พฤติกรรมการสู้รบของทหารกัมพูชา ภายใต้การบังคับสั่งการของฮุนเซนและบริวาร แทบไม่ต่างจาก “คนป่ามีปืน”
มีตั้งแต่ลอบวางระเบิดสังหารบุคคล
โจมตีโดยใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ตั้งฐานยิงในชุมชน ทางสาธารณะ
ใช้จรวดยิงโจมตีเป้าหมายที่อ่อนแอ พื้นที่พลเรือน บ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน มินิมาร์ท ฯลฯ
แม้กระทั่งถึงเวลาหยุดยิง ก็ยังโกงอีก ด้วยการโจมตี ตอดไปเรื่อยๆ
1. พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า กองทัพไทยได้รับการยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา
โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่นที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน
กองทัพไทยขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา
และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน
“เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด...โลกต้องได้รับรู้ว่ากัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่องเและเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใดๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก”
การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ
ดังนั้น กองทัพไทยจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันยืนหยัดบนหลักแห่งความจริงความยุติธรรม และหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดสันติภาพตามเป้าประสงค์ต่อไป
2. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงการหยุดยิง
ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือถึงนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนแล้ว
และได้ส่งหนังสือให้กับทางสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในฐานะผู้สังเกตการณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนรายละเอียดตนขอยังไม่เปิดเผย
3. มันน่าแปลกใจ... ไทยเราควรจะต้องให้โลกได้รู้พฤติกรรมสับปลับ เล่นเล่ห์เหลี่ยม ตุกติก ของประเทศคู่กรณีเราให้มากที่สุด มิใช่หรือ?
ตกลงว่า คนในรัฐบาลชุดนี้ มีใครจริงใจกับประเทศชาติ มากกว่าเอาใจฝักใฝ่ผลประโยชน์ฝ่ายอังเคิลกันบ้างไหม ?
ช่วงเช้า รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม อุตส่าห์แก้ตัวแทนทหารกัมพูชา
พอกองทัพไทยยืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลง เพราะมันมีหลายจุด หลายพื้นที่ยังโจมตีฝ่ายไทยอยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แทนที่จะป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยถูกโกง กัมพูชาตุกติก แต่กลับกระมิดกระเมี้ยน ไม่เปิดเผยว่าที่ส่งไปนั้น เนื้อหาเป็นอย่างไร
ตรงกันข้าม เวลากัมพูชาทำหนังสือโจมตีไทย เขาเปิดเผยออกสื่อไปทั่ว กึ่งๆ ประณาม และทำให้สังคมโลกรับข้อมูลด้านลบของไทยไปเต็มๆ
4. นับวันยิ่งสงสัย... หรือว่าไส้ศึก หนอนบ่อนไส้ หรือตัวถ่วงที่จะทำให้ประเทศชาติชนะศึก แต่แพ้สงครามภาพรวมกับกัมพูชา มันจะเป็นคนในรัฐบาลที่รับใช้ผู้มีอำนาจบางคน หรือไม่?
ข้าศึกต่างชาติ ถือปืนให้เห็นๆ ว่าร้ายแล้ว
ใครเป็นผู้มีตำแหน่ง มีอำนาจ แต่หน้าซื่อใจคด หากซ่อนอาวุธไว้ใต้ชุดสูทผู้บริหารประเทศ
คอยเปิดประตูให้ข้าศึก
คอยบ่อนทำลายการบริหารแผ่นดินให้อ่อนแอ เข้าทางข้าศึก
คนพวกนี้ มันเลวร้าย ชั่วชาติยิ่งกว่า
5. ทหารไทยสู้รบด้วยหัวใจ เอาเลือดเนื้อชีวิตเข้าแลก เพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไทย
เมื่อวานนี้วันนี้(29 ก.ค.) พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกศูนย์บัญชาการทางทหาร(ศบ.ทก.) แถลงยืนยันถึงความสำเร็จของกองทัพไทยในการยึดคืนพื้นที่สำคัญ 11 แห่งในสมรภูมิรบก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้
โดยสรุปสถานการณ์ในพื้นที่การปะทะ ณ เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 (ก่อนการเจรจาหยุดยิงมีผล) ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568
กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ ได้แก่ :
1.ภูมะเขือ
2.ช่องอานม้า
3.ปราสาทตาเมือนธม
4.ปราสาทตาควาย
5.ช่องบก
6.โดนตวล
7.สัตตะโสม
8.ช่องจอม
9.ช่องสายตะกู
10.พระวิหาร
11.พลาญยาว
นั่นหมายความว่า ฝ่ายไทยยึดกุมพื้นที่สูงข่มทั้งหมดตลอดแนวเขาพนมดงรักซึ่งนับเป็นชัยชนะทางการทหารในเบื้องต้นที่สำคัญยิ่ง
6. หลังจากนี้ ไทยและกัมพูชาจะต้องดำเนินการเจรจาพูดคุย หาแนวทางร่วมกันทั้งสองฝ่าย
ชัยชนะทางการทหารข้างต้น จะสูญเปล่าหรือไม่ อยู่ที่การดำเนินการหลังจากนี้
ชีวิตเลือดเนื้อของทหารหาญที่เสียสละไป จะสูญเปล่าหรือไม่ อยู่ที่การดำเนินการหลังจากนี้
ได้แก่ การประชุมไม่เป็นทางการของผู้บัญชาการภูมิภาค ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย กับกองทัพภูมิภาคที่ 4 และ 5 ของฝ่ายกัมพูชา
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
7. ล่าสุด ผลการหารือระหว่างผู้บัญชาการหน่วยทหารระดับพื้นที่ของไทยกับกัมพูชา ภายหลังข้อตกลงหยุดยิง
พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กับรอง ผบ.ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ที่ด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
ผลสรุปการหารือ คือ
“1. ห้ามยิงต่อประชาชน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะงดเว้นการใช้กำลังอาวุธต่อพลเรือน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
2. หยุดเพิ่มเติมกำลัง จะไม่มีการส่งกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อลดโอกาสในการปะทะที่รุนแรงขึ้น
3. ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ห้ามมีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารในพื้นที่ เพื่อคงสถานะและหลีกเลี่ยงการสร้างความเข้าใจผิด
4. อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการลำเลียงผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่อย่างสะดวกและรวดเร็ว
5. จัดตั้งชุดประสานงาน มีการจัดตั้งชุดประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยแต่ละฝ่ายจะส่งเจ้าหน้าที่ 4 นายเข้าร่วม
6. รอหารืออีกครั้งตามผลการประชุม GBC การหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นอีกครั้งตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee -GBC) ซึ่งกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2568”
8. จับตาว่า กัมพูชา ยังจะเดินเกมฟ้องศาลโลกเพื่อเอา 4 พื้นที่ของไทยต่อไปอีกหรือไม่
ถ้ายังดึงดันเช่นนั้น ก็คือการทำลายการพูดคุยทวิภาคี
กลับสู่สภาพขัดแย้งรุนแรงแบบเดิม
เพราะปัจจุบันไทยยึดกุมพื้นที่ทั้งหมดไว้แล้ว ถ้าจะแย่งชิงเอาไป ก็ต้องกลับไปสู้รบกัน
หรือจะเลือกพูดคุยหาแนวทางที่ยอมรับร่วมกันได้ ทั้งเรื่องชายแดน เขตแดนการพัฒนาร่วมกัน การแสวงหาประโยชน์ร่วมกัน ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ไทยกำหนด
นี่ยังไม่นับว่า ผู้นำกัมพูชาที่ก่ออาชญากรรมสงคราม ฆ่าพลเรือนไทย ยิงเด็ก ผู้หญิง ยิงโรงพยาบาล ฯลฯ จะรับผิดชอบอย่างไร ?
9. ภาษีทรัมป์
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ทางสหรัฐอเมริกาได้กลับมาเปิดทางให้ไทยได้เจรจาต่อ หลังหยุดยิง ซึ่งฝ่ายไทยได้ติดต่อไปทันที
ยืนยันว่า จะทำตามกรอบเวลา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกาว่า จะตัดสินใจอย่างไร
รมว.คลัง ระบุว่า เท่าที่ทราบ ขณะนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้มอบหมายให้ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ USTR ผู้แทนเจรจาทั้งหมด ซึ่งหลักการเจรจาจะเป็นการเจรจาต่อเนื่อง ซึ่งทางสหรัฐฯ เห็นหลักข้อเสนอของไทยหมดแล้ว ซึ่งหลายข้อได้พูดคุยจบไปแล้ว จะเหลือเพียงบางข้อเท่านั้น ซึ่งมีทั้งที่ไทยเห็นด้วย และหลักการที่ไทยรับได้ยังคงเหมือนเดิม
ขณะนี้ก็เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 3 วันจะถึงวันที่ 1 สิงหาคมตามกรอบ
“ส่วนตัวคิดว่า ไทยไม่ควรจะโดนอัตราภาษีนำเข้า 36% แน่นอน แต่จะประกาศเมื่อไหร่นั้น คิดว่า ใกล้แล้ว ซึ่งอาจจะประกาศก่อนวันที่ 1 สิงหาคมก็ได้ หรือจะประกาศวันที่ 2 สิงหาคมก็ได้ ต่างกันเพียงวันเดียว” – นายพิชัยกล่าว
10. ดูรูปการณ์แล้ว ปัญหาไทย-กัมพูชา จุดอ่อนสำคัญของประเทศไทย คือ เราไม่มีผู้นำรัฐบาลที่มีภาวะผู้นำ มีบารมี มีความรู้เท่าทันงานบริหารราชการแผ่นดินเพียงพอ
ในอดีต แม้กัมพูชาจะฝ่าฝืนเอ็มโอยูหลายครั้ง แต่ไม่เคยบังอาจรุกรานไทยถึงขนาดนี้มาก่อนเลย
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา ดูเหมือนฮุนเซนจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่ออัปเกรดลูกชายให้มีความมั่นคงทางการเมืองในประเทศ และระหว่างประเทศ
จะสังเกตว่า เรื่องสกปรกทั้งหลาย ฮุนเซนเปรอะเปื้อนคนเดียว เช่น อัดคลิปเสียง สั่งการทหารป่า ฯลฯ
ส่วนฮุน มาเนต ให้ออกงานที่จะได้ภาพบวกเป็นหลัก
ส่วนนายกฯ ไทย ต่อให้พ้นจากคดีได้ (แทบจะไม่มีโอกาสรอด) ก็ไม่มีภาวะผู้นำอะไรที่จะกลับเป็นนายกฯอีกแล้ว ปกครองบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี