วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
เครื่องยนต์ทุกตัวเดี้ยง..เหตุต้องหั่น จีดีพี...

ดูทั้งหมด

  •  

nn ท่ามกลางกระแสโหมกระพือของรัฐบาลและหลายภาคส่วนที่ไม่กล้าจะเห็นแย้งกับรัฐบาล...ที่บอกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ลอตล่าสุด 3 แสนล้าน”น่าจะช่วยให้ จีดีพีของไทยเติบโตได้ในระดับ 3%....โลกการค้า...บังเอิญไปเห็นบทวิเคราะห์ชิ้นหนึ่งของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง...ว่าด้วยเรื่องการเติบโตของ จีดีพีไทย ปีนี้...เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ดี ควรจะนำเอามาประกอบการตัดสินใจได้รอบด้านขึ้น...ก็เลยขอโอกาสหยิบนำมาเสนอ....

TMB Analytics...ระบุว่าขอปรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี’62 เหลือ 2.7% จากเดิมมองที่ 3.0% เหตุตัวเลขเศรษฐกิจครึ่งปีแรกแย่กว่าคาด ทำให้แรงส่งต่อไปยังในช่วงที่เหลือมีข้อจำกัด มองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐช่วยพยุงการบริโภคในประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกสงครามการค้าถึงทางตัน จึงยากที่จะเห็นส่งออกกลับมาในปีนี้ ลุ้นปีหน้าเศรษฐกิจกลับมาโตได้ 3%


ทั้งนี้มองสถานการณ์ส่งออกไทยทรุด ฉุดไม่อยู่ หดตัว 2.7% เหตุซัพพลายเชนโลกได้รับผลกระทบมากกว่าคาด คาดหดตัวเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน (-5.5%) อาเซียน (-4%) ยุโรป (-2.7%) และในเกือบทุกสินค้าสำคัญ สอดคล้องกับปัจจัยเสี่ยงด้านต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจหลักที่เป็นคู่ค้าชะลอตัวมากขึ้น และแรงกดดันสงครามการค้าที่ต้องลุ้นผลการเจรจาในแต่ละรอบ รวมทั้งหากสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีในหมวดยานยนต์และชิ้นส่วนที่อัตรา 25% จากทุกประเทศ (มาตรา 232) ในเดือนพฤศจิกายน จะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกยานยนต์ทั่วโลก ซึ่งของไทยคิดเป็น 11% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด สอดคล้องกับที่ IMF ปรับประมาณการการค้าโลกลงจาก 3.4% เหลือเพียง 2.5% นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทเป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนทำให้ยังคงไม่เห็นการฟื้นตัวของการส่งออกได้เร็วในปีนี้

ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติพลาดเป้า....เพราะขยายตัวแค่ 2% อยู่ที่ 39.1 ล้านคน ชะลอลงมากจากปี’61 ที่ขยายตัว 7.5% ปัจจัยลบยังคงเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยน้อยลงจากเดิมทั้งปีเราอาจเห็นตัวเลขแตะ 40 ล้านคน กอปรกับสถานการณ์บาทแข็งทุบสถิติส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับเงินหยวน จึงไม่แปลกที่จะเห็นนักท่องเที่ยวจีนยังนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อยู่แต่กลับมาเที่ยวไทยลดลง เพราะค่าเงินทั้งสองสกุลนี้ไม่ได้แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับค่าเงินหยวน

ส่วนการลงทุนภาครัฐ ชะลอกว่าคาด เหตุรองบประมาณปี’63 การเบิกจ่ายงบลงทุนมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้า โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ อีกทั้ง ถ้าเทียบเม็ดเงินลงทุนของรัฐบาลกลาง และรัฐวิสาหกิจแล้วก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากนัก โดยเฉพาะ งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ที่ลดลงจากปีก่อนเกือบ 25% เหลือเพียง 3.33 แสนล้าน จาก 4.45 แสนล้าน ในปีก่อน อย่างไรก็ตาม จากความล่าช้าของการอนุมัติงบประมาณปี’63 จะทำให้เริ่มเห็นเม็ดเงินจากการลงทุนภาครัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในปีหน้า

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนส่อเค้าไม่ขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งปีคาดโตได้ 1.8% แม้บริษัทไทยจะมีสภาพคล่องเหลือ แต่ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอ ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำกว่าปีที่ผ่านมาโดยอยู่ที่ระดับ 68% กดดันความต้องการขยายการลงทุน สะท้อนจากความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่อยู่ระดับต่ำกว่า 50 เป็นไตรมาสแรกในรอบเกือบสามปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มการลงทุนเอกชนจะเริ่มปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสี่เป็นต้นไปจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนของรัฐบาล ทั้งนโยบายภาษีและการช่วยเหลือ SME ผ่านมาตรการสินเชื่อ

ด้านการบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ โดยทั้งปีคาดขยายตัวได้ 3.8% จากแรงหนุนเพิ่มจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มต้นปลายไตรมาสสาม ในช่วงครึ่งปีแรกการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวถึง 4.9% หลักๆ มาจากแรงซื้อสินค้าไม่คงทน ซึ่งสอดคล้องกับหนี้ครัวเรือนไทยที่พุ่งขึ้นเร็วมากอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท โดย 1 ใน 3 เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับในช่วงที่เหลือ ปัจจัยกดดันการบริโภคประกอบด้วยการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สถานการณ์ภัยแล้ง และปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งในช่วงต่อไปจะมีข้อจำกัดของการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อย จากแนวโน้มการนำมาตรการควบคุมภาระหนี้สินต่อรายได้ (DSR) มาใช้ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปรับเพิ่มเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระตุ้นการบริโภคในประเทศ รวมวงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท และการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอีกกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น หากเทียบเคียงกับเอลนีโญปี 2558 และไม่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบ จะส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลงประมาณ 11%

คาด ธปท. ลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในไตรมาส 4 ทำให้อยู่ในระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ และอาจลดได้อีก 1 ครั้ง ถ้าเศรษฐกิจแย่กว่าคาด และเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากการลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 1.50% และเริ่มเห็นการส่งผ่านนโยบายการเงินไปยังระบบธนาคารพาณิชย์แล้ว แต่เศรษฐกิจที่ยังมีความเสี่ยงสูง การใช้ทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะเป็นแรงช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับ ธปท.มีมาตรการ Macroprudential เพื่อดูแลความเสี่ยงในเรื่องเสถียรภาพการเงิน

ค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มแข็งค่าแตะ 30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่า 6% ธปท.หั่นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 1.50% ในเดือนสิงหาคม แต่ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 30.83-30.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุผลหลักที่นักลงทุนยังมองเงินบาทเป็นสินทรัพย์เสี่ยงน้อย ขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆในเอเชียในช่วงนี้อ่อนค่าลงตามเงินหยวนจากการที่ทางการจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจนทะลุ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ดุลการค้าของไทยที่คาดว่าจะยังเป็นบวกถึงแม้ว่าส่งออกจะโตติดลบ การท่องเที่ยวที่แม้ชะลอแต่ยังขยายตัวได้ และกระแสเงินทุนที่ยังมีแนวโน้มเป็นไหลเข้าสุทธิ จะเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินบาท

ที่มา : ธนาคารทหารไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:01 น. นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้
14:55 น. แผ่นดินไหว 6.4 เขย่าอินโดนีเซีย นอกชายฝั่งสุมาตรา
14:54 น. กรมอุทยานฯระดม จนท.750 นาย เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
14:51 น. ‘ปราจีนบุรี’ผนึก 5 ภาคี เดินหน้าสร้าง‘เมืองสมุนไพร’ ยกระดับสู่คลัสเตอร์อุตฯสุขภาพไทย
14:47 น. 'หมอวี'เตือนภัยหลังน้ำลด! ระวังโรคฉี่หนูระบาด เผยวิธีป้องกัน
ดูทั้งหมด
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ระหว่างวันที่ 23 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 26 พ.ย.-2 ธ.ค.68
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงคว้าเหรียญทองศิลปะบังคับม้า ประเภททีม ประเดิมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย
'แก๊งนางฟ้า'ยังไม่จบ! เกิดอะไรขึ้น 'เจนี่-แอน' ฟาดแรง 'ไม่คิดจะเจอกับตัว-เห็นแก่ตัวที่สุด'
กรมอุตุฯประกาศเตือนฉบับ 1 พายุ'โคโตะ' ไทยอุณหภูมิลดลง-อากาศเย็นถึงหนาว
ดูทั้งหมด
ลึกลับในสนามข่าว 27 พฤศจิกายน 2568
เมื่อมองไปรอบๆ บ้านเรา
กองแช่งลุย
บทเรียนการประเมินสถานการณ์จากข้อมูลน้ำ
แก้น้ำท่วมภาคใต้ด้วย‘ทฤษฎีรัชกาลที่ 9’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้

แผ่นดินไหว 6.4 เขย่าอินโดนีเซีย นอกชายฝั่งสุมาตรา

กรมอุทยานฯระดม จนท.750 นาย เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

'หมอวี'เตือนภัยหลังน้ำลด! ระวังโรคฉี่หนูระบาด เผยวิธีป้องกัน

'เขมร'งามไส้! ถอนตัว8กีฬาซีเกมส์ก่อนแข่งสัปดาห์เดียว

รมต.มาเลเซียขอโทษปชช. ปมใช้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อพยพคนหนีน้ำท่วมหาดใหญ่

  • Breaking News
  • นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้ นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้
  • แผ่นดินไหว 6.4 เขย่าอินโดนีเซีย นอกชายฝั่งสุมาตรา แผ่นดินไหว 6.4 เขย่าอินโดนีเซีย นอกชายฝั่งสุมาตรา
  • กรมอุทยานฯระดม จนท.750 นาย เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม กรมอุทยานฯระดม จนท.750 นาย เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
  • ‘ปราจีนบุรี’ผนึก 5 ภาคี เดินหน้าสร้าง‘เมืองสมุนไพร’ ยกระดับสู่คลัสเตอร์อุตฯสุขภาพไทย ‘ปราจีนบุรี’ผนึก 5 ภาคี เดินหน้าสร้าง‘เมืองสมุนไพร’ ยกระดับสู่คลัสเตอร์อุตฯสุขภาพไทย
  • \'หมอวี\'เตือนภัยหลังน้ำลด! ระวังโรคฉี่หนูระบาด เผยวิธีป้องกัน 'หมอวี'เตือนภัยหลังน้ำลด! ระวังโรคฉี่หนูระบาด เผยวิธีป้องกัน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 27 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 27 พฤศจิกายน 2568

27 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 20 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 20 พฤศจิกายน 2568

20 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 13 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 13 พฤศจิกายน 2568

13 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 6 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 6 พฤศจิกายน 2568

6 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

30 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

23 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

16 ต.ค. 2568

โลกการค้า :9 ตุลาคม 2568

โลกการค้า :9 ตุลาคม 2568

9 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved