วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
nn ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้เผยแพร่บทวิจัย EXIM Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้นำการส่งออกของไทยที่ EXIM BANK ได้พัฒนาขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นถึงทิศทางการส่งออกของไทยในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ล่าสุด EXIM Index ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 100.04 จาก 99.6 ในไตรมาสก่อนหน้า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสที่ดัชนีมีค่ามากกว่า 100สะท้อนมูลค่าการส่งออกของไทยในไตรมาสถัดไป คือ ไตรมาส 4 ปี 2566 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสหลังล่าสุดตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2566 สามารถขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกองค์ประกอบของดัชนี ดังนี้
ด้านอุปสงค์ (Demand) ดัชนีด้านอุปสงค์ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 99.5 ในไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 100.0 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี สะท้อนว่าอุปสงค์ในตลาดโลกเริ่มทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่ยังขยายตัวจากภาคบริการและตลาดแรงงาน สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ล่าสุดปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งสองประเทศในปี 2566มาอยู่ที่ 2.1% และ 2.0% ตามลำดับขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนก็เริ่มมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ สะท้อนได้จาก GDP ไตรมาส 3 ปี 2566 ออกมาดีกว่าคาดที่ 4.9%และเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่หลายแห่งยังไปต่อได้ อาทิ อินเดีย แอฟริกา เป็นต้น ช่วยหนุนความต้องการสินค้าหลายชนิดของไทย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยุโรปที่ยังถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่ปรับลดลงช้ากว่าหลายภูมิภาค ตลอดจนปัญหาหนี้ที่สูงในบางตลาดยังกดดันกำลังซื้อและอุปสงค์ต่อสินค้าไทยในระดับหนึ่ง
ด้านอุปทาน (Supply) ดัชนีด้านอุปทานปรับลดลงจากระดับ 101.3 ในไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 101.0 แต่ค่าดัชนียังสูงกว่า 100 เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน สะท้อนปัญหา Global Supply Chain Disruption คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากค่าระวางเรือที่ปรับลดลงจากปีก่อนกว่า 80% และปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก ที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนให้การส่งออกสินค้าส่งออกของไทยที่ต้องใช้ชิปเป็นส่วนประกอบขยายตัวดีต่อเนื่องโดยเฉพาะรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนและภาคการผลิตของไทยที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่สะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยที่หดตัวมาแล้ว 11 เดือนติดต่อกัน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตส่วนเกินก็ยังมีอยู่ (อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ต่ำกว่าระดับ 60 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน)โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออก
ด้านราคา (Price) ดัชนีด้านราคาปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 99.1 ในไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 99.7 แต่ค่าดัชนียังต่ำกว่า 100 เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันโดยเฉพาะราคาน้ำมันและราคาอาหารโลกที่แม้จะขยับเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากปัญหา Geopolitics และการปรับลดกำลังการผลิต
น้ำมันของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงปรากฏการณ์เอลนีโญที่เริ่มส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในหลายพื้นที่ของโลก แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งราคาน้ำมันและราคาอาหารโลกยังปรับลดลงเฉลี่ยกว่า 12% ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 ส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันของไทยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของมูลค่าส่งออกรวม ยังคงหดตัวต่อเนื่อง แต่ในส่วนของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยยังได้อานิสงส์จากความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศเร่งนำเข้าจากประเด็นความมั่นคงด้านอาหารจากภาวะภัยแล้ง สะท้อนได้จากปริมาณการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวหลายรายการที่ขยายตัวดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี อาทิ ข้าว ผลไม้ เป็นต้น
ด้านความเชื่อมั่น (Sentiment) ดัชนีด้านความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจาก 99.4ในไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 99.7 แต่ค่าดัชนียังต่ำกว่า 100 เป็นไตรมาสที่ 5ติดต่อกัน จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของโลกโดยรวมที่ยังถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงตลอดจนปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นบ้างหลังนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมที่เหลือของปี 2566 สะท้อนได้จาก FedWatch Tool ล่าสุดที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.6% และ 75.2% ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งหากยืดเยื้อหรือลุกลามจะส่งผลกระทบต่อโมเมนตัมเศรษฐกิจและบรรยากาศการค้าโลกโดยรวมในระยะถัดไปได้เช่นกัน
แม้การส่งออกของไทยในไตรมาส 4 ปี 2566 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้จากหลายปัจจัยข้างต้น และผลของฐานมูลค่าส่งออกที่สูงในช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2565 ที่หมดไป แต่มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่หดตัวมากกว่าคาดที่ 3.8% ทำให้ EXIM BANK คาดว่า การส่งออกของไทยทั้งปี 2566 จะหดตัวที่ราว -2% ถึง -1%อย่างไรก็ดี โมเมนตัมการส่งออกที่มีสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 เป็นต้นไป จะช่วยหนุนให้การส่งออกปี 2567 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวและกลายเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อีกครั้ง

ในหลวง พระราชทานดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของ แก่กำลังพลที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
ในหลวง พระราชทานน้ำหลวงอาบศพเป็นกรณีพิเศษ แก่กำลังพลเสียชีวิตความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
ด่วน! พรรคประชาชน เดินเกมเรียก สส. ลงชื่อ ยื่นซักฟอกรัฐบาล หลัง ‘ภูมิใจไทย’ ฉีก MOA
ชวนคนไทยบริจาคเลือด เตรียมพร้อมช่วยเหลือ รพ.ในพื้นที่ชายแดน
ชาวเน็ตรุมถล่มยับ น้ำชา ชีรณัฐ ปล่อยลูกชายเทซอสเล่นเลอะเทอะในร้านอาหาร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี