วันที่ 31 มีนาคม 2563 นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่า หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนโดยการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวติดลบสูงถึง 42.6% การส่งออกโดยรวมยังขยายตัวได้ 3.6% แต่หากไม่รวมการส่งออกทองคำจะติดลบ 1.3% และการนำเข้าสินค้าได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการปิดเมืองของจีน ส่งผลให้บัญชีเดินสะพัดเกินดุลกว่า 5,400 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มลดลงตามการหดตัวของภาคการท่องเที่ยวและราคาน้ำมันที่ลดลง
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐและรายจ่ายรัฐวิสาหกิจหดตัวต่อเนื่อง มีเพียงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้จากการเร่งซื้อสินค้า อุปโภคบริโภคที่จำเป็น ส่วนกำลังซื้อของภาคครัวเรือนอ่อนแอมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งประเด็นที่ยังต้องติดตามใกล้ชิดคือปัญหาภัยแล้งที่จะส่งผลกระทบไปถึงภาคการผลิตด้วย ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนตามราคาพลังงานที่ลดลง ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตจะเป็นผลดีต่อการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร
นายดอน กล่าวอีกว่า ประมาณการณ์ตัวเลขจีดีพีของแบงก์ชาติที่คาดว่า ทั้งปีจะติดลบ 5.3% นั้น เป็นการหดตัวทุกไตรมาสและหดตัวลึกสุดไตรมาส 2 โดยรวมสมมติฐานการหดตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะไตรมาส 2 อาจจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดีขึ้นไตรมาส 3 และ 4 แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังมีการระบาดของประเทศอื่น ขณะที่ปี 2564 ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังรวมสมมติฐานมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว ทั้งมาตรการเฟส 1 และ 2 รวมถึงมาตรการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท จำนวน 3 ล้านคน แต่ตัวเลขล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคนนั้น ยังต้องติดตามว่าท้ายที่สุดจะจ่ายเยียวยาจำนวนเท่าใด และยังไม่ได้รวมสมมติฐานการใช้มาตรการพักชำระหนี้ที่ออกมาล่าสุด ส่วนมาตรการเฟส 3 ที่เตรียมออกมาและคาดว่าจะมีการใช้งบสูงกว่าเฟส 1 และเฟส 2 ที่ใช้งบรวมกันกว่า 400,000 ล้านบาทนั้น หากเป็นจริง จะส่งผลดีต่อตัวเลขจีดีพี 2-3%
ขณะที่ตัวเลขการว่างงานล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.1% นั้น ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ แต่จากสถานการณ์ขณะนี้ตัวเลขการว่างงานมีแนวโน้มมากขึ้น แต่จะไม่กระโดดเหมือนกับอัตราการว่างงานของสหรัฐ เพราะโครงสร้างตลาดแรงงานไทยหากมีงานทำ 1 ชม. ก็ไม่นับว่าเป็นอัตราการว่างงาน แต่สิ่งที่ ธปท.ให้ความสำคัญคือ รายได้ที่หายไปและจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ ซึ่ง 5,000 บาทอาจไม่เพียงพอ
ขณะที่เสถียรภาพของสถาบันการเงินขณะนี้มีเงินทุนสำรองค่อนข้างสูง และเพียงพอที่จะรองรับตัวเลขหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้นได้อีกมาก ส่วนกรณีความกังวลที่ ธปท.ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องกองทุนนั้น แม้เป็นมาตรการใหม่และเม็ดเงินค่อนข้างสูง แต่เงินที่นำมาใช้เป็นเงินบาท จึงไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี