nn ต้องบอกว่าช่วงนี้ไม่ใช่แต่สภาพอากาศใน กทม.เท่านั้นที่ฟุ้งไปด้วยฝุ่นควัน...โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน...ก็อยู่ในภาวะฝุ่นตลบไม่แพ้กันเลยทีเดียว...วันก่อน “หมุนตามทุน” ได้นำเสนอบทความไขข้อข้องใจ 7-8 ข้อ...เพื่อสังคมได้นำไปพิจารณาไปแล้วรอบหนึ่ง...วันนี้ “โลกการค้า” ขอนำเสนอเรื่องความสับสนของข่าวสารของโครงการนี้ที่ออกมาเป็นระยะๆ...โดยขอตั้งธีมว่า...สงสัย??…จับสัญญาณ จ้องล้มประมูล รถไฟความเร็วสูง....จริงหรือไม่...ใช่หรือมั่ว???....

อย่างที่บอกครับ...สัปดาห์นี้ข่าวออกมาสับสนหนัก ขณะที่ชาวบ้านเองก็ลุ้นให้ “อีอีซี” และโครงการรถไฟความเร็วสูง...เกิดไวๆ....แต่เบื้องหลังการถ่ายทำนั้นต้องบอกว่าอย่างนี้ว่า...แหล่งข่าวในวงการรถไฟความเร็วสูง ก็หนักใจเพราะเห็นว่า..มีความพยายามของคนบางกลุ่มหวังล้มการประมูล เพราะหากสับรางสำเร็จ สถานีสุดท้ายอาจไม่ใช่ซีพี....

การประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินผ่านการเปิดซองราคาจนมาถึงโค้งสุดท้าย เข้าสู่การเจรจาสัญญา และที่สำคัญธนาคารผู้ปล่อยเงินกู้จะเข้ามามีส่วนในการพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งโดยปกติแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำของโครงการที่มีความเสี่ยงสูง จะไม่ต่ำกว่า 8-10% ดังนั้นถ้าผลตอบแทนขั้นต่ำของโครงการ (IRR) น้อยกว่าดอกเบี้ยก็จะไม่น่าลงทุน เพราะไม่พอจ่ายดอกเบี้ย หรือพูดง่ายๆ ว่าขาดทุน ดังนั้น โค้งสุดท้ายการเจรจาส่วนใหญ่จะเป็นเงื่อนไขที่ใช้ประกอบการตัดสินใจทางการเงิน เพื่อใช้สร้างความเชื่อมั่นให้แหล่งเงินทุนต่างประเทศที่ชวนมาลงทุนในประเทศไทยว่ารัฐบาลเอาจริง และกล้าปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการนี้ แต่อย่างไรก็ดี รถไฟขบวนนี้ท่าทางจะจบไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเริ่มจับสัญญาณความพยายามสกัดดาวรุ่งของคนบางกลุ่มที่ชัดขึ้นเรื่อยๆ ที่ทำให้ซีพีอาจจะถอดใจ ทำให้เริ่มสงสัยจนต้องตั้งสมมุติฐาน 5 ส จะจริงหรือไม่แล้วแต่...วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ...

1.สับสน : มีคนบางกลุ่ม นำข้อมูลจากสื่อไปบิดเบือน โดยอ้างอิงฐานเศรษฐกิจระบุว่า รุมต้านการันตีกำไร “ซีพี” หวั่น! รัฐเสียค่าโง่ไฮสปีด (หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,428 วันที่ 20-22 ธ.ค. 2561 หน้า 01+15) ซึ่งทำเอาคนไทยงง เข้าใจผิดกันครึ่งประเทศ ทั้งนี้การทำโครงการใหญ่ๆจะมีการประเมินค่าผลตอบแทนขั้นต่ำโครงการ หรือ IRR ซึ่งไม่ได้หมายถึงการันตีกำไร อธิบายง่ายๆ ว่า กู้เงินมาดอกเบี้ยเท่าไหร่ โครงการนี้มีผลตอบแทนได้มากกว่าดอกเบี้ยที่กู้มาทำหรือไม่ เช่น ปัจจุบันดอกเบี้ย MLR ธนาคาร คือ 6.25 ถ้าผลตอบแทนขั้นต่ำ เช่น ในกรณีรถไฟความเร็วสูง ต่ำกว่า 6.25 แสดงว่าโครงการนี้ขาดทุน อย่าได้ลงมาทำ แต่การที่คนเข้าใจผิดว่าการันตีกำไร ทำให้เงื่อนไขนี้เดินต่อไม่ได้ กลายเป็นว่า โครงการนี้รัฐไม่รับรอง IRR แปลง่ายๆ ว่า เจ๊งแน่??

2.ส่งซิก : มีการส่งสัญญาณออกมานอกห้องเจรจาตลอดเวลา ซึ่งผิดเงื่อนไขในทีโออาร์ที่ห้ามเปิดเผยข้อมูล หลังจากจบการเจรจา จะมีการนำข่าวออกมาผ่านสื่อ ทำให้การเจรจาไม่สามารถจบลงได้อย่างรวดเร็ว โดยเริ่มมีคนเอาสื่อไปอ้าง แล้วกลับมาตั้งคำถามรักษาการผู้ว่าการการรถไฟฯว่าข้อมูลรั่วออกมาจากห้องเจรจาได้อย่างไร กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 18 มกราคม 2019 ในหัวข้อข่าวว่า เปิดเงื่อนไข “ซีพี” ยื่น 11 ข้อ ร.ฟ.ท.รับได้แค่ 3 ไม่รับ 8 ข้อเสนอ ส่งผล “ไฮสปีด” ยืดเยื้อ ทำเอาผู้หวังดีหลายคน กลับมาตั้งคำถามรักษาการผู้ว่าฯ ถึงการออกมาเปิดเผยข้อมูล ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข และหากพูดควรพูดให้ละเอียด เพราะหากอธิบายไม่ครบจะยิ่งทำให้สังคมสับสน และส่งผลให้การเจรจาจบลงยากขึ้นไปอีก

3.ส่อเสียด : ที่นี่ไม่มีความลับ วันที่ 29 มกราคม ฐานเศรษฐกิจ เขียนโดยเอราวัณว่า : รถไฟความเร็วสูง ร.ฟ.ท.อย่า “ตุกติก” ช่วยซีพี! ทำให้การรถไฟไม่กล้าตัดสินใจ บวกกับสถานการณ์การเมืองที่ขยับตัวลำบาก กลายเป็นเผือกร้อนว่า ใครจะกล้าเป็นคนตัดสินใจเงื่อนไขต่างๆ โดยเฉพาะหากจะเร่งรัดให้จบใน 1 เดือน ซึ่งในโลกโซเชียล มีคนบางกลุ่มได้นำบทความนี้ไปขยายผล ส่งแรงกดดันกลับไปที่การรถไฟฯอย่างเสียไม่ได้ ทำให้วันนี้อาจไม่มีใครกล้าตัดสินใจ แม้นจะเป็นเงื่อนไขธรรมดาๆก็ตาม เพราะยิ่งใกล้เลือกตั้ง เหมือนรถไฟจะวิ่งไปตามเกียร์ว่าง มากกว่าแรงขับเคลื่อน

4.สอดแทรก : มีการบอกว่า บีทีเอส ยังมีลุ้น มีคนเอาบทความ ฐานโซไซตี้ วันที่ 24-26 มกราคม 2019 ไปอ้างอิง ระบุว่า ผลการเจรจาระหว่างซีพี กับ ร.ฟ.ท. ตกลงกันได้ในรอบหน้า ก็จบ แบบแฮปปี้เอนดิ้ง ทั้งสองฝ่าย แต่หากไม่โอเค บีทีเอส เสียบทันที อันนี้ทำเอาหลายคนสับสน เพราะมีกลุ่มไม่หวังดีนำข่าวไปขยายว่า บีทีเอส ยังเข้ามาเสียบได้อยู่หรือ เพราะดูเหมือนว่าจะหลอกให้บีทีเอสทำผิดกฎหมาย เข้าสู่กระบวนการศาลปกครองกันแน่ เพราะผิดขั้นตอน และนำมาซึ่งการล้มประมูลทีหลัง เพราะจริงๆ แล้วจะยกบีทีเอสมาเลยไม่ได้ ยกเว้นจะล้มประมูล แล้วประมูลใหม่

5.ส่งเสริม : บางกลุ่ม “ส่งเสริม” ทางเลือกใหม่ให้ล้มประมูล นำข้อมูลจากสื่อไปบิดแล้วสร้างกระแสทางเลือกในการล้มประมูล เช่น ฐานโซไซตี้ : 25 ม.ค. ลุ้นระทึก!!! พูดถึง “ล้มประมูล-เดินหน้า” รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ทำให้หลายคนเห็นแสง วันนี้ คงไม่มีใครรู้ แม้ข่าวลือหลายสำนัก อยากดึงไปหลังเลือกตั้ง รอรัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่ หรือนักเดาบางคนก็มองความหวังที่บีทีเอสจะกลับเข้าสู่การแข่งขันอีกครั้งหากประมูลใหม่ งานนี้จึงต้องวัดใจซีพี ว่าจะไปถึงสถานีสุดท้ายได้หรือไม่ หรือจะถูกสับรางก่อนถึงเส้นชัย

!! แต่ที่แน่ๆ ทุกสื่อล้วน “เอาใจช่วย” อีอีซี อย่างชัดเจน เพราะเป็นความเชื่อมั่นของไทยในสายตาชาวโลก แต่ต้องเอาใจช่วย ไม่ว่าใครจะชนะก็ไม่สำคัญ ขอเพียงประเทศไทยจะได้มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอนาคตจริงๆ ซะที อย่าให้เป็นสายบัวรอเก้อ…จนถึงรถไฟเที่ยวสุดท้ายกันเลยนะครับพี่น้อง...nn

กระบองเพชร