หลายปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งไม่หยุด
** ราคาทองคำตลาดโลกยังคงพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ราคาทองคำในประเทศขยับอย่างแรงเช่นกัน โดยในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.ย.2568 สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยราคาทองประจำวัน (3 ก.ย.) ครั้งที่ 1 ในเวลา 09.01 น. ได้พุ่งขึ้นทันที 800 บาท ขณะที่ตอนนี้มีการปรับราคาเป็นครั้งที่ 3 ในเวลา 09.28 น. รวมแล้วมีการปรับราคาขึ้นรวม 900 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 54,100 บาท ขายออก 54,200 บาทและ ทองรูปพรรณ รับซื้อ 53,014.52 บาท ขายออก 55,000 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 3,541.50 ดอลลาร์ต่อออน
ด้าน นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์โจมตีการค้าระหว่างสหรัฐและอินเดียว่า “เป็นหายนะด้านเดียว” พร้อมยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีกับอินเดีย YLG ประเมินว่า ราคาทองคำยังมีทิศทางบวกในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยเฉพาะหากราคาสามารถ “ยืนเหนือระดับ $3,500” ได้อย่างมั่นคง จะมีโอกาสปรับขึ้นต่อสู่แนวต้านถัดไปที่ $3,600 และ $3,700 ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของปี 2568 ตามที่บริษัทวางไว้
ทั้งนี้แรงหนุนหลักยังคงมาจากแนวโน้ม การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน ประกอบกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในเวทีประชุม Jackson Hole ที่ยอมรับว่า “ความเสี่ยงต่อการจ้างงานกำลังเพิ่มขึ้น” และการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเป็นอีกปัจจัยกดดันเฟดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น การกดดันให้เจอโรม พาวเวล ลาออก และล่าสุดคือคำสั่งปลด ลิซ่า คุก หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ซึ่งถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงอิสระของเฟดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบกว่า 100 ปี แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรเป็นระยะ แต่ภาพรวมตลาดยังคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาทองคำในระยะกลางถึงยาว
ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้ หลังประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในงานการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล สอดคล้องกับเครื่องมือ FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2568 นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะปรับ 3 ครั้ง โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือน ก.ย.และ ต.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ อีกทั้งความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หลังประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งปลดลิซา คุก พ้นตำแหน่งกรรมการเฟด ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์ Standard Chartered Bank ระบุ ตลาดทองคำกำลังเข้าสู่ช่วงที่ความต้องการซื้อสูงตามฤดูกาล และเมื่อพิจารณาถึงการคาดการณ์ที่ว่าเฟด (ธนาคารกลางสหรัฐ) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุม 17 ก.ย. ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อไป
นอกจากนี้นักวิเคราะห์หลายแห่งประเมินราคาทองคำทำสถิติสูงสุดในปี 2568 นี้ มีปัจจัยหนุนมาจากการที่ธนาคารกลางต่างๆเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อกระจายความเสี่ยงจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้า รวมทั้งการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
บทวิเคราะห์จากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง และยังเป็นผลจากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่า การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การต่อสู้คดีในศาลสูงสุด นำไปสู่ความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องคืนเงินภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บไปแล้วกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2568 นี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้น ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 12.88 ตัน รวมสุทธิ 990.56 ตัน
**กระบองเพชร**
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี