“อนุทิน” เผย “บิ๊กตู่” กำชับภาครัฐอำนวยความสะดวก “กลุ่มซีพี” ให้ดำเนินการ “รถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน” ราบรื่น ก่อน เป็นปธ.เซ็นสัญญา 25 ต.ค.นี้ “เสี่ยหนู”เผยปรับเงื่อนไขเล็กน้อย ฝากบอก“ศุภชัย”ไม่ต้องห่วงเรื่องส่งมอบพื้นที่ “ผมก็โดนอะไรมาก็รู้”เดี๋ยวเถียงแทนให้
16 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) ถึงความคืบหน้าการเซ็นสัญญาของกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่ม CPH ที่ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า มีการปรับเงื่อนไขเล็กน้อย เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย
“นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับว่าภาครัฐต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้การดำเนินการโครงการนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ โดยรัฐต้องออกแรงด้วย ไม่ใช่ปล่อยเอกชนออกแรงอย่างเดียว ตรงนี้น่าจะเป็นความเข้าใจที่ตรงกัน และรับทราบจะมีการลงนามสัญญา ซึ่งร่างสัญญาหลักมีอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีอุปสรรคในการลงนาม” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ารายละเอียดในการปรับเงื่อนไขคืออะไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการปรับความเข้าใจในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องเข้ามาทำการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ไล่ถามทีละหน่วยงาน ทุกคนยืนยันว่าพร้อมและปฏิบัติได้ ขณะที่ ร.ฟ.ท. ต้องไปรับภาระการเวนคืนที่ดินบางส่วน และหาที่อยู่ให้กับชาวบ้านตามแนวรถไฟ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โดยเลื่อนระยะเวลาจาก 1 ปี 3 เดือน เป็น 2ปี เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ถึงเวลานั้นถ้ามีอุปสรรคก็ต้องว่ากันในเรื่องการขยายเวลาให้กับเอกชน
“เราเข้ามาต้องการสนับสนุนทุกอย่าง เพื่อให้เขาทำเสร็จ ผมได้กำชับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตลอดเวลา หากทางบริษัทเอกชนขอสิ่งใดมาที่เราทำได้ และอยู่ในกรอบของกฎหมายและทีโออาร์ เราต้องทำทุกอย่าง อำนวยความสะดวกให้เขา ให้ถือเป็นภารกิจและหน้าที่” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การทำสัญญากับรัฐเราจะชดเชยในเรื่องระยะเวลา ไม่ใช่เงิน หากชดเชยด้วยเงิน ทุกสัญญาที่รัฐทำกับเอกชนก็ต้องชดเชยตามไปด้วย ทั้งนี้ การก่อสร้างทุกอย่างต้องมีอุปสรรคอยู่แล้ว หากเอกชนติดอุปสรรคก็ขอขยายสัญญา หรือหากรัฐติดอุปสรรคก็ขอขยายสัญญาได้โดยไม่มีค่าปรับ ถือว่าแฟร์และยุติธรรม เพียงแค่อย่าใช้อคติหรือความลำเอียงในการดำเนินสัญญาก็จะทำให้ไม่มีปัญหา เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องการให้ประเทศมีรถไฟเชื่อม 3สนามบิน จะเป็นการสร้างความเข้าใจให้ทั้งโลกว่าโครงการอีอีซีเกิดแน่นอน
“ในวันที่ 25 ตุลาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นประธานการลงนาม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กราบเรียนเชิญเรียบร้อยแล้ว เพราะถือเป็นงานใหญ่ อีอีซีถือเป็นตำนานของ พล.อ.ประยุทธ์ สมัยก่อนเรามีอีสเทิร์นซีบอร์ด เป็นของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ วันนี้อีอีซี ก็เป็นผลงาน เป็นสิ่งที่จะต้องกล่าวขานถึงความมุ่งมั่นของพล.อ.ประยุทธ์” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ กำชับว่าให้ทำเสร็จโดยเร็ว อะไรช่วยเขาได้ก็ช่วย อะไรยืดหยุ่นได้ก็ยืดหยุ่น โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็ได้พูดในที่ประชุมว่า อย่าไปแน่นหรือตึงมาก ผ่อนได้ก็ผ่อนแต่อย่าให้ผิดกฎหมาย และอย่าให้รัฐเสียประโยชน์ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคม พร้อมอยู่แล้ว ยิ่งทำเสร็จเร็ว ส่งมอบพื้นที่เร็วก็เป็นผลงานกระทรวงคมนาคมด้วย
เมื่อถามว่า นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นห่วงการส่งมอบพื้นที่ เรื่องนี้สามารถคุยหลังเซ็นสัญญาได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การส่งมอบพื้นที่ มีการส่งมอบพื้นที่ที่เป็นนัยยะสำคัญหลักอยู่แล้ว 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ สามารถส่งมอบโดยไม่มีอุปสรรค และในระยะเวลา 2ปี เราก็ไปแก้ไขปัญหาส่วนที่เหลือ กว่าจะได้สร้างจริงๆ ใช้เวลาเป็นปี
“ขอเรียนนายศุภชัยได้เลยไม่ต้องห่วง สัปดาห์ที่แล้วก็ได้มาพบผม และยืนยันไปว่าอย่าได้กังวล ตราบใดที่ผมยังอยู่ตรงนี้ พร้อมที่จะสนับสนุนให้เอกชนทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด ผมก็พอจะมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง ไม่ใช่ไม่มี ผมก็โดนอะไรมาก็รู้ และจะนำสิ่งที่โดนมานั้นมาช่วยและมานั่งเถียงแทนเขาด้วย” นายอนุทิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี