วันที่ 27 มกรามคม 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจงานและเยี่ยมชมโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่าในการลงพื้นที่ฯในครั้งนี้ได้มีการมอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) พิจารณาเกี่ยวกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้มีรายได้เพียงพอที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริการสถานี เนื่องจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสถานีกลางบางซื่อนั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอย 298,200 ตารางเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการรถไฟฯได้มีการเสนอที่จะดำเนินการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เองจนถึง 2567
ก่อนที่จะมีการประกวดราคาหาเอกชนมาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์(PPP) ซึ่งจากข้อมูลเดิมที่มีการศึกษาในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาประมาณ 1,400 ล้านบาทต่อปี และจากผลการศึกษาโครงการดังกล่าวฯ ของการรถไฟฯก่อนที่จะเปิดให้มีพบว่าการรถไฟฯจะมีรายได้อยู่ที่ 267 ล้านบาทต่อปี เบื้องต้นจึงได้มีการสั่งการให้การรถไฟฯทบทวนผลการศึกษาใหม่และตั้งเป้าให้การรถไฟฯมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทต่อปี และได้สั่งการให้การรถไฟฯและกรมขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อหารือถึงแนวทางการบริหารรายได้ในโครงการรถไฟสายสีแดงฯ รวมถึงการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ครอบคลุมรายจ่ายโดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับผลการศึกษาเดิมและคาดหวังให้กระทรวงคมนาคมขอเงินอุดหนุนจากภาครัฐ (PSO) โดยการรถไฟฯจะต้องเสนอแนวทางดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมรับทราบและพิจารณาภายใน 1 สัปดาห์
"แผนของการรถไฟฯ เบื้องต้นจากปัจจุบันจนถึงปี 2567 จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินรถบริหารพื้นที่ทั้งหมด 1,400 ล้านบาท แต่หารรายได้ได้เพียง 200 ล้านบาทเท่านั้น แค่คิดก็ขาดทุนแล้วจึงได้ให้การรถไฟฯไปปรับแผนใหม่ เพื่อให้การดำเนินงาน ต้องไม่ขาดทุน และเป็นภาระกับรัฐให้ต้องนำเงินมาอุดหนุนอีก" นายศักดิ์สยาม กล่าว
ทั้งนี้ได้กำชับให้การรถไฟฯปรับปรุงพื้นที่สถานีทุกแห่งให้มีความพร้อมมากขึ้น และพิจารณาการจัดพื้นที่ให้กับประชาชนนำสินค้า OTOP เข้ามาจำหน่าย โดยศึกษาข้อมูลจากงานจัดแสดงสินค้า OTOP ที่เมืองทองธานี และนำมาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ในสถานีกลางบางซื่อ โดยจะต้องหารือร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน และกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสินค้าที่เหมาะสมจะนำมาจำหน่ายที่สถานีกลางบางซื่อ และสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ขณะที่การปิดใช้สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) นั้นทางกระทรวงคมนาคมมีความเห็นว่าควรให้การเดินรถไฟทางไกลทั้งหมดมาสิ้นสุดที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อให้การเดินระบบรถไฟไม่ก่อปัญหาจราจรจรติดขัดในเขตเมืองชั้นใน
หากจำเป็นต้องวิ่งเข้าในเมืองให้ทำเท่าที่จำเป็นและทำช่วงหลังเวลา 22.00 น.-04.00 น. เท่านั้น และมอบให้การรถไฟฯไปศึกษาโดยเบื้องต้นต้องการให้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นพื้นที่ที่จะสามารถสร้างรายได้ได้ ส่วนกรณีประเด็นที่จะกระทบกับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟชานเมือง สายเข้าออกระหว่างเมืองช่วงเช้าและเย็นจะได้รับผลกระทบนั้นก็ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมทำการศึกษาหาระบบการเดินทางเชื่อมต่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารกลุ่มที่ลงสถานีสามเสน สถานีโรงพยาบาลรามาธิบดี และสถานียมราช ก็ได้มอบหมายให้หารือร่วมกับกับสำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมรางฯรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนอำนวยความสะดวกเพื่อสรุปแผนดังกล่าวภายใน 1 เดือน รวมถึงกรณีที่มีการยกเลิกเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์ และเชิงสังคมอีก 57 ขบวน ส่งผลให้มีรถไม่เพียงพอนั้นก็ได้สั่งการให้การรถไฟฯบริหารการเดินรถที่ยังเดินรถบริการอยู่ต้องสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ผู้โดยสารต้องการใช้บริการด้วย
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันจะทดสอบระบบและทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ก่อนเปิดให้ทดลองใช้ในเดือน ก.ค. 2564 และจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.2564 ส่วนอัตราค่าโดยสารเบื้องต้นคิดตามระยะทางช่วงบางซื่อ-รังสิตค่าแรกเข้า 14 บาทและตลอดเส้นทางไม่เกิน 42 บาทและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ค่าแรกเข้าไม่เกิน 14 บาทและค่าโดยสารตลอดเส้นทางถึงตลิ่งชันไม่เกิน 42 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี