คมนาคมไฟเขียวแท๊กซี่โขกค่าโดยสาร กม.1-10 อีก 50 สต. พร้อมไฟเขียวแท็กซี่สุวรรณภูมิปรับค่าเซอร์ชาร์จจาก 50 บาท เป็น 70 บาท และค่ายกกระเป๋าสัมภาระใบที่ 3 เป็นต้นไป เก็บใบละ 20 บาท สั่งยกเลิก Taxi OK เร่งทำแอพฯใหม่ดึงรถแท็กซี่เข้าระบบ และเตรียมแก้กฎหมาย Grab-รถป้ายดำ-รถส่วนบุคคลวิ่งให้บริการได้
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับแท็กซี่ 4 กลุ่ม ได้แก่ สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย, ตัวแทนจากชมรมแท็กซี่พัทยา, ตัวแทนจากแท็กซี่ส่วนบุคคลทั่วไป และตัวแทนแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่าได้มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างกลุ่มแท็กซี่ และกรมการขนส่งทางบก โดยได้มีการเห็นชอบร่วมกันในการปรับอัตราค่าจ้างรถบรรทุกโดยสารแท็กซี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดคือ ยังคงอัตราระยะทาง 1 กม. แรก ที่ 35 บาท ในส่วนของระยะทางเกินกว่า 1-10 กม. ปรับเป็น กม. 6.50 บาท จากเดิม 6 บาท
ขณะที่ระยะทางเกินกว่า 10-20 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 7 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 20-40 กม. อยู่ที่ กม.ละ 8 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 40-60 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 8.50 บาท (ตามเดิม) ระยะทางเกินกว่า 60-80 กม. จะอยู่ที่ กม.ละ 9 บาท (ตามเดิม) และระยะทางเกินกว่า 80 กม.ขึ้นไป จะอยู่ที่กิโลเมตรละ 10.50 บาท (ตามเดิม) ส่วนกรณีรถติดหรือรถวิ่งได้ไม่เกิน 6 กม.ต่อชม. จะปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในช่วงรถติด 1 บาทต่อนาที หรือเป็น 3 บาทต่อนาที จากเดิม 2 บาทต่อนาที โดยรวมรถทุกประเภทจากเดิมที่ใช้กับรถที่เข้าร่วมโครงการ Taxi OK เท่านั้น
ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ภายใน 1 เดือนนับจากนี้และมีเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกจะต้องไปพัฒนาแอพพลิเคชั่นรองรับการยกเลิก Taxi OK ให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อให้แท็กซี่เข้าสู่ระบบตามมาตรฐานเดียวกันและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้การบริการรถสาธารณะด้วยระบบดิจิทัล และการยกเลิกดังกล่าวยังเป็นการลดต้นทุนการดำเนินการตามข้อเสนอของกลุ่มแท็กซี่ฯ รวมถึงได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปดำเนินการแก้กฎหมายเพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าวและนำให้เข้าสู่ระบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดหากไม่เข้ามาอยู่ในมาตรฐานจะต้องถูกดำเนินการทั้งหมดเช่น ไม่ใช่บริษัทไทย เป็นต้น
รวมถึงกรณีของ Grab ที่นำมาให้บริการ แต่ Grab ไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นบริษัทไทยและไม่ได้จดทะเบียนป้ายเหลืองก็จะกลับเข้ามาสู่ระบบด้วย โดยจะต้องมีการเร่งแก้ไขกฎหมายด้วยเนื่องจากมีในส่วนของเรื่องรถป้ายดำที่จะต้องมีการกำหนดประเภทรถในลักษณะรถส่วนบุคคลเชิงพาณิชย์รวมทั้งเรื่องใบขับขี่ด้วย ซึ่งในอนาคตรถที่ให้บริการสาธารณะไม่จำเป็นต้องเป็นจดทะเบียนเสียภาษีแบบรถป้ายเหลืองอีกแล้วสามารถใช้เป็นรถส่วนบุคคลได้แต่จะต้องมีกฎหมาย โดยยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในการให้บริการและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตมได้มีในส่วนของข้อเสนอให้ปรับอายุการใช้รถรับจ้างสาธารณะจาก 9 ปี เป็น 12 ปีนั้น ในเบื้องต้นมีความเห็นร่วมกัน โดยทางรถแท็กซี่จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างการตรวจสภาพรถทุก 3 เดือนตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกหากรถไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพดังกล่าวรถแท็กซี่คันนั้นจะต้องหยุดวิ่งให้บริการในทันที
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปแก้กฎระเบียบให้ผู้ที่จะไปจดทะเบียนเป็นรถ Taxi VIP ไม่จำเป็นต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น โดยใช้มาตรฐานเป็นตัวกำหนด และจะมีการพิจารณาปรับขึ้นค่า Surcharge แท็กซี่สุวรรณภูมินั้น จะอนุมัติให้ปรับรถปกติจาก 50 เป็น 70 บาท และรถขนาดใหญ่เป็น 90 บาท โดยได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปประสานงานร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารรับทราบ ในส่วนค่าขนกระเป๋าสัมภาระนั้น ก็จะอนุมัติให้เก็บใบละ 20 บาท ความกว้าง 26 นิ้วขึ้นไป ตั้งแต่ใบที่ 3 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี