** วันนี้ (24มิ.ย.) แล้วสินะ...ผู้ยื่นรับการสรรหาในตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่...จะเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหา...เอาจริงนะ...เชื่อว่าทั้งสังคมและ”แวดวงการเงิน”อยากจะรู้มากๆเลยว่า...คนเก่งระดับเทพทั้ง 6 ท่าน...จะนำเสนออะไร...จะวางทิศทางของธนาคารแห่งประเทศไทยไปทางไหน...ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยอ่อนแอและต้องเจอกับความท้ายทายยากๆและรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลา…!! ย้ำอีกทีว่าแต่ละท่านที่จะเข้าแสดงวิสัยทัศน์ในวันนี้นั้น...ล้วนเป็นผู้ที่ความรู้สูงมากเป็นคนระดับหัวกระทิของประเทศนี้...แต่ในเมื่อต้องมีเพียงหนึ่ง...ใครนำเสนอประเด็นที่แหลมคมตรงจุดตรงเป้ากับประเทศไทยยามนี้ได้มากที่สุด...ก็จะเป็นผู้ที่สั่นกระดิ่งในใจของคณะกรรมการสรรหาได้ดังที่สุด...และแรงสั่นสะเทือนนั้นก็จะส่งไปถึง..คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ซึ่งทำหน้าที่รับรองมติของคณะกรรมการสรรหาและนำรายชื่อส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา...!! ว่ากันตามจริงนะสิ่งที่รัฐบาลนี้อยากเห็นมากๆ...คือกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย...เดินไปในทิศทางเดียวกัน(ซึ่งที่ผ่านมาก็ไฝว้กันตลอด)...ส่วนเรื่องใหญ่และสำคัญที่สุดในใจของ”รมว.คลัง”...คืออยากเห็นธนาคารพาณิชย์ยอมกำไรน้อยลงหน่อยได้ไหมแล้วมาช่วยสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่...โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เม็ดเงินหดหายไปจากระบบ....ดังนั้นหนึ่งในวิธีคิดสำคัญของผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่คือ...ต้องไม่เข้าข้างธนาคารพาณิชย์....!!

ทิ้งเชิงอรรถไว้ว่า...เรื่องการควบคุมความเสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ก็ยังทำต่อไปอย่างเข้มข้นเหมือนดั่งทุกวันนี้...อันนี้แวดวงการเงินก็เห็นด้วย...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า”แบงก์พาณิชย์จะรักแต่ตัวเองจนรักคนอื่นไม่เป็น”...!! เอ๊ะ...มาถึงตรงนี้ทำไม่แวดวงการเงิน...เห็นหน้าคุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน...ลอยขึ้นมาได้น๊อ....อ๋อๆๆๆรู้แล้ว...เพราะวิสัยทัศน์ของเขาเรื่องที่วางบทบาทของ ธ.ออมสินให้เป็น “ ธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) “...มาตลอด 5 ปีนี่เอง...ที่ทำให้คนไทยรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อในระบบมากว่าล้านราย...แล้วล่าสุดก็ยังประกาศที่ยอมลดกำไรของธนาคารออมสินลงเพื่อเข้าไป”ช่วยคน”ให้ได้มากขึ้นอีก...ก็น่าจะสั่นกระดิ่งในใจของ”รมว.คลัง”ได้ดังที่สุด...**  

** อนันตเดช พงษ์พันธุ์**