วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.
ส่องพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้มีสิทธิ จากนโยบาย Digital Wallet

ดูทั้งหมด

  •  

nn เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 รัฐบาลเปิดเผยเงื่อนไขโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท โดยผู้มีสิทธิในโครงการฯ จะมีอยู่ราว 50 ล้านคน ซึ่งเป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 70,000 บาท ซึ่งจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่นที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งสามารถนำไปซื้อสินค้าได้ทุกประเภท (ยกเว้นอบายมุขบริการ น้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าออนไลน์) จากร้านค้าปลีกขนาดเล็กภายในอำเภอ (รวมร้านสะดวกซื้อ Standalone และในปั๊มน้ำมัน) ซึ่งการใช้จ่ายจะเริ่มในไตรมาส 4 ปี 2567

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่คาดว่าจะได้รับสิทธิดิจิทัล วอลเล็ต (ตามรายละเอียดของโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2566) ระหว่าง 12 พ.ย.-12 ธ.ค. 2566 ซึ่งมีผลการสำรวจที่น่าสนใจที่มีผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจค้าปลีก ดังนี้ 1.เม็ดเงินโดยส่วนใหญ่จากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะหมุนเข้าระบบภายใน 6 เดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้ ภาครัฐจะกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายมากกว่า 6 เดือนก็ตาม โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 58% จะทยอยใช้เงินโครงการ 10,000 บาท ครบภายใน 6 เดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้มีรายได้น้อย (รายได้น้อยกว่า 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน) หรือ กลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะทยอยใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท ไปจนถึงวันสิ้นสุดโครงการในเดือนเม.ย. 2570 (ตามเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ทางการประกาศเมื่อเดือน พ.ย. 2566) ทั้งนี้จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2567ยังไม่ได้ระบุระยะเวลาในการใช้จ่ายเงินของโครงการ ซึ่งหากภาครัฐต้องการให้เงินหมุนเวียนเร็วอย่างเต็มประสิทธิภาพ อาจต้องกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายให้สั้น เช่น ไม่เกิน 6 เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิใช้จ่ายในระยะเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ


2.กว่า 80% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าจะลดการใช้จ่ายเงินส่วนตัวของตัวเองลง หากได้รับเงิน 10,000 บาท จากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต มาใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิฯที่ลดการใช้จ่ายเงินส่วนตัว บางส่วนนำเงินที่ลดลงดังกล่าวกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการให้ญาติใช้จ่าย/นำไปลงทุนธุรกิจต่อทั้งนี้หากรวมเงินที่เข้าสู่ระบบฯ ข้างต้น จะพบว่า ราว 30% ของผู้มีสิทธิฯ ทั้งกลุ่มรายได้มาก(เงินเดือน 4-7 หมื่นบาท)-ปานกลาง(1.5-4 หมื่นบาท)-น้อย (< 1.5 หมื่นบาท)มีการใช้จ่ายเงินส่วนเพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 10,000 บาทต่อราย นอกจากนี้ผู้มีสิทธิฯ โดยส่วนใหญ่จะลดการใช้จ่ายเงินส่วนตัวลง และนำเงินที่ลดลงดังกล่าวไปเก็บออม/ชำระคืนเงินกู้ (คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของผู้มีสิทธิที่ลดการใช้จ่ายเงินส่วนตัว) ซึ่งช่วยลดภาระหนี้ของผู้มีสิทธิฯหรือทำให้ผู้มีสิทธิฯ มีเงินออมเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็นมากขึ้น

3.Grocery เป็นสินค้าหลักที่จะได้ประโยชน์จากโครงการฯ โดยผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้จ่ายเงินโครงการในสินค้า Grocery เกือบ 40% ของประเภทสินค้าที่เลือกซื้อทั้งหมด ขณะที่สินค้าหมวดสุขภาพและร้านอาหารเป็นสินค้ารองลงมาที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการฯ ยกเว้นในกลุ่มผู้มีสิทธิที่เป็น Gen Z มีแนวโน้มนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ มีแนวโน้มนำเงินบางส่วนจากโครงการไปซื้อสินค้าเพื่อแต่ง/ซ่อมบ้านเพิ่มเติมด้วย กลุ่มสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน และมือถือ คาดว่าได้รับอานิสงส์จากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต บ้าง จากกลุ่มผู้มีสิทธิฯ ราว 10-17% ที่เลือกใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนติด Top 3 โดยกลุ่มผู้มีสิทธิฯ เหล่านั้นเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทในครั้งเดียว หรือเป็นกลุ่มที่ไม่ลดการใช้จ่าย/เพิ่มการใช้จ่ายเงินส่วนตัว ซึ่งค่อนข้างกระจุกอยู่ในผู้มีสิทธิฯ
กลุ่ม Gen Y และ Z รวมถึงผู้มีรายได้มากกว่า 1.5 หมื่นบาท

4.ร้านค้าท้องถิ่นและร้านสะดวกซื้อจะเป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ได้ประโยชน์จากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต โดยผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้จ่ายเงินโครงการในร้านค้าท้องถิ่นราว 40% และร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ และ 7-11 ราว 26% ของประเภทร้านค้าที่เลือกใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มร้านอาหารและร้านขายยาเป็นกลุ่มรองที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการฯ ด้วย นอกจากนี้ร้านอุปกรณ์ยานยนต์และร้านอุปกรณ์การเกษตร คาดว่าจะได้อานิสงส์อยู่บ้าง โดยผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้จ่ายในร้านค้าเหล่านี้เป็นอันดับที่ 5 โดยผู้มีสิทธิฯ ที่รายได้สูง หรืออยู่ในกรุงเทพฯ/หัวเมืองใหญ่จะนำไปใช้จ่ายในร้านอุปกรณ์ยานยนต์ ขณะที่ผู้มีสิทธิฯ อยู่ต่างจังหวัด/รายได้น้อย จะเลือกใช้จ่ายในร้านอุปกรณ์การเกษตร

อย่างไรก็ดี ในส่วนของร้านค้าส่ง/ค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น แม้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของผู้มีสิทธิในโครงการฯ แต่คาดว่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากร้านค้าท้องถิ่นขนาดเล็กที่ต้องนำเงินรายได้จากการขายสินค้าให้ผู้มีสิทธิฯ มาใช้จ่ายต่อไปยังร้านค้าอื่นๆ เช่น การซื้อสินค้าเพื่อสต๊อกสินค้าในร้านค้า เป็นต้น

5.การกำหนดพื้นที่ใช้จ่ายเงินโครงการฯในร้านค้าตามที่อยู่ทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิฯอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายเงินโครงการฯ ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสำรวจที่คาดว่ามีสิทธิในโครงการ มองว่า การกำหนดพื้นที่ใช้จ่ายเงินโครงการฯ เป็นข้อจำกัดต่อการใช้จ่ายเงินของโครงการฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงาน/อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จังหวัดหัวเมืองใหญ่รวมถึงกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ ซึ่งราว 70% ของกลุ่มเหล่านั้น มองว่าการกำหนดพื้นที่ใช้จ่ายเป็นอุปสรรค โดยปัญหาหลักของการใช้จ่าย มาจากการไม่มีร้านค้าที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการในพื้นที่ที่กำหนด

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:46 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
21:40 น. รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
21:34 น. 'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
21:06 น. คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
20:49 น. ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
ดูทั้งหมด
สื่อเขมรตีข่าว! คนกัมพูชาเมินท่องเที่ยวเมืองไทย เทใจแห่ไป2ประเทศนี้แทน
มาแล้ว!!! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.68
มิติใหม่! 'หน้าเหมือนองค์หญิงมาก องค์หญิงจ๊ะ' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงไลฟ์สดแต่งพระพักตร์ครั้งแรก (ชมคลิป)
พร้อมกันหรือยัง!!! เปิดภาพพยากรณ์อากาศ 12-13 พ.ย. อุณหภูมิเย็นลงอีกครั้ง
(คลิป) 'สุภาพ-เรียบร้อย-ก้าวร้าว' เปรียบเทียบวุฒิภาวะ 3 รัฐมนตรีหญิง
ดูทั้งหมด
สังคมไทยสมัยใหม่ช่างอาภัพผู้นำทางการเมือง
ซังกะบ๊วย
บุคคลแนวหน้า : 1 พฤศจิกายน 2568
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
กองทัพไทยไม่มีงบฯ ซื้ออาวุธหรือ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!

รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด

'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล

คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย

ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ

ยังยืน 1 ส่งออกเนื้อไก่ไทยปี 68 ทะลุหลักแสนล้าน ท่ามกลางวิกฤต ​ศก.-สงครามไทย-กัมพูชา

  • Breaking News
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!! (คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
  • รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
  • \'ญาญ่า\'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น\'ปลากล้องโทรทรรศน์\' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล 'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
  • คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
  • ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

30 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

23 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

16 ต.ค. 2568

โลกการค้า :9 ตุลาคม 2568

โลกการค้า :9 ตุลาคม 2568

9 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 2 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 2 ตุลาคม 2568

2 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 25 กันยายน 2568

โลกการค้า : 25 กันยายน 2568

25 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 18 กันยายน 2568

โลกการค้า : 18 กันยายน 2568

18 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

11 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved