** ไม่รู้ว่า...คุณปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร...ส่งใครไปชี้แจง...คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร...ที่กำลังตรวจสอบ “ถึงกรณีการตรวจสอบการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาท ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) ที่ไม่มีดอกเบี้ยและกำหนดการชำระเงิน ซึ่งอาจเข้าข่ายนิติกรรมอำพรางหรือการหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้”…เพราะหนึ่งในคำถามสำคัญของคณะกรรมาธิการฯคือ.. “หากประชาชนทั่วไปโอนหุ้นให้บุตรที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านบาท/ปี ซึ่งต้องเสียภาษีการรับให้ร้อยละ 5 สำหรับส่วนที่เกิน และใช้รูปแบบตั๋ว PN เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.แพทองธาร กรมสรรพากรจะดำเนินการจัดเก็บภาษีหรือไม่????”...ตัวแทนจากกรมสรรพากรตอบเพียงว่า "อยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อเท็จจริง" และปฏิเสธให้กรอบเวลาที่ชัดเจน...อีกคำชี้แจงที่ประชาชนได้รู้แล้วเจ็บจี๊ด...คือ...คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีดังกล่าว กลับมีสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม โดยขาดผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ตำแหน่ง ซึ่งต้องได้รับการแต่งตั้งจาก "นายพิชัย ชุณหวชิร" รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หากคณะกรรมการยังไม่ครบองค์ จะไม่สามารถวินิจฉัยคดีของ น.ส.แพทองธาร ได้….!! คำถามสำคัญสำหรับ...แวดวงการเงิน...คือแบบนี้มันรียกว่า  “ความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย..มีปัญหาหรือไม่???”....เพราะกับประชาชนคนธรรมดา...กรมสรรพากร...เล่นงานเขาเกือบตาย...พ่อค้าแม่ขาย...ถูกกรมสรรพากรไปนั่งนับชามก๊วยเตี๋ยว...ไปเฝ้าดูว่าขายหมูปิ้ง ไก่ย่าง ได้วันละกี่ไม้ ฯลฯ...ใครจ่ายภาษีไม่ครบ..เก็บคาปรับ 1.5% ต่อเดือน..หรือ 18% ต่อปี...ระดับความโหดท่ากับดอกเบี้ยบัตรเครดิตเลย...ซ้ำบางรายโดนส่งเอกสายขู่จะยึดบ้านเขาอีก...ชาวบ้านชาวช่องที่ไปติดต่อถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง 5 ปี...ปีที่ 1-2 ประชาชนชำระภาษีไว้เกิน...แต่ไม่รับภาษีคืนเพราะอ้างว่าเกินเวลา...แต่ปีที่ 3-5  ประชาชนชำระภาษีขาด...กับต้องจ่าย พร้อมคาปรับและดอกเบี้ยมหาโหด...ทั้งๆที่การตรวจสอบภาษีย้อนหลังเกิดขึ้นในวาระเดียวกัน...แบบนี้มันเป็นธรรมไหมฟ๊ะ...พูดจากับประชาชนที่เข้าติดต่อราชการ...ก็แสดงอาการ... “ดุอย่างกะหมา”จ้องจะกัดจะแดกประชาชนท่าเดียว

**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**