โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
หลังสงครามกับปากีสถานในปี 1971 ที่อินเดียพิชิตปากีสถานอย่างราบคาบ ทำให้ดุลย์อำนาจของอินเดียเพิ่มมากขึ้นทั้งในระดับภูมิภาค และ นานาชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในขณะที่อินเดียกำลังจะเริ่มทำสงครามกับปากีสถานตะวันออก อเมริกา และ ยุโรปประกาศว่า จะเข้าช่วยปากีสถาน อเมริกาถึงกับส่งเรือรบเข้ามาสู่อ่าวเบงกอลด้วยซ้ำ
แต่อินเดียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโซเวียตรัสเซีย ยืนหยัดจนสามารถทำสงครามได้ชัยชนะต่อปากีสถาน และทำให้เกิดประเทศใหม่อย่าง บังคลาเทศ ขึ้นมา
(นางอินทิรา คานธี - ภาพจากวิกิพีเดีย)
ทำให้สถานะของนางอินทิรา คานธี นายกรัฐมนตรีของอินเดียในขณะนั้นมีความแข็งแกร่งขึ้น ส่งผลต่อแนวคิดของฝ่ายมุสลิมในแคชเมียร์ อย่างเช่น เช็คห์ อับดุลลาห์ ซึ่งเริ่มเปลี่ยนแนวคิดของตัวเอง มาคล้อยตามนโยบายของนางอินทิรา มากขึ้น
จนมีการลงนามในสัญญาความเห็นร่วมระหว่าง นางอินทิรา กับ เช็กห์ อับดุลลาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เช็กห์ อับดุลลาห์ เคยเรียกร้องมาก่อน คือ ขอให้ทำประชามติของประชากรในแคชเมียร์ และ เรียกร้องให้แคชเมียร์ สามารถตัดสินชะตาชีวิตของตนเองได้ ก็ถูกยกเลิกออกไป
(นางอินทิรา กับเนห์รู บิดา)
การลงนามครั้งนี้ น่าจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากนายเนห์รู ผู้เป็นบิดาของนางอินทิรา คานธี เพราะเนห์รู มีความสนิทชิดชอบเป็นอย่างยิ่งกับ เช็กห์ อับดุลลาห์
ก่อนหน้านั้น เนห์รู เคยขอให้อับดุลลาห์ เป็นสะพานเชื่อมอินเดียกับปากีสถาน อับดุลลาห์เดินทางไปพบกับประธานาธิบดี อายุบ ข่าน ของปากีสถาน และเชื้อเชิญให้อายุบ ข่าน เดินทางไปเดลี เพื่อพบปะและเจรจากับนายกรัฐมนตรี เนห์รู เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในประเด็นแคชเมียร์ด้วย
(นายพล อายุบ ข่าน ประธานาธิบดีของปากีสถาน ขึ้นมาสู่อำนาจด้วยรัฐประหาร-ภาพจากวิกิพีเดีย)
อายุบ ข่าน ตกลงที่จะเดินทางไปอินเดียในเดือนมิถุนายน ปี 1964 แต่ประวัติศาสตร์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้น เพราะ เนห์รูเสียชีวิตเสียก่อนเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1964 ก่อนหน้าที่จะถึงวันประชุมพบปะกันเพียงแค่เดือนเดียว
เหตุการณ์ผ่านมาจนถึงยุคของนางอินทิรา คานธี ซึ่งสามารถเจรจาให้มีการลงนามข้อตกลงระหว่างอินทิรา กับ อับดุลลาห์ ได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยความคาดหวังว่าจะทำให้สถานการณ์ในแคชเมียร์ดีขึ้น
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งนางอินทิรา และ อับดุลลาห์ ไม่ได้ลงนามด้วยตัวเอง แต่ทั้งคู่เลือกที่จะส่งตัวแทนมาลงนามแทน แสดงให้เห็นถึงการไม่ให้ความสำคัญของสัญญาดังกล่าวนี้
สัญญานี้ลงนามกันที่กรุงเดลี เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 1975
(เช็กห์ อับดุลลาห์ (ขวา) กับ ซาร์ดาร์ พาเทล (ซ้าย) รองนายกรัฐมนตรีของอินเดีย-ภาพจากวิกิพีเดีย)
การลงนามครั้งนี้ ถือเป็นการถอยครั้งใหญ่ของ อับดุลลาห์ ที่รู้ว่าไม่สามารถยืนหยัดต่อรองในหลักการที่จะให้แคชเมียร์มีอิสระมากขึ้น และเป็นหนทางในการกลับคืนสู่วงการเมืองของอับดุลลาห์อีกครั้งด้วย เพราะพรรคคองเกรส จะให้การสนับสนุนเขา
ทั้งสองฝ่ายต่างก็คิดว่า สัญญาดังกล่าวจะทำให้สถานะการณ์ในแคชเมียร์ดีขึ้น แต่ผิด
เพราะความหายนะที่ยิ่งใหญ่กำลังเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามากระทบกับชาวฮินดูโดยเฉพาะ จนทำให้เกิดการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศอินเดีย หลังจากเหตุการณ์ก่อนประเทศประกาศอิสรภาพในปี 1947
เชิญร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์แบบ "ทัวร์พรีเมี่ยม" โรงแรมดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว อาหารดีตามโรงแรม5 ดาว และโปรแกรมครบครัน บรรยายชมโดยผู้เชี่ยวชาญทัวร์อียิปต์มากว่า 40 ปี และ เป็นผู้เขียนหนังสือไกด์บุ๊ค "อียิปต์-กรีซ-ตุรกี" บรรยายชมอย่างละเอียด ไม่ปล่อยให้เดินดูเอง มีเพียง 3 ทริป คือตุลาคม , ธันวาคม และ กุมภาพันธ์ ปีหน้า ทริปละ 15 ท่านเท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID - 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี