วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn “กุ้ง” นับเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญ ที่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะรัฐบาลของอินเดีย เวียดนาม ส่งเสริมเกษตรกรเพิ่มการผลิตกุ้งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ อินเดีย แซงหน้าอินโดนีเซีย ไทย และเอกวาดอร์ เป็นแชมป์ส่งออกกุ้งของสหรัฐอเมริกาติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว…
หากแต่ว่าในช่วงนี้ สถานการณ์ราคา “กุ้งขาวแวนนาไม” ทั่วโลก รวมทั้งไทยปรับลดลงอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่จับกุ้งในช่วงนี้ ราคากุ้งที่ตกต่ำ เป็นเพราะถูกกดดันจากราคาในตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณผลผลิตกุ้งที่เพิ่มขึ้นจากหลายประเทศ โดยเฉพาะ อินเดีย คาดการณ์การผลิตกุ้งปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพราะได้รับการส่งเสริมการผลิตของรัฐบาลเต็มที่ อย่างอินเดียที่ตั้งเป้าจะผลิตกุ้งเป็น 1 ล้านตัน เพราะมีพื้นที่เลี้ยงกุ้งที่มีศักยภาพมาก จากแนวโน้มผลผลิตกุ้งที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิตในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยากดดันทำให้ราคากุ้งขาวแวนนาไม ในตลาดโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ลามมาถึงราคากุ้งไทยของเราด้วย
ราคากุ้งในประเทศไทยที่ตกต่ำในช่วงนี้ ถือว่าเกิดขึ้นเร็วกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตกุ้งที่จะออกในเดือนเมษายน และทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งบางรายตัดสินใจชะลอการเลี้ยงออกไป เพราะไม่อยากเสี่ยงกับความผันผวนของราคา ทำให้ปริมาณการผลิตกุ้งไทยของทั้งปีอาจจะไม่เป็นตามเป้าหมายที่ 3.1 แสนตัน แต่ก็ประมาณกันว่าการผลิตของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 2.9 แสนตัน ซึ่งเป็นปริมาณใกล้เคียงกับปี 2561 ที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่ง ปริมาณการผลิตกุ้งทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น และภาวะราคาที่อ่อนตัวลง ยังก่อให้เกิดความกังวลใจของผู้เลี้ยงกุ้งของไทยว่า กุ้งจากต่างประเทศอาจไหลเข้ามาในประเทศ ซึ่งถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นจริง ก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมราคากุ้งไทยให้ลดต่ำลงไปอีก การให้ทุกฝ่ายช่วยกันปกป้องกุ้งในประเทศ โดยไม่นำเอากุ้งจากต่างประเทศเข้ามา เพราะปริมาณการผลิตที่ระดับ 2.9 แสนตัน น่าจะเพียงพอกับการบริโภคในประเทศและการผลิตเพื่อส่งออกแล้ว
การเพิ่มขีดความสามารถของผู้เลี้ยงกุ้งก็ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเลี้ยงกุ้งหยุดเลี้ยง เพราะสู้ต้นทุนการเลี้ยงต่อไปไม่ไหว เช่น การลดค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนการเลี้ยงที่สำคัญจึงจำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้กุ้งไทยสามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ และน่าจะช่วยให้ผู้เลี้ยงกุ้งมีกำลังใจกล้าลงทุนต่อและสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งต่อไปได้อย่างมั่นคง
ในภาพรวม แม้ว่าอุตสาหกรรมกุ้งไทยเราจะเสียแชมป์การส่งออกมาหลายปีแล้ว แต่หากมองปัจจัยหลายประการ ผู้เลี้ยงกุ้งไทยยังมีศักยภาพเติบโตได้ เพราะกุ้งไทยคุณภาพสูง ไม่มีสารตกค้าง จนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ แนะนำให้เกษตรกรสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่ขึ้น เพราะได้ราคาดีและมีตลาดรองรับ กุ้งขนาดใหญ่เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ การให้ความสำคัญกับการใช้ลูกพันธุ์กุ้งที่แข็งแรง ปลอดโรค มีอัตราการเติบโตเร็ว ควบคู่กับกระบวนการผลิตที่มีการบริหารจัดการน้ำและฟาร์มที่ดี มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่เข้มงวด จะช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และลดต้นทุนการเลี้ยงสามารถแข่งขันได้ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกที่มุ่งเน้นเรื่องอาหารปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระบองเพชร

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี