**คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง...กำลังเดินมาถูกทางแล้ว การมุ่งมั่นกับนโยบาย Zero Tolerance ...ล่าสุดที่ไปแถลงข่าวการจับกุมบุหรี่เถื่อนที่ จ.ชลบุรี....ต่อเนื่องที่เคยดำเนินมาแล้วในหลายพื้นที่...ก็สร้างแรงกระเพื่อมให้กรมสรรพสามิตตื่นตัวกันพอสมควร...ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเคยเป็นช่องทางลำเลียงสินค้าบุหรี่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยผ่านจังหวัดจันทบุรี ตราด สระแก้ว...วันนี้คงไม่ง่ายเหมือนก่อน คุณเผ่าภูมิ น่าจะใช้โอกาสนี้ประกาศสงครามปราบบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ปลอมตามแนวชายแดนภาคตะวันออกไปเลย...บุหรี่ที่แพงแบบทุกวันนี้เพราะ “อัตราภาษี” มิใช่แพงจาก “โครงสร้างภาษี” ถ้าจะทำให้บุหรี่ส่วนใหญ่ในประเทศที่ขาย 70-72 บาท ราคาถูกลง ก็ต้องลดภาษี ซึ่งมีหวังรายได้ภาษีสรรพสามิตวูบหนักกว่าเดิม แถมเพิ่มเติมคือ สวนทางนโยบายสุขภาพ และไม่รู้ว่าจะสู้บุหรี่เถื่อนที่ขายถูกกว่า 2-3 เท่าได้ไหม คุณเผ่าภูมิ จะเอาอนาคตทางการเมืองไปเสี่ยงเปล่าๆ ว่าออกนโยบายผิดพลาดซ้ำสอง..แวดวงการเงิน... เข้าใจดีถึงความหวังดีที่ต้องการสนับสนุน คุณกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต..ในการบริหารกรมสรรพสามิต แต่ต้องยอมรับว่ารายได้จากการเก็บภาษียาสูบลดลงในช่วงปี 2561-2565 ก่อนจะเห็นการเติบโตของบุหรี่เถื่อนอย่างรุนแรงในปี 2566 เนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีเป็น 2 อัตรา และอัตราภาษีที่สูงเกินไปในเทียร์บน ส่งผลให้คนเปลี่ยนจากสูบบุหรี่ราคาแพงมาสู่บุหรี่ราคาประหยัดในเทียร์ล่าง จนเกิดการกระจุกตัวของบุหรี่เกือบทั้งตลาดในกลุ่มบุหรี่ราคาถูก และส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของการยาสูบแห่งประเทศไทย มาตั้งปี 2561 ก่อนที่บุหรี่เถื่อนจะระบาดหนัก หนีไม่พ้นเกิดจากการนำโครงสร้างภาษี 2 อัตรามาใช้อีก...หากอยากเพิ่มรายได้ภาษีสรรพสามิต และช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยาสูบถูกกฎหมาย คุณเผ่าภูมิ น่าจะต้องแก้ไขที่โครงสร้าง ให้มีความเรียบง่าย เป็นสากล เอื้อต่อการจัดเก็บรายได้ ไม่บิดเบือนกลไกราคา แต่หากจะแก้บุหรี่เถื่อนตอนนี้ต้องมุ่งไปการปราบปรามแหล่งกำเนิด และเส้นทางลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนระยะยาวต้องหาจุดที่อัตราภาษีที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของคน ไม่มากไม่น้อยเกินไปจนทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่เพิ่ม…การใช้โครงสร้างภาษีนี้มาตลอด 8 ปี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปกว่า 7 หมื่นล้านบาท แม้จะมีมติจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายครั้ง และนักวิชาการหลายยุคหลายสมัย แนะนำให้เร่งปรับโครงสร้างภาษีอยู่เสมอ เนื่องจากโครงสร้างที่ซับซ้อนนี้อาจไม่เป็นประโยชน์ แม้กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตระบุว่ากำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ แต่รายได้ของประเทศลดลงทุกวัน เพราะการตัดสินใจยังไม่เกิดขึ้น…ประเทศไทยต้องการเงินมาบริหารผลักดันโครงการต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กระทรวงการคลังและสรรพสามิต ก็ยังคงนิ่งเฉย มองข้ามเรื่องเล็กๆอย่างการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ที่สามารถสร้างเม็ดเงินเข้ากระเป๋าตังของรัฐได้ แทนที่จะใช้ทุกโอกาสในการเพิ่มรายได้ หรืออย่างน้อยก็อุดรอยรั่วของรายได้ปีละหลายหมื่นล้านบาทลงได้บ้างก็ยังดี....หากคุณเผ่าภูมิ ยังยืนยันว่าการปรับโครงสร้างภาษีจะช่วยเรื่องบุหรี่เถื่อนจริงๆ ก็ขอให้ทำการบ้านดีๆ หาตัวอย่างมาว่ามีประเทศไหนทำสำเร็จ หรือล้มเหลวกันบ้าง หรือจะลองถามธนาคารโลก (World Bank) ดูก็ได้...**
** อนันตเดช พงษ์พันธุ์**
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี