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อไป รวมถึง ฟุตบอลหญิงในมหกรรมซีเกมส์ ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนธันวาคมนี้


บอกตามตรงว่า ถึงจะไปงัดเอาตัวที่ดีที่สุดมาเล่นในเวลานี้ การเข้าใจในแทคติค และระบบการเล่นต่าง ๆ น่าจะ “ไม่ทันการณ์” และท่ามะกา


เวียดนาม กับ เมียนมาร์ แสดงให้เห็นถึง “ศักยภาพ” ที่น่าสนใจ และการเล่นกันมานาน พวกเธอผสมผสานเกมได้ค่อนข้างลงตัว


สิ่งสำคัญคือ ไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อนที่ “วิ่งไล่” หรือ “วิ่งเข้าใส่” แล้วอาศัยยิงแรง ๆ ยิงโด่ง ๆ ยิงย้อย ๆ อีกแล้ว


เริ่มจาก เวียดนาม กันก่อน ที่พวกเขาเลือก ไม ดุ๊ค ชุง วัย 74 ปี ที่เป็นกุนซืออายุมากที่สุดในบรรดาทีมชาติหญิงของฟีฟ่า กลับมาทำทีมอีกครั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว ถือเป็นรอบที่ 5 ที่กลับมาทำงานตรงนี้ หลังจากจับงานหนแรก ปี 1997


“ลุงไม” รู้ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติฟุตบอล การันตีด้วย 5 เหรียญทองซีเกมส์ ปี 2003, 2005, 2017, 2019, 2021, 2023 พร้อมกับเคยเข็นทีมไปจนถึงอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ มาแล้ว ในการเตะที่อินชอน 


ตำนานเวียดนาม ลู หง็อก ไม กองหน้า, ดวน ถื คิม ชี  รวมถึง หวั่น ถิ ตรันห์ คือผลผลิตชั้นเยี่ยม และแนวทางการเล่น “ไม่โบราณ”


ระบบ 3-4-3 สลับกับการเล่นเกมรับ 5-4-1 มีแนวทางการเล่นชัดเจน ชาง ถิ เกียว เป็นหัวใจในแนวรับ และได้สองสต็อปเปอร์ที่ดี เล ถิ เดีม ไม กับ ตรัน ถิ ทู ทำให้วางใจได้ ส่วนแนวรุก เหงียน ถิ บิต ทุย , เหงียน ถิ ทันห์ ฮา และฮุนห์ นู ไว้ใจได้


สำคัญคือการเล่นร่วม และตัวเปลี่ยนดีน่าสนใจ


ขณะที่ เมียนมาร์ ทุกคนทำงานเป็นระบบตามที่ เท็ตสุโระ ยูกิ กุนซือญี่ปุ่น ต้องการ และทำให้ ออสเตรเลีย เจาะไม่เข้าแทบจะทั้งเกมในนัดชิง


บอลของ เมียนมาร์ แข็งแกร่ง อดทนเป็นเลิศ ในระบบกองหลังไลน์โฟร์ ซุน ยู ยา อู กับ พยู พเว เป็นคู่เซ็นเตอร์แบ๊กที่แข็งแกร่งมาก โดย ยา อู อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยมี พยู พเว เป็นตัวชน 


ถ้า เวียดนาม มี ชาง ถิ เกียว ที่้คอยสกัดไปทั่วทุกพื้นที่ เมียนมาร์ ก็มี ลิน เล อู แบ๊กขวา ที่วิ่งเข้ามาช่วยปิดพื้นที่ในตำหน่งเซ็นเตอร์อย่างรวดเร็ว รวมถึงกองกลางที่ปักเป็นหลักอย่าง พิว พิว วิน ที่เจาะยาก


ขณะที่เกมรุกมีนักบอลที่ไปกับบอลได้ดีถึง 2 คน คือ ซัน ตอว์ ตอว์ กับ ขิ่น โม โม ตุน โดยมี วิน เธียกี ตุน กัปตันทีมที่ค้าแข้งอยู่ในลีกมาเลเซีย ที่ยืนเป็นหน้าเป้า จะเคลื่อนออกนอกพื้นที่ไปเก็บบอล และเล่นกับ ตอว์ ตอว์ และ โมโม ตุน อย่างเข้าอกเข้าใจ


จริงอยู่ที่บอลหญิง อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่มันยากมากหาก ไทยเราที่กำลังผลัดใบต้องไปเจอกับกระดูกชิ้นใหญ่ถึง 2 ชิ้นเป้ง ๆ แบบนี้


ผมไม่แปลกใจเลย หาก เวียดนาม จะป้องกันเหรียญทองซีเกมส์ไว้ได้ หรือว่า เมียนมาร์ จะคว้าแชมป์เป็นหนแรก


แต่จะประหลาดใจสุด ๆ หาก ไทย เป็นแชมป์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013


#บีแหลมสิงห์™️✍????