ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 พฤศจิกายน 2568 แยกเป็นสถาบันในประเทศขายสุทธิ 28,203.25  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 12,797.92 ล้านบาท  นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 113,112.50 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 154,113.66 ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาพรวมตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงแรก ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในการประชุมเดือนหน้า หลังเจ้าหน้าที่เฟดระบุว่ายังมีพื้นที่ในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม นอกจากนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการเห็นชอบมาตรการ Thailand FastPass ของภาครัฐเพื่อเร่งรัดการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปและกลุ่มเทคโนโลยี ด้วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงปลายปี รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในภาพรวมจากเดิมที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว ปัจจัยลบดังกล่าวกระตุ้นแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยีและพลังงาน  แม้ดัชนีหุ้นไทยจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย แต่ก็เป็นการฟื้นตัวได้เพียงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้น

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,256.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.18% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 33,059.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.29% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.33% มาปิดที่ระดับ 214.32 จุด

สำหรับสัปดาห์นี้(1-5 ธันวาคม 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,230 และ 1,215 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,265 และ 1,285 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ