nn ปัจจุบันการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย มีการนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ธุรกิจมีการพัฒนาในทุกมิติ มีการบริหารจัดการอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม มีความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลให้สามารถตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า และคู่แข่งขันตลอดจนสังคมและประเทศชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญและภารกิจด้านหนึ่งในการกำกับดูแลธุรกิจให้มีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยปัจจุบัน มีธุรกิจจำนวนมากที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเห็นว่า เพื่อให้มีมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลเป็นเกณฑ์ให้ธุรกิจปฏิบัติ จึงได้จัดทำเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจขึ้น พร้อมจัดทำโครงการประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้กับภาคธุรกิจ โดยมีหลักเกณฑ์ประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ซึ่งมีทั้งหมด 6 หลัก ประกอบด้วยหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และ หลักความคุ้มค่า
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกาศรายชื่อธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2564 จำนวน 38 ราย จากภาคธุรกิจที่สนใจสมัครเข้าร่วมทั้งหมดจำนวน 63 ราย โดยธุรกิจ 38 รายที่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จำนวน 38 รายนั้น กรมพัฒนาธุรกิจ ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1) ธุรกิจที่ได้รับการต่ออายุหนังสือรับรอง และก้าวเข้าสู่การเป็นธุรกิจธรรมาภิบาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีจำนวน 14 ราย และ 2) ธุรกิจรายใหม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินธรรมาภิบาล มีจำนวน 24 ราย
ด้าน สินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อตนได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ได้รับนโยบายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์)ให้กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากเป็นกรมที่มีภารกิจและบทบาทหน้าที่สำคัญเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการโดยตรง อีกทั้งยังเป็นคลังข้อมูลธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศ โดยย้ำให้หาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจไทยให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างคล่องตัว มีความสะดวก ควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล และมีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจตามหลักเกณฑ์ของสากล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างประเทศไทยให้ใสสะอาด โดยที่ผ่านมาทราบว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สนับสนุนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ภาคธุรกิจที่ประพฤติตนเป็นธุรกิจที่ดี มีการบริหารกิจการด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ผ่านการจัดกิจกรรม “การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ”อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา
ทั้งนี้แม้ว่าในปี 2564 นี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลงก็ตาม ทำให้การจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่สามารถดำเนินได้ในรูปแบบปกติแต่ภาคธุรกิจยิ่งต้องการขวัญและกำลังใจเพื่อให้สามารถเดินหน้านำพากิจการก้าวต่อไปได้ จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้า จัดกิจกรรมส่งเสริมธรรมาภิบาลให้แก่ภาคธุรกิจในรูปแบบ New Normal โดยได้เปิดให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน หรือบริษัทจำกัด ที่จัดตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี สมัครเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีหลักเกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขอรับหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ 6 ข้อ ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม ธุรกิจต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ อย่างเคร่งครัด2) หลักคุณธรรม ต้องมีการส่งเสริมคุณธรรมและจรรยาบรรณทางธุรกิจ 3) หลักความโปร่งใส มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ 4) หลักความมีส่วนร่วม ธุรกิจมีความใส่ใจเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ 5) หลักความรับผิดชอบ ผู้บริหารต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และ 6) หลักความคุ้มค่ามีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
“ธุรกิจที่ผ่านการประเมินจะได้รับหนังสือรับรองและตราเครื่องหมายรับรอง “มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ”จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองเป็นระยะเวลา 3 ปี เครื่องหมายดังกล่าวนอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต่ำของการประกอบธุรกิจแล้ว ยังแสดงถึงการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความดี และการดำเนินธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของหลักคุณธรรม โดยธุรกิจสามารถนำเครื่องหมายนี้ไปใช้ร่วมกับเครื่องหมายการค้าในการโฆษณาเพื่อเป็นการการันตีการเป็นธุรกิจสีขาว นอกจากนี้ ยังจะได้รับสิทธิในการระบุข้อความรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจบนหนังสือรับรองนิติบุคคลด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับ
คู่ค้า อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ธุรกิจรายอื่น”
นายสานิตย์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำลังเร่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจไทยมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกประเทศรวมทั้งจะผลักดันให้เกิดการสร้างเครือข่ายธุรกิจสีขาว เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป็นแบบอย่าง และพลังในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยต่อไป
สำหรับ รายชื่อธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจในปี 2564 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1) ธุรกิจที่ได้รับการต่ออายุหนังสือรับรอง และก้าวเข้าสู่การเป็นธุรกิจธรรมาภิบาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จำนวน 14 ราย ได้แก่1.บริษัท แมงโก้ คอนซัลแตนท์ จำกัด 2.บริษัท เลกซัสออโต้ ซิตี้ จำกัด 3.บริษัท สีไดโน จำกัด 4.บริษัท ดี ดับเบิลยูคอนซัลแทนท์ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด 5.บริษัท โปรเฟสชั่นแนล โชเฟอร์ ซัพพลาย จำกัด 6.บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด 7.บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด 8.บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินโนเวชั่น จำกัด 9.บริษัท อี.คิว. รับเบอร์ จำกัด 10.บริษัท เอ.ไอ.พี. จำกัด 11.บริษัท ชัยบูรณ์ บราเดอร์ส จำกัด12.บริษัท ผลไม้กระป๋องประจวบ จำกัด 13.บริษัท พิษณุเวช จำกัด 14.บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด
2) ธุรกิจรายใหม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินธรรมาภิบาลจำนวน 24 ราย ได้แก่ 1.บริษัท ยูพี แอ็คเคาน์เทนซี จำกัด 2.บริษัท ควิกสปีด จำกัด 3.บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด 4.บริษัท เดอะสตาร์ จำกัด 5.บริษัท บีอีเอซี แอคเคาน์แอนด์ ออดิท จำกัด 6.บริษัท บุศยา แอคเคาน์ติ้ง จำกัด7.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 8. บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์(ประเทศไทย) จำกัด 9.บริษัท ยูโรสแกน จำกัด 10.บริษัท รัชพรการบัญชีภาษีอากรและกฎหมาย จำกัด 11.บริษัท รัตนมณีการบัญชี จำกัด 12.บริษัท เอสแอนด์เอ ออดิท จำกัด13.บริษัท 2 เอ็ม อโกร เท็ค จำกัด 14.บริษัท อีซูซุกาญจนบุรีจำกัด 15.บริษัท บี.วี. การบัญชีและภาษีอากร (ขอนแก่น)จำกัด 16.บริษัท เอ.จี.ยูนิเวอร์แซล จำกัด 17.บริษัท จันทบุรีโทรทัศน์บริการ จำกัด 18.บริษัท ไทย รีเบิร์ท จำกัด 19.บริษัท เศรษฐกฤษฏ์ การบัญชี จำกัด 20.บริษัท เคมิท กรุ๊ป จำกัด21.บริษัท ฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 22.บริษัททอสเท็มไทย จำกัด 23.บริษัท ทิป ท็อป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 24.บริษัท อินเตอร์เฟส ซิสเทค จำกัด
**กระบองเพชร**
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี