แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nnยังดีที่กล้าเปิดอก พูดคุย ยอมรับกันแบบตรงไปตรงมาว่า ไทยยังมีปัญหาเรื่องการประชาสัมพันธ์ ในการชี้แจงต่อนานาชาติ กรณีเหตุปะทะไทย-เขมร ไล่ไปจนถึงการที่เขมร ยังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เพราะจากความเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น คล้ายๆว่า ไทยของเราเดินช้ากว่าเขมรไปหนึ่งก้าวเสมอ
...nn “ภูมิธรรม เวชยชัย”รักษาการนายกฯ ยอมรับว่า อาจจะต้องมีการปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ โดยให้ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เป็นแม่ข่ายร่วมกับ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ทำการชี้แจง แต่ “ภูมิธรรม”ก็ปฏิเสธว่า คำชี้แจงของฝ่ายไทยต่อนานาชาติไม่ได้ช้าตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ยื่นหนังสือชี้แจงตลอด
...nn ในการสื่อสารกับชาวโลก ไทยเราช้ากว่าเขมรตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์จริงหรือไม่นั้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกัน?
...nn ตัวอย่างเช่น เขมรได้เล่นละครฉากใหญ่เชิญผู้แทนทางทูตและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจาก 13 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนบริเวณจุดผ่อนปรน “ช่องอานม้า” เพื่อตรวจสอบซากอนุสาวรีย์ตาอม ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะล่าสุด พร้อมกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายไทยที่ยิงทำลายอนุสาวรีย์ดังกล่าว
...nn เขมรให้เหตุผลว่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส และยืนยันว่าเขมรได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเคารพเงื่อนไขที่ได้ตกลงร่วมกับฝ่ายไทยในทุกประการ
...nn แม้จะเห็นตรงกันว่า เขมรกำลังเล่นละครตบตาชาวโลก แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า เหตุการณ์นี้คือความเคลื่อนไหวทางการทูตเชิงรุกของเขมร ขณะที่ไทยเราที่ผ่านมานั้น หลังจากที่เขมรละเมิดการหยุดยิงก็ได้แต่ออกแถลงการณ์ประณามจากหลายๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเชิญผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้ามาสังเกตการณ์
...nn ยังดีที่เรายังไหวตัวทันโดยกองทัพบกนำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชนต่างประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วเมื่อวานที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรงพยาบาลของเราที่เสียหายถึง 20 แห่ง จากการถล่มของทหารเขมรอย่างไร้มนุษยธรรม!!
...nn แต่ข่าวต่อไปนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไร้มนุษยธรรม แต่มันข้องเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของประเทศโดยตรง โดยโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา (ล่าม) และจิตอาสาต่างประเทศ 2.ปิดการให้บริการ SMC Premium (คลินิกพิเศษให้บริการนอกเวลาราชการ) ชั่วคราว 3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา และ 4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชา ที่ยังนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ให้จำกัดพื้นที่ให้ชัดเจน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม - 10 สิงหาคม 2568
...nn สรุปก็คือ โรงพยาบาลไม่รับผู้ป่วยชาวเขมร โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคง แต่ยังให้การรักษาผู้ป่วยเก่าที่ยังรักษาตัวอยู่ ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้อง
...nn 2 ประเทศรบกันปาวๆ จู่ๆ จะส่งคนเจ็บมารักษายังประเทศคู่ศัตรู แค่คิดมันก็ผิดตรรกะแล้ว!!
...nn แต่ข่าวลักษณะนี้ มันจะต้องมีคนคิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้า กระโดดงับทันที โดยพรรคประชาชน ได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของพรรค โดยใช้วาทกรรมแบบ “โชว์หล่อ” ยกอนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนในยามสงคราม ตำหนิรพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ ว่าเลือกปฏิบัติต่อชาวเขมร ทำให้ประเทศไทยเสียหายในเวทีโลก แต่ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนกลับไม่ได้พูดถึงความปลอดภัยของคนไทย รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์เลยแม้แต่น้อย
...nn พรรคประชาชน พูดแบบ “สวยหรู” ว่า การเลือกปฏิบัติของโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย ถือว่าขัดต่อหลัก International Humanitarian Law จะทำให้ประเทศไทยเสียหายมากในเวทีโลก และเสี่ยงต่อการถูกกัมพูชานำไปขยายผลในเวทีระหว่างประเทศ
...nn พรรคประชาชนขอย้ำอีกครั้งว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ เราไม่ต้องการให้ความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเกลียดชังระหว่างประชาชนเพราะถึงที่สุดแล้ว ไทยและกัมพูชายังจะต้องกลับมามีความสัมพันธ์ต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป”
...nn ตบท้ายสุดสัปดาห์นี้ กับคำคมความคิดของ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นข้อความที่ฉายสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเขมรได้อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจนที่สุด
...nn “เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือกัมพูชามาตลอดตั้งแต่ กัมพูชาต้องประสบกับสงครามเย็น ผู้คนกัมพูชาต้องอพยพหนีภัย จากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเขมรแดง เราช่วยให้การสนับสนุนต่อต้านการยึดครองของเวียดนาม เราช่วยบรรลุข้อตกลงสันติภาพ ปารีส ค.ศ.1991 เราช่วยสร้างถนนหนทาง เราช่วยสร้างโรงเรียน เราช่วยฝึกอบรมประชาชนกัมพูชาให้มีทักษะความรู้ เราให้ทุนการศึกษานักเรียนกัมพูชามาเรียนที่ประเทศไทย แม้แต่รัฐมนตรี ผู้บริหาร หรือนักการทูตหลายคนของกัมพูชาก็ได้ทุนมาศึกษาจากประเทศไทยทั้งนั้น เราสนับสนุนให้กัมพูชาได้เป็นสมาชิกอาเซียน เราช่วยดูแลรักษาพยาบาลประชาชนกัมพูชาด้วยดีเสมอมา เราช่วยให้งานจ้างงานคนกัมพูชาเป็นล้านคน เราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับกัมพูชามาโดยตลอด
...nn “นี่หรือคือสิ่งที่กัมพูชาทำกับประเทศไทยและคนไทย” ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปรุกรานหรือต้องการอะไรจากกัมพูชา ในทางกลับกันประเทศกัมพูชาและคนกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ต้องพึ่งพาและได้รับความอนุเคราะห์จากประเทศไทยมาโดยตลอด และนี่คือความจริงตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นนานาประเทศและประชาคมโลกที่ยังไม่รู้ซึ้งถึงคนกัมพูชา ก็โปรดจงรู้ไว้ด้วยว่าสิ่งที่คนกัมพูชาและประเทศกัมพูชาทำต่อประเทศไทยนั้น คือพฤติกรรมของอดีตเพื่อนที่คบไม่ได้ ไม่มีความจริงใจ ไม่มีความกตัญญูต่อผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือกันในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี กัมพูชา“เนรคุณ” ไม่ควรคบหาด้วยอย่างที่สุด!!
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี