ดาร์บี้แมทช์ ครั้งที่ 197 ของสองทีมเมืองแมนเชสเตอร์ หรือ “แมนคูเนี่ยน ดาร์บี้” กำลังจะดวลแข้งกัน ถือว่าโคจรมาเจอกันเร็วมาก เพียงแค่นัดที่ 4 ของซีซั่น
“เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะรับมือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้ 22.30 น.
เจอกันครั้งแรก 12 พฤศจิกายน 1881 ยังไม่มีชื่อทั้งเรือทั้งผี แต่มาในนามของ เซนต์ มาร์ก เวสต์ กอร์ตัน(แมนฯซิตี้) กับ นิวตัน ฮีธ(แมนฯยูไนเต็ด) ซึ่ง ฮีธ ชนะไป 3-0
เข้าสู่นัดที่ 197 ที่ผ่านมา แมนฯยู เหนือกว่าด้วยการชนะ 80 เสมอ 55 ซิตี้ ชนะ 61
สถานการณ์ปัจจุบัน แมนฯยู อันดับเหนือกว่า แต่คนกลับเป็นห่วงในเรื่องฟอร์มมากกว่า
ประเด็นอื่น ๆ น่าติดตามแล้ว แต่ประเด็นของผู้รักษาประตูทั้งสองฝั่งนั้นน่าสนใจยิ่ง
เนื่องจากซีซั่นที่ผ่านมา นายประตูมือ 1 ของทั้งสองทีม “ไม่เสถียร” เอาซะเลย
ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันก่อน
เอแดร์ซอน โมราเอส เข้ามาเติมเต็มทุกสิ่งอย่างให้กับทีม เป็นการเล่นบอลด้วยเท้าตามที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการ หลังจากพยายามหามาตั้งแต่เข้ามาทำงาน เพราะ โจ ฮาร์ท ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจอยาก
เคลาดิโอ บราโว่ จึงถูกนำเข้ามาแต่ก็เล่นผิดพลาดมากมาย จนกระทั่ง เอแดร์ซอน โยกมาจากเบนฟิก้า
อยู่กับทีมมา 8 ปี เอแดร์ซอน ฟอร์มเริ่มตก และมีอาการบาดเจ็บ ลงเล่นในลีกแค่ 26 เกม และต้องไปใช้บริการของ สเตฟาน ออร์เตก้า ตัวสำรองจากเยอรมนีมากถึง 13 เกมในลีก สุดท้ายต้องย้ายไป เฟเนร์บาห์เช่ ในตุรกี ด้วยวัย 32 ปี
เอแดร์ซอน ไม่เพียงแต่มีผลงาน 122 คลีนชีต จาก 276 เกมในลีก แต่การ “เปิดบอลด้วยเท้า” ถือว่าสำคัญอย่างมาก เป็นส่วนผสมสำคัญของ “เป๊ปทีม”
เป๊ป ตัดสินใจเข้าตลาดนักบอลอย่างฉับไว และใช้อ็อปชั่นไปซื้อ เจมส์ แทรฟฟอร์ด กลับมาจากเบิร์นลี่ย์ ด้วยราคาถึง 31 ล้านปอนด์ หลังจากอดีตเด็กปั้นของซิตี้ เสียประตูในลีกเพียง 16 เม็ดเท่านั้นในการเตะแชมเปี้ยนชิพ 45 นัด เมื่อปีก่อน และคลีนชีตถึง 29 เกม
แต่เมื่อ แทรฟฟอร์ด ผิดพลาด เป๊ป จึงลงโทษทันที ด้วยการไปซื้อ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายประตูระดับท็อปของโลก จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้ายุโรป มาร่วมทีมทันที และทันเวลาในวันปิดตลาด
ด้วยวัย 26 ปี ค่าตัวกลับถูกกว่า แทรฟฟอร์ด ด้วยซ้ำ เมื่อดีลจบในราคา 26 ล้านปอนด์ แบบน้อยกว่าค่าตัวประเมินเกือบครึ่ง
ประเด็นคือ คว้าตัวมีประสบการณ์มาแบบนี้ ไม่มีทางที่จะ “เป็นสำรอง”
ดอนนารุมม่า ผ่านศึกเหนือเสือใต้มานับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่ตรงกับสเป็คฟุตบอลของ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือเปแอสเช ที่ต้องการให้ทุกคนในทีม “คอนโทรล” ได้ทั้งหมด ในสไตล์การเล่นแบบ “เท้าสู่เท้า” ดังนั้น นายประตูในอุดมคติต้องใช้เท้าได้ดี และเซฟได้ดีในเวลาคราเดียว
ลงท้าย เอ็นริเก้ ไปคว้าตัว ลูกาส์ เชวาลิเยร์ จาก ลีลล์ มาเฝ้าเสา และตัดชื่อ ดอนนารุมม่า ออกจากทีมในเกมซูเปอร์คัพ หลายคนนำกรณีนี้เปรียบได้เหมือนกับตอนที่เขาเลือก อูไน ซิม่อน เฝ้าเสาทีมชาติสเปน ทั้งที่ ดาบิด เด เคอา ในเวลานั้นดีกว่าเป็นไหน ๆ
มันจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญในวันที่ 31 สิงหาคม จนถึงวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดว่า ดอนนารุมม่า จะไปอยู่ที่ไหน
นี่เป็นดีลที่น่าจับตามองมากว่า ท้ายสุดแล้วผู้รักษาประตูคนนี้จะมาอยู่ที่ไหน เพราะมี 3 ทีมระดับใหญ่ทั้ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ซิตี และ เชลซี ทีมกำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่
เพราะมันมีผลต่อการลุ้นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย
ลงท้าย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า จอมหนึบอิตาเลี่ยน มาอยู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สถิติอาชีพ (ระดับสโมสร)
ลงเล่นทุกสโมสร: 435 นัด
คลีนชีต: 147 นัด
เสียประตู: 331 ลูก
เซฟ: 925 ครั้ง
เซฟจุดโทษ: 10 ครั้ง
นาทีที่ลงเล่น: 28,294 นาที
สโมสรที่ลงเล่นให้: เอซี มิลาน (2015–2021)
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (2021–2025)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2025–ปัจจุบัน)
สถิติทีมชาติ – อิตาลี
ลงเล่น: 74 นัด
ประเดิมสนาม: 1 กันยายน 2016
เมื่อซื้อมือระดับนี้มา เชื่อว่า ดอนนารุมม่า จะได้เปิดตัวในเกมนี้อย่างแน่นอน
ตรงกันข้ามกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวกับนายประตูมากมายหลายคน และเป็นพวกระดับท็อปของโลกแทบทั้งนั้น นอกจาก ดอนนารุมม่า ก็คือ เอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ โกล์ระดับแชมป์โลกของแอสตัน วิลล่า ที่หมดสัญญาพอดี
สุดท้ายหวยไปออกไปที่ เซนเน ลามเมนส์ โกล์วัย 23 ปีจากรอยัล อันท์เวิร์ป 18.1 ล้านปอนด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมได้ดูมาตั้งแต่ยุคของ แกรี่ เบลี่ย์ กลางทศวรรษที่ 80 เรื่อยมาจนยุคเรืองของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ก่อนจะมาถึงยุค เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และดาบิด เด เคอา คือหนึ่งในจอมยุทธ์ที่หยุดเลือดได้เยี่ยมยอด
มีคำกล่าวที่ว่า แมนฯยูไนเต็ด หาใครเป็นประตูที่ดีไม่ได้เลย เมื่อหมดยุคของ ปีเตอร์ ชไมเคิล แม้กระทั่งนายประตูแชมป์โลกอย่าง ฟาเบียน บาร์กเตซ ก็ทดแทนไม่ได้ จนกระทั่งการมาของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทุกอย่างจบไป
ยิ่งมาถึง เด เคอา ทุกอย่างจบเลย
ตำนานความยุ่งวุ่นวายตั้งแต่สมัยที่ จิม เลห์ตัน ที่ถูก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หอบหิ้วกันมาจาก อเบอร์ดีน แล้วถูก “ปลดกลางอากาศ” ในเกมรีเพลย์แมทช์ชิงเอฟเอ คัพ ปี 1990 หลังจาก เลห์ตัน ทำเออร์เรอร์ แล้วให้ เลส ซีลี่ย์(ผู้ล่วงลับ) มาทำหน้าที่แทน สุดท้ายทีมก็ชนะ คริสตัล พาเลซ ได้สำเร็จ
ถือเป็นตัวอย่างและเป็นพิมพ์เขียวระดับโลกในยุคแรกของ มิสเตอร์เฟอร์กี้ ก่อนจะเป็นเซอร์เฟอร์กี้ ในกาลต่อมา
ว่ากันว่า หากคนเราสามารถนั่งไทม์แมชชีน กลับไปแก้ไขอดีตได้ หนึ่งในจุดที่ เอริค เทน ฮาก อดีตกุนซือแมนฯยูไนเต็ด(2022-2024) ควรทำก็คือ ไม่ขาย ดาบิด เด เค อา และซื้อ อังเดร โอนาน่า มาแทนที่
หรือไม่ก็ทำแบบเดิมนี่แหละ แต่หานักเตะที่มาช่วย “เล่นด้วยเท้า” ในการบิวดิ้อัพที่เขาอยากได้
เวลานี้ รูเบน อโมริม ได้ตัดสินใจแก้ปัญหานี้แล้ว
เขาปล่อย อังเดร โอนาน่า ออกไปจากทีมด้วยสัญญายืมตัวกับ แทรบซอนสปอร์ ในตุรกี และเชื่อว่ายังไงก็ต้อง “ขายทิ้ง”
ลงเล่น 102 นัด
เสียไป 150 ประตู
คลีนชีต 24 นัด
ทำพลาดเสียประตูแบบเออร์เรอร์ส ถึง 18 ลูกด้วยกัน
การประกาศเลือก บายินดีร์ ลงสนามก่อน ไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากตัวเขาเข้าใจดีแล้วว่า แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่บ้านเรือใบ มันจะเกิดอะไรขึ้น
การเลือก บายินดีร์ ก่อนไม่ใช่ว่า เขาจะต้องการทั้งหมด แต่เหตุผลที่อ่านใจกันได้มันมีอยู่
1.ลามเมนส์ ใหม่เกินไปสำหรับเกมใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก
2.อย่างน้อย บายินดีร์ ที่ต้องอยู่กับทีมต่อไปยังคงหลงเหลือ และอาจจะเพิ่มความมั่นใจขึ้นมา
ถ้าให้ ลามเมนส์ ลงแล้วพังตั้งแต่เกมแรก จะไม่เหลือนายประตูที่มีความมั่นใจหลงเหลืออยู่เลยในทีม เพราะถึงจะถูกยกให้เป็น “นิว กูร์กตัวส์” แต่ด้วยวัย 23 ปีของเขา ยังไม่เคยเล่นทีมชาติชุดใหญ่ โดย 3 คนล่าสุดที่ถูก รูดี้ การ์เซีย เรียกไปในตำแหน่งนายทวาร คือ ธิโบต์ กูร์กตัวส์(ตัวจริง), มาร์เท่น ฟานเดวูร์ดท์ และแมตซ์ เซลส์
ผมมองว่า นี่คือวิธีการที่ดี ส่วนผลลัพธ์นั้นก็ปล่อยให้มันตอบเอง ว่า คำตอบมันจะถูกต้องขนาดไหน
ถึงตรงนี้ก็ว่ามันแปลกดีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีความแน่วแน่ด้วย “เป๊ป แพลน” ที่ว่า นายประตูต้องใช้เท้าได้ดี แต่ซื้อคนที่มีปัญหาเล่นด้วยเท้าอย่าง ดอนนารุมม่า เข้ามา
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แก้ปัญหาด้วยการนำนายประตูที่เล่นด้วยเท้าได้ดีออกไป แล้วพาคนที่คิดว่า เซฟได้ดีกว่าเข้ามา
ในยุคสมัยที่นายประตูต้องใช้ “เท้าได้ด้วย” และต้องใช้ “เท้าได้ดี” เนื่องจากฟุตบอลยุค 10 ปีหลังชอบต่อบอลจากแนวลึกมากขึ้น และทุกวันนี้แทบจะชิดเส้นหลัง
งานนี้ความรุงรังน่าจะเกิดขึ้น ไม่ใครก็ใคร.........
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี