วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
.jpg)
nn การที่รัฐบาลจะใช้สถาบันการเงินของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร...แล้วทุกรัฐบาลก็ทำเช่นนั้น...!! แต่วิธีการนั้นต้องถูกต้องตามกฎหมายถูกวิธี...เพราะสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่งก็มี “กฎหมายจัดตั้ง” กำกับอยู่...ความผิดพลาดที่การใช้สถาบันการเงินของรัฐแบบผิดๆสร้างความเสียหายมานักต่อนักแล้ว...ตัวอย่างที่เป็นเคสใหญ่ก่อนหน้านี้...ก็กรณีของธนาคารออมสิน....เรื่องโครงการรับจำนำข้าว...ที่ทำให้ ผอ.ธนาคารออมสิน ในขณะนั้นต้องลาออก...ทั้งที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน...วงการธนาคารก็ต้องเสียนักการธนาคารรุ่นใหม่ฝีมือดีไปโดยไม่สมควร....มาถึงตอนนี้เป็นคราว(เคราะห์)ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ถูกดึงมาร่วมในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต...เอาล่ะ แม้ว่าในประเด็นกฎหมายก็อาจจะตีลังกาหลายตลบพลิกแพลงตีความให้รอดจาก...ม.9(3) ของ พ.ร.บ.จัดตั้ง ธ.ก.ส.ไปได้...แต่คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะกำกับด้านนโยบาย ธ.ก.ส.โดยตรง (หลังจากได้รับมอบหมายจาก คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายที่ต้องกำกับ ธ.ก.ส.) ก็ต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของ ธ.ก.ส. เป็นสำคัญด้วย....!! ปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีสินเชื่อที่ต้องดูแลลูกค้ากลุ่มเกษตรกรประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท...มีสภาพคล่องอยู่ประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท...แม้ว่าจะดูจากตัวเลขนี้ ธ.ก.ส. ก็ยังมีสภาพคล่องพอที่จะมาช่วยรัฐบาลในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต (1.72 แสนล้านบาท) ได้...แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ธ.ก.ส.ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของแบงก์เขาเองด้วย...ถึงดึงเงินมาขนาดนี้จะบอกว่าไม่กระทบกับสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.เลยก็ไม่ถูกต้องนะ...ปัจจุบัน รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อยู่ประมาณ 8 แสนล้านบาท...ซึ่งเกิดจากสารพัดโครงการที่รัฐบาล(ทุกชุดที่ผ่านมา)ให้ ธ.ก.ส.เข้าไปช่วยดูแลพี่น้องเกษตรกร(ทั้งประกันราคาสินค้าเกษตร สนับสนุนเงินเพื่อลดต้นทุนการผลิต ชดเชยชาวหน้าไร่ละพัน พักหนี้เกษตรกร จำนำข้าว ฯลฯ)...บวกก้อนใหม่เข้าอีก...รัฐบาลก็จะเป็นหนี้ ธ.ก.ส.ทะลุ 1 ล้านล้านบาท...แผนการชำระหนี้คืนก็ไม่แน่ใจว่าจะหมดเมื่อไหร่และไม่มีความชัดเจนซึ่งเป็นการยากมากที่จะบริหารสภาพคล่อง...ซึ่งแน่นอน เรื่องพวกนี้ส่งผลกระทบต่องบการเงินของธ.ก.ส.แน่ๆ...แล้ววันหนึ่งหาก ธ.ก.ส.มีความจำเป็นในเรื่องสภาพคล่องจะทำอย่างไรได้นอกเสียจากผลักภาระไปให้ลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกร...ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย...เกษตรกรซวยอีก...!! อีกเรื่องที่รัฐบาลต้องใส่ใจคือว่า...หากในอนาคตเกิดภัยพิบัติรุนแรงและสร้างความเสียหายกับภาคเกษตรอย่างรุนแรง...ธ.ก.ส.จะเหลือกำลังที่ไหนไปช่วยพ่อแม่พี่น้องเกษตรกร....ก็เห็นกันอยู่ว่าวิกฤตของภูมิอากาศของโลกขณะนี้ทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นทุกปี...รัฐบาลต้องคิดให้ไกลกว่านี้....เลิกคิดสั้นๆ เอาแค่เรื่องเฉพาะแบบนี้ได้แล้ว...!! แวดวงการเงิน...ขอล่ะครับ...อย่าให้ต้องเสียนักการธนาคารรุ่นใหม่ฝีมือดี อย่างคุณฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ไปอีกคนเลยครับ...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ

‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’
ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต จากเหตุชายแดน ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
มาลี แถลงโต้ ยันเขมรไม่ได้กักตัวคนไทย โอดถูกเครื่องบิน F-16 ระดมทิ้งระเบิด
สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง
โคราชจับตา! เฝ้าระวัง'ทหารรับจ้างรัสเซีย'ลอบเข้าพื้นที่ เอี่ยวแผนก่อเหตุจุดยุทธศาสตร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี