27 มีนาคม 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศมาตรการเพื่อความปลอดภัยส่วนรวม โดยระบุว่า
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) อย่างรวดเร็วและมีการแพร่กระจายพบผู้ติดเชื้อทั่วภูมิภาคของประเทศไทย เพราะเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีประกาศมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๓ และต่อมารัฐบาลได้มีการประกาศใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และได้มีข้อกําหนดฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ กําหนดข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการต่าง ๆ และประชาชนตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราช กําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อใช้บังคับทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ดังนั้นเพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกําหนดดังกล่าว การรถไฟฯ จึงขอกําหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นระยะดังต่อไปนี้
๑. การจําหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป การรถไฟฯ จะใช้มาตรการ Social Distancing กับขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ (ขบวนรถที่มีการสํารองที่นั่ง) โดยการจํากัดการขายตั๋ว เพื่อให้มีระยะห่างที่ปลอดภัยต่อการแพร่กระจายเชื่อในขบวนรถไฟ ดังนี้
- รถนั่งชั้น ๓ รถนั่งชั้น ๓ ปรับอากาศ รถนั่งชั้น ๒ และรถนั่งชั้น ๒ ปรับอากาศ จะจําหน่ายตัวร้อยละ ๒๕ ของที่นั่ง ทั้งนี้เมื่อจําหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่มีการจําหน่ายตั๋วอีก รวมทั้งตัวไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)
- รถนั่งและนอนชั้นที่ ๒ รถนั่งและนอนชั้นที่ ๒ ปรับอากาศ และรถนั่งและนอนชั้นที่ ๑ ปรับอากาศ จะจําหน่ายตัวร้อยละ ๕๐ ของที่นั่งทั้งหมด เมื่อจําหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่มีการจําหน่ายตั๋วอีก
โดยทั้งหมดเมื่อจําหน่ายตั๋วเต็มตามประเภทรถที่ระบุแล้วไม่พ่วงรถเพิ่มอีก เนื่องจากต้องนํารถไปใช้ตามมาตรการ Social Distancing กับขบวนรถอื่นที่มีความจําเป็น จึงขอให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้สํารองที่ล่วงหน้างดการเดินทาง
สําหรับขบวนรถบริการเชิงสังคม (ระหว่างเมือง) ขบวนรถชานเมือง ขอให้ผู้โดยสารดําเนินการตามมาตรการ Social Distancing โดยรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า ๑ - ๒ เมตร ตามข้อกําหนดฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งออกตามพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘
ทั้งนี้ พนักงานประจําขบวนรถ จะเป็นผู้พิจารณากําหนดที่นั่งให้ผู้ใช้บริการตามความเหมาะสมต่อไป
๒. การซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟ และการโดยสารบนขบวนรถไฟ ผู้ใช้บริการซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟทุกแห่งจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
๒.๑) ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งเมื่อเข้าใช้บริการซื้อตั๋ว โดยสารที่สถานีรถไฟและขณะโดยสารบนขบวนรถ
๒.๒) กรอกคําร้องประกอบการซื้อตั๋วโดยสาร ซึ่งต้องระบุ ชื่อ - สกุล เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก สัญชาติ เลขหมายโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ พร้อมเหตุผลในการเดินทาง และระบุที่พักปลายทาง
๒.๓) ผู้ใช้บริการจะต้องยืน หรือนั่งตามจุดที่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ กําหนดไว้อย่างเคร่งครัด
๒.๔) เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะดําเนินการคัดกรองการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า ๓๗.๕ องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง
๒.๕) ในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ ๗๐ ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจําตัว และกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า ๕ ปีลงมา ควรงดการเดินทาง เว้นแต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวมีความจําเป็นตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ กรณีเมื่อรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – ๑๙ ประกาศห้ามการเดินทางของประชาชนการรถไฟฯ จะงดให้บริการขบวนรถโดยสารทุกขบวนทั้งหมดในทันที
นายวรวุฒิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้โดยสารที่ซื้อตัวสํารองที่นั่งแล้วไม่ประสงค์เดินทาง สามารถนำตั๋วโดยสารมาขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่มีรายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดจะมีความรุนแรงและกระจายไปทั่วประเทศเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยภายหลังที่ฝ่ายบริการโดยสารพิจารณาแล้ว การรถไฟฯ จึงเตรียมประกาศงดเดินขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ รวมทั้งสิ้น 22 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยให้ผู้โดยสารรับคืนเงินค่าตั๋วได้เต็มจำนวน อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องมีการเดินรถที่ได้ประกาศงดเดินไปแล้วนั้น ให้อำนาจผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร รฟท. เป็นผู้พิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้สาเหตุที่การรถไฟฯ งดเดินขบวนรถดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผนวกกับจากการตรวจสอบการสถิติการเดินทางในช่วง มี.ค. 2563 พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารยกเลิกการเดินทางเป็นจำนวนมาก มีจำนวนผู้โดยสารในแต่ละขบวนเฉลี่ยประมาณ 50% เนื่องจากผู้โดยสารอาจเกิดความกังวลและต้องการลดความเสี่ยจากการติดเชื้อไวรัสฯ นอกจากนี้ ในส่วนของการสำรองตั๋วโดยสารล่วงหน้า เม.ย. 2563 พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารสำรองตั๋วโดยสารลดลงและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการขอยกเลิก และคืนเงินค่าตั๋วโดยสารอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากด้วย
สำหรับขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ 22 ขบวนที่การรถไฟฯ เตรียมหยุดเดินรถนั้น ประกอบด้วย สายเหนือ ยกเลิก 6 ขบวน ได้แก่ ขบวน 3/4 กรุงเทพ-สวรรคโลก-กรุงเทพ (สามารถใช้ขบวน 7/8 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ), ขบวน 13/14 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (โดยพ่วงรถชั้นดีไปกับขบวน 51/52 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) และขบวน 105/106 กรุงเทพ-ศิลาอาสน์-กรุงเทพ (สามารถใช้ขบวน 107/108 กรุงเทพ-เด่นชัย-กรุงเทพ)
ขณะที่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ยกเลิก 6 ขบวน ได้แก่ ขบวน 23/24 กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ (โดยเพิ่มรถชั้นดีไปกับขบวน 67/68 กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ), ขบวน 25/26 กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ(โดยเพิ่มรถชั้นดีไปกับขบวน 133/134 กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ), ขบวน 136 อุบลราชธานี-กรุงเทพ (สามารถใช้ขบวน 146 อุบลราชธานี-กรุงเทพ), ขบวน 145 กรุงเทพ-อุบลราชธานี (สามารถใช้ขบวน 139 กรุงเทพ-อุบลราชธานี)
ในส่วนของสายใต้ ยกเลิก 10 ขบวน ได้แก่ ขบวน 31/32 กรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ (โดยเพิ่มชั้นดีไปกับขบวน 37/38 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ), ขบวน 39 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี, ขบวน 44 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพ, ขบวน 41/42 กรุงเทพ-ยะลา-กรุงเทพ (โดยเพิ่มรถชั้นดีไปกับขบวน 169/170 กรุงเทพ-ยะลา-กรุงเทพ), ขบวน 83/84 กรุงเทพ-ตรัง-กรุงเทพ (โดยเพิ่มรถชั้นดีไปกับขบวน 167/168 กรุงเทพ-กันตัง-กรุงเทพ), ขบวน 173/174 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ (โดยพ่วงรถชั้น 3 ไปกับขบวน 85/86 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ และเพิ่มจุดจอดตามการเดินรถของขบวน 173/174)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี