วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2559 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดทำการลงประชามติในเรื่อง "รัฐสวัสดิการ" ที่รัฐจะจ่ายเงินเดือนให้กับประชาชนผู้ใหญ่ทุกคน 2500 สวิสฟรังซ์ หรือประมาณ 90900 บาทต่อเดือน และสำหรับเด็กๆ 625 สวิสฟรังซ์ หรือประมาณ 22725 บาทต่อเดือน

เป็นการแจกเงินให้แก่ทุกคน โดยไม่เว้นแม้แต่คนที่ไม่เคยทำงาน หรือ คนที่กำลังมีงานทำอยู่ก็ตาม

เรื่องการลงประชามติของสวิตเซอร์แลนด์ นั้น ถือเป็นขั้นตอนการแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ และ เป็นการกำหนดนโยบายของประเทศร่วมกันของประชาชนทั้งประเทศ ผู้มีสิทธิ์ในการลงประชามติ ก็คือ ประชาชนชาวสวิสฯ ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศ หรือ ต่างประเทศก็ตาม

(ธนบัตรสวิสฟรังซ์)

โดยปกติ สวิตเซอร์แลนด์ จะมีการลงประชามติประมาณ 2 ครั้งต่อปี ในทุกประเด็นปัญหาตามแต่จะมีประชากรจำนวนหนึ่งของยกขึ้นมาเพื่อ ให้ประชาชนได้ลงประชามติ เพื่อเป็นกฎหมายในการใช้บังคับ

ส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาการเมือง  ปัญหาเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ  เช่น ประเด็นเรื่องการจะตัดถนนสายไฮเวย์ผ่านเข้าไปในชนบท ซึ่งกระทบสิทธิของชาวชนบท แต่ผู้ได้รับประโยชน์ก็คือ คนในเมืองที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ จนกระทั่ง ประเด็นการจะเข้าร่วมใช้เงินสกุลยูโรด้วยหรือไม่ 

ประชามติคราวนี้ออกจะเป็นเรื่องแปลกมากๆที่จะเลือกว่า จะให้รัฐจ่ายเงินเดือนให้แก่ประชาชนทุกคนเป็นจำนวนประมาณ 90,900 บาทตลอดชีวิตโดยไม่มีข้อยกเว้น

(ทิวทัศน์ของ สวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน)

รายงานข่าวจากการสำรวจหลังการลงคะแนนระบุว่า เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ลงประชามติ ไม่ต้องการระบบประชานิยมสุดกู่แบบนี้ 

ของฟรีๆ ได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงแรงอะไรให้เหนื่อยแบบนี้ ทำไมชาวสวิสฯจึงปฎิเสธ

ลองนึกดูนะครับว่า ด้วยเงิน 90,900 บาทต่อเดือน ชาวสวิสฯสามารถบินมาเช่าบ้านริมทะเลในประเทศไทย สามารถอยู่ในอากาศที่อบอุ่นทั้งปี ไม่ต้องทนความหนาวขนาดอุณหภูมิติดลบในช่วงฤดูหนาว ได้นอนอาบแดดอย่างสบายใจ และ มีอาหารทะเลให้กินทุกวัน ไปตลอดทั้งชีวิต 

ทำไม เขาจึงไม่ยอมรับ  

เรื่องแบบนี้ ถ้ามาลงประชามติกันในประเทศไทย ผมเชื่อว่า  ผลจะออกมาในทางตรงกันข้าม  แต่ทำไม ชาวสวิสฯจึงปฎิเสธ  เขาโง่หรือ 

อะไรเป็นตัวหล่อหลอมให้ชาวสวิสฯ เลือกทางเดินชีวิตแบบที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน   

ผมจึงขอนำเอาเรื่องราวความเป็นมา และ สิ่งที่หล่อหลอม จิตวิญญาณของชาวสวิสฯ มาให้อ่านกันครับ 

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเรียกเต็มๆว่า สหพันธรัฐสวิส ภาษาอังกฤษจะเขียนว่า SWISS CONFEDERATION ซึ่งเมื่อเขียนเป็นภาษาละตินจะเขียนว่า CONFOEDERATIO HELVETICA เมื่อกลายมาเป็นตัวย่อบนแผ่นป้ายทะเบียนรถของสวิตเซอร์แลนด์ จะเขียนว่า CH

อะไรคือ HELVETICA 

พูดอย่างรวบรัด HELVETICA หมายถึง ชาวสวิสฯโบราณที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันนี้ คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  บางครั้งก็เรียกว่า ชาวเฮลเวติ (THE HELVETII)  หรือ เฮลเวเทีย (HELVETIA) 

ชนเผ่าเฮลเวติ อาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์มาตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจชี้ชัดได้ แต่แน่นอนว่า ตั้งแต่ก่อนหน้าที่พวกโรมันจะเข้าไปยึดครองยุโรปกลางได้ในราวศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลเป็นอย่างน้อย

 
(สัญลักษณ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นรูปเทพีเฮลเวทีย ประกฎอยู่บนด้านหลังของเหรียญ)

ตอนนั้น ชาวเฮลเวติ อาศัยอยู่ในภูมิภาคแถบเทือกเขาเอลป์ ซึ่งมีภูมิอากาศไม่ค่อยเป็นมิตรกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่เท่าไหร่นัก   เพราะเป็นภูเขาสูง และ ทะเลสาบ

ข้อสำคัญก็คือ เมื่อถึงฤดูหนาวที่จะยาวนานประมาณ 4 – 6 เดือน จะเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย ทรมาน ต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด

มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันนี้เป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอด หมายความว่า จะต้องใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูร้อน ให้ได้อย่างเต็มที่ในการสะสม กักตุนเสบียงอาหารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  เพื่อจะเอาไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาวที่ยาวนาน

เพราะช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานนั้น ไม่สามารถเพาะปลูกพืชผักใดๆ เพื่อเป็นอาหารได้เลย  

ใครทำได้ ก็จะมีชีวิตรอดไปพบกับฤดูใบไม้ผลิของปีถัดไป แต่หากใครไม่สามารถทำได้ ก็อาจจะต้องอดอยากยากแค้น หรือ ตายก่อนที่จะถึงฤดูใบไม้ผลิของปีถัดไป

มันเป็นชีวิตที่แสนจะโหดร้าย ซึ่งสำหรับคนไทยที่ไม่เคยประสบกับอากาศหนาวประเภทติดลบแล้ว คงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ฤดูหนาวที่มีหิมะหนาเป็นเมตรๆ จะโหดร้ายขนาดไหน

(แผนที่ยุโรปกลาง ในยุคโรมัน ในวงกลมสีแดงคือพื้นที่
ที่ชนเผ่าเฮลเวติ อาศัยอยู่ ปัจจุบันก็คือประเทศสวิตเซอร์แลนด์) 

ดังนั้น ชาวเฮลเวติ จึงต้องวางแผนการทำงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูร้อนอย่างรอบคอบที่สุด ละเอียดที่สุด และ ขยันขันแข็งที่สุด เพื่อความอยู่รอดของสมาชิกทุกคนในครอบครัว 

แต่ธรรมชาติไม่เคยปรานีใคร บางปีที่ฤดูหนาวยาวนานกว่าปกติ หรือ ฤดูร้อนสั้นกว่าปกติ ชาวเฮลเวติ ก็จะประสบกับภาวะอดอยาก ครอบครัวไม่มีอะไรจะกิน

ชาวเฮลเวติ จึงต้องอพยพเคลื่อนย้ายไปหาดินแดนที่ทำมาหากินง่ายกว่า หรือแผ่นดินมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า

พวกเขาทราบว่า ดินแดนที่เรียกว่า กอล(GAUL) ที่อยู่ในยุโรปตะวันตก ที่ปัจจุบันนี้ก็คือ ประเทศฝรั่งเศส มีความอุดมสมบูรณ์กว่า จึงชวนกันอพยพไปสู่ดินแดนที่ว่านี้ เพื่อความอยู่รอด  

ซึ่งก็คงจะมีการอพยพไปมาแบบนี้มานานโขแล้ว  อพยพไปทำมาหากิน เก็บเสบียงได้บางส่วนแล้วก็คงจะเดินทางกลับถิ่นฐานเดิม เพราะไม่มีที่ไหนจะมีความสุขเท่ากับที่บ้านเกิด  

และแน่นอนว่า ในดินแดนแห่งใหม่ที่พวกเขาอพยพเข้าไปทำมาหากินนั้น  ก็ย่อมมีผู้คนเจ้าถิ่นเดิมอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ย่อมเกิดการกระทบกระทั่งกันแน่นอน 

จนเมื่อชาวโรมันได้เข้ายึดครองดินแดนตอนกลางของยุโรป จึงเกิดปัญหาขึ้น

ติดตามต่อในสัปดาห์หน้าครับ  

(เชิญติดตามอ่านบทความ ดูดวงออนไลน์ ที่ผมเขียนใน แนวหน้าดอทคอม นี้ ในนามปากกา "ธรรมาธิปติ")