**การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ โดยใช้กลยุทธ์ “RAPID” เพื่อปั้นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคใหม่ ที่เน้นนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งในการนี้ นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ประกาศทิศทางและวิสัยทัศน์ใหม่ในการยกระดับบทบาทของ กนอ. สู่การเป็น “แพลตฟอร์ม” ชั้นนำสำหรับภาคอุตสาหกรรมไทย โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล
นายสุเมธ กล่าวว่า ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ได้กำหนดแนวทางให้ กนอ.เป็นมากกว่าหน่วยงานกำกับดูแล หรือเจ้าของที่ดิน (Landlord) แต่จะเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงนักลงทุน ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ เกิดความร่วมมือ และแบ่งปันผลประโยชน์อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
“นับจากวันนี้ กนอ.จะไม่ใช่แค่หน่วยงานกำกับตรวจสอบ หรือเป็น Landlord (เจ้าของที่ดิน) เท่านั้น แต่ กนอ.จะเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศไทย ไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่มีมูลค่าสูง โปร่งใส เป็นธรรม และยั่งยืนอย่างแท้จริง”นายสุเมธ กล่าว
ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลกได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งรูปแบบธุรกิจ หรือพฤติกรรมตลาด โดยมีปัจจัยกดดันอื่นๆ ทั้งมาตรการภาษีของสหรัฐฯ, บทบาทเชิงรุกของจีน, ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวดเร็ว ดังนั้นเพื่อให้ กนอ.เป็น “แพลตฟอร์ม” ที่มีประสิทธิภาพมากในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย จึงได้นำวิสัยทัศน์ 5 แกนหลักสำคัญ หรือ RAPID มาดำเนินการ
โดยวิสัยทัศน์ 5 แกนหลัก หรือ RAPID มาเป็นกลไกในการดำเนินงาน ดังนี้ R-Regulatory Flexibility : การปลดล็อกกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความยืดหยุ่น โดยตั้งเป้าหมายให้บริการในรูปแบบ One Stop Digital ให้สำเร็จภายใน 100 วันแรก ,A-Advance Infrastructure : การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สู่มาตรฐานระดับโลก เพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ
P-Productivity Through Innovation : การส่งเสริมผลิตภาพผ่านนวัตกรรม โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อบูรณาการธุรกิจกระแสใหม่และธุรกิจแห่งอนาคต, I-Integrate Digital Transformation : การปฏิรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาประยุกต์ใช้ในทุกกระบวนการ, D-Driven Growth and Sustainability : การขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industrial Towns) ให้ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 70% ภายในปี 2571 และผลักดันมาตรฐาน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ให้เป็นจุดขายสำคัญของนิคมอุตสาหกรรมไทย
“แนวทางในการยกระดับบทบาทของ กนอ.ในการส่งเสริมสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ก้าวสู่การเป็นผู้ออกแบบอนาคตอุตสาหกรรมไทยเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะใช้อำนาจหน้าที่ องค์ความรู้ นวัตกรรมที่มีอยู่ พัฒนา “แพลตฟอร์ม” เพื่อเชื่อมโยงอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผู้ประกอบการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคอุตสาหกรรมในทุกมิติ เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมไทย ไปสู่โอกาสทางธุรกิจผ่านการมีระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้ออำนวยในการดำเนินธุรกิจ”นายสุเมธ กล่าว
**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี