วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn ทุกครั้งที่เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากมาย ตั้งแต่สถาบันการเงิน ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจค้าปลีก
(เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ภายในบ้าน) ว่ากันตามจริงภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยเริ่มอาการไม่ดีมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว หลังจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีนปะทุขึ้น ฉุดกำลังซื้อของชาวจีนที่ก่อนหน้า (ปี 2560-61) แห่เข้ามาจองคอนโดมิเนียมในไทย แล้วต้องยอมทิ้งเงินจอง ทำให้ยอดคอนโดฯสำหรับตลาดนี้เหลือค้าอยู่หลายหมื่นยูนิต เมื่อขึ้นปี 2563 ที่คาดว่าอะไรจะดีขึ้นหลังสหรัฐกับจีนทำท่าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะโดนผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกและของไทยทรุดตัวอย่างหนัก จนเข้าข่ายคำว่าวิกฤติ
หากจะเช็คอาการล่าสุดของภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยตอนนี้...โลกการค้า...ก็อยากจะสะท้อนผ่านตัวเลขและข้อมูลจาก 2 สำนัก...คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย...ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์....และข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย...
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลณ ไตรมาส 2 ปี 2563....พบว่าดัชนีฯอยู่ที่ 42.6 ซึ่งยังคงลดลงต่ำกว่าค่ากลางที่ 50.0 และเป็นการลดต่ำกว่าค่ากลางที่ 50.0 ติดต่อกัน 5 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 2ปี 2562 โดย ผู้ประกอบการในธุรกิจฯ ยังมีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทรายกลางและรายย่อยซึ่งไม่ได้จดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบันลดลงอย่างมาก
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 51.8 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.5 และสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้ประกอบการมองว่า แม้ว่าภาคธุรกิจจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติมากขึ้น และรัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ แต่ผู้ประกอบการยังคงกังวลเกี่ยวกับการระบาดรอบที่สองของเชื้อ COVID-19
ส่วนอีกหนึ่งชุดข้อมูลของศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย...นั้นระบุว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2563 จะหดหายไปอย่างมากซึ่งเป็นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้บริโภคไทยได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรง ถึง 8.8% ส่วนผู้บริโภคต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ทำให้ไม่สามารถซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในไทยได้ ส่งผลให้ยอดจองเปิดใหม่ (Pre-sale)ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก 20% ในไตรมาสที่ 4/2562 มาอยู่ที่ 15%ในไตรมาสที่ 1/2563 และมีโอกาสลดต่ำลงเหลือ 12% ในไตรมาสที่ 2/2563 โดยประเมินว่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปีนี้ มูลค่าลดลง 27%จาก 5.7 แสนล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เหลือ 4.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้สต๊อกเหลือขายในภาพรวม มีโอกาสขยายตัว 5% ขึ้นไปแตะ 185,000 ยูนิต ทั้งๆที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะปรับลดการเปิดโครงการใหม่ลงเกือบ 40% จากปีที่ผ่านมาก็ตาม
สรุปประเด็นสำคัญสำหรับชุดข้อมูลนี้คือ โควิด-19 ทำให้ความตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยหายไปราว 1 ใน 3 โดย 80% ของผู้บริโภคเลื่อนการซื้อออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากต้องให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ให้ผลตอบแทนไม่ดีนัก ซึ่งทางออกของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือการเลื่อนการก่อสร้างออกไป รอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และคาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยต้องใช้เวลาอีก 4-5 ปี ถึงจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19
เมื่อเห็นชุดข้อมูลจากทั้ง 2 สำนักนี้แล้ว ที่ต้องมองต่อไปภาคสถาบันการเงิน สินค้าที่เหลือคงค้างในตลาดกว่า 2 แสนยูนิต และสภาพตลาดที่จะทรุดไปอีก 4-5 ปี...ผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่ใช้เงินกู้แบงก์ จะมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่อีกไหม บางรายที่ใช้วิธีออกหุ้นกู้ เมื่อถึงเวลาถอนคืนจะผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้หรือไม่ หรือมีความสามารถที่จะออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาถ่ายถอนหุ้นกู้ชุดเดิมหรือเปล่าอีกจุดหนึ่งเมื่อผู้ประกอบการหยุหรือเลื่อนก่อสร้างโครงการใหม่ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นจะซบเซาตามไปด้วยขนาดไหน ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้จะปรับตัวอย่างไร
กระบองเพชร

ซีลชายแดน! จุดตรวจช่องเม็ก-ปากแซง-เขมราฐ‘ตม.อุบลฯ’ตรวจเข้มบุคคลเข้า-ออก สกัด‘สแกมเมอร์’
'สรวงศ์' อวดภาพ 'อิ๊งค์' เซ็นหนังสือ '31 ผลงาน สางปัญหา สร้างโอกาส' ของนายกฯคนที่ 31
กองทัพเรือเตรียมพร้อมเต็มที่ รับมือพายุคัลแมกี เพื่อช่วยเหลือประชาชน
'พิสิษฐ์' ยัน 'วุฒิสภา' ไม่มียื้อถ่วง แก้ รธน. แจงองค์ประชุมกมธ.ฯล่ม เหตุไร้ความชัดเจน
'เด็ดพี่'เย้ย 'มีเราไม่มีเทา' อย่าพูดเอาหล่อ เลือกรับงานตรวจสอบ หวังกู้เรตติ้ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี