แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nn“อนุทิน ชาญวีรกูล” ผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทยหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติโหวตด้วยเสียงสนับสนุนถึง 311 เสียงขณะที่ “ชัยเกษม นิติสิริ”จากพรรคเพื่อไทย ได้เสียงสนับสนุน 152 เสียงและงดออกเสียง 27 เสียง....ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา มีข่าวว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ออกเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ โดยอ้างว่า มีนัดพบกับแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพร่างกาย แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่า เครื่องบินส่วนตัวไม่ได้ลงจอดที่สิงคโปร์ แต่ “ทักษิณ” ดันเปลี่ยนเส้นทางการบิน ไปลงที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แทน
...nn เพียงเท่านี้ บรรดากองเชียร์ กองแช่ง ก็ประเมินสถานการณ์แบบแช่งชักหักกระดูกทันทีว่า“ทักษิณ”น่าจะหนีแน่? ขณะที่ก็มีอีกหลายคนที่อาจจะสงสัยว่า อดีตนายกฯคนนี้ เดินทางออกนอกประเทศไปได้อย่างไร เพราะวันที่ 9 กันยายนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ศาลฎีกาฯได้นัดฟังคำสั่งบังคับโทษในคดีชั้น 14
...nn “คชสีห์” ประมวลเหตุประมวลผลแล้ว ได้ความว่า “ทักษิณ”สามารถที่จะเดินทางออกนอกประเทศไทยได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดี ม.112 และศาลอาญามีคำสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร แต่เมื่อต่อมาศาลอาญาได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดี ม.112 โดยไม่ได้สั่งขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ ส่งผลให้จะพ้นข้อกำหนดของศาลที่ออกไว้ ซึ่งก็เท่ากับว่า เมื่อศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดี ม.112 “ทักษิณ” ก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
...nn และก็เช่นเดียวกับคดีชั้น 14 ศาลฎีกาฯเพียงแต่นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 กันยายน ไม่ได้มีการออกข้อกำหนดไว้ ซึ่งหาก “ทักษิณ”ไม่เดินทางมาวันนัด ศาลฎีกาฯจึงจะพิจารณาว่าจะมีคำสั่งเช่นใด ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการอ่านคำสั่งลับหลัง หรือจะออกหมายจับเลยก็ได้ เท่ากับว่าขั้นตอนนี้เป็นเพียงหมายเรียกนัดให้มาฟังคำสั่งเท่านั้น จึงยังไม่มีสภาพที่จะเป็นข้อกำหนดในการห้ามเดินทางออกนอกประเทศได้
...nn ในมุมของ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็ใช้หลักการเดียวกัน โดยยืนยันว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบ ไม่มีคำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด รวมถึงไม่มีหมายจับคดีอาญา ที่ต้องการตัวเพื่อนำไปดำเนินคดีแต่อย่างใด “ส่วนคำสั่งศาลที่เคยห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คดีร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ใดๆ อันเป็นผิด เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฯ พบว่า มีหนังสือศาลอาญา ที่ ศย 300.002/กค.350/2568 ลง 22 ส.ค.2568 แจ้งเพิกถอนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เรียบร้อยแล้ว” และเมื่อได้ตรวจสอบโดยละเอียด พบว่า “ทักษิณ” ไม่มีหมายจับ หรือ คำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ในคดีอื่นๆ แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงตรวจอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ตามอำนาจ ต่อไป โดยเครื่องบินได้ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ทั้งนี้ การดำเนินการ เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และระเบียบ กฎหมาย โดยปกติทุกประการ
...nn อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าตัวปล่อยให้สังคมตั้งคำถามและข้อสงสัยว่า จะหนี? หรือเดินทางกลับมาฟังคำสั่งศาลฎีกาในวันที่ 9 กันยายนี้ ก็ปรากฏว่า เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ภายหลังใช้เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวเดินทางไปต่างประเทศ
...nn “คชสีห์”ขอนำเอาข้อความดังกล่าวมาบันทึกไว้ให้ได้อ่านกันอย่างละเอียด
...nn“วันนี้ผมตั้งใจเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อไปตรวจสุขภาพ กับหมอที่เคยดูแลระหว่างอยู่ต่างประเทศ ตม.ที่ไทย ถ่วงเวลาผมไว้เกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ผมได้ชนะคดีที่ถูกห้ามออกเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว มีสิทธิ์เดินทางเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป
...nn ระหว่างเส้นทางบิน นักบินแจ้งว่า การที่โดน ตม.ถ่วงเวลาผมไว้นาน ทำให้เครื่องจะไปลงสนามบิน Seletar ซึ่งใช้สำหรับเครื่องPrivate Jet ลงที่สิงคโปร์ไม่ทัน เพราะสนามบินเปิดให้บริการ ถึงแค่ 4 ทุ่มเท่านั้น (เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม.)….เมื่อไม่สามารถไปลงที่สิงคโปร์ได้ ตนจึงตัดสินใจให้นักบินเปลี่ยนแผนไปลงดูไบ(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เพราะที่ดูไบผมมีหมอกระดูก และหมอปอดที่ใช้ประจำมานาน และยังมีโอกาสได้เยี่ยมเพื่อนที่ดูไบ ซึ่งไม่ได้เจอกันมา 2 ปีกว่าแล้ว....ระหว่างรอขออนุญาตจากสนามบินดูไบ นักบินต้องบินวนรออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับอนุญาตจึงได้หันหัวบินต่อไปยังดูไบ
...nn “ผมตั้งใจจะกลับไปไทยไม่เกินวันที่ 8 เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง วันที่ 9 กันยายนนี้ครับ”!!
...nn อย่างไรก็ตาม แม้ “ทักษิณ” จะออกมานั่งยันนอนยันว่า จะกลับมาเมืองไทยแน่นอน แต่สังคมก็น่าจะยังค้างคาอยู่เพราะเจ้าตัวเคยหนีมาแล้ว ตัวอย่างเช่น “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (อดีต กกต.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ปั่นไปไหน-ระบุว่า
...nn “คุณทักษิณ ไม่ควรพูดล่วงหน้าว่าจะเดินทางกลับวันที่ 8 กันยายน เพื่อมาขึ้นศาลตามนัดหมาย การพูดในเรื่องอนาคตนั้นไม่แน่ไม่นอน ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปพูดล่วงหน้า ใครจะไปรู้อนาคต อาจเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ให้ผิดคำพูดได้ เช่น 1) เกิดอาการเจ็บป่วยอ่อนเพลียขึ้นอย่างกะทันหันตามวิสัยของคนสูงอายุ หมอต้องสั่งให้ admit เข้า รพ.ที่ดูไบ เพื่อดูอาการสัก 180 วัน 2) เครื่อง Private jet ราคา 2,000 ล้าน ถึงรอบต้องบำรุงรักษาก่อนกำหนด เนื่องจากเมื่อคืนบินวนเป็นรูปมินิฮาร์ท โดยไม่มีแผนการบินมาก่อน อาจเสียเวลารอเครื่องใหม่มาทดแทนอีกเป็นสัปดาห์ 3. ดูไบ อาจมีพายุทะเลทรายจนเครื่องขึ้นไม่ได้ หรือเกิดน้ำท่วมเนื่องจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือ เกิดวิปริตหิมะตก เป็นอุปสรรคการบิน 4. การมาดูไบทำให้ได้พบกับนักธุรกิจน้ำมันหมื่นล้านดอลลาร์ และกำลังเจรจาดึงมาลงทุนเจาะน้ำมันในทุ่งกุลาร้องไห้ การรีบกลับ ประเทศจะเสียประโยชน์
...nn ดังนั้น ทนายอาจส่งคำร้องถึงศาลแจงเหตุจำเป็นข้างต้น และให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยไปเลย หากไม่ผิด ก็จะกลับมารับคำสั่งศาลโดยไม่บิดพลิ้ว!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี