แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระ และข้อเท็จจริง...nn วันนี้“อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา 18.00 น.
...nn และภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ “นายกฯอนุทิน” ได้นัดคณะรัฐมนตรี ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกทันที โดยมีวาระสำคัญคือ การแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน และเสนอแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีรายงานว่า จะมีการเสนอแต่งตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวมถึงการรับรองร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
...nn สำหรับร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล มีทั้งหมด 8 หน้า เน้นนโยบาย 4 ด้าน คือ เศรษฐกิจ โดยจะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ค่าครองชีพ รวมทั้งแก้ปัญหาหนี้สิน ปัญหากรณีพิพาทชายแดน ภัยธรรมชาติ และ ภัยสังคม ที่จะเร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนันออนไลน์
...nn แต่ก่อนหน้าจะถึงวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีประเด็นที่น่าสนใจสอดแทรกเข้ามาก็คือ “นายกฯอนุทิน”อาจจะต้องเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติ(ยูเอ็น) ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเหตุผลที่ไทยจำเป็นต้องไปก็เพราะถูกกล่าวหาจากกัมพูชาว่าไทยเราละเมิดกฎนานาชาติ โดยยูเอ็น กำหนดให้ไทยไปขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 26 กันยายนนี้
...nn ข้อสงสัยที่อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก แต่สำหรับคนที่ชังรัฐบาลภูมิใจไทย อาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่โตก็คือ “อนุทิน”สามารถไปขึ้นเวทียูเอ็นได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา?
...nn “นายกฯอนุทิน”ให้เหตุผลเอาไว้แบบมีน้ำหนักว่า “กำลังตรวจสอบดูอยู่ว่าประธานรัฐสภาจะกรุณาให้แถลงนโยบายวันไหน โดยได้ขอไปวันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้ การไปเวทียูเอ็นมีความจำเป็น เพราะอยู่ดีๆ ประเทศไทยก็หายไปจากวงยูเอ็น ทั้งที่เรื่องที่คนไปร้องเรียนว่าประเทศไทยละเมิดกฎนานาชาติ ซึ่งจริงๆ แล้วเราถูกละเมิดมากกว่าจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ไปพบกับประชาคมโลก และผู้นำประเทศที่จะชี้แจงให้ทราบว่าไทยไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหามา ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นและได้เตรียมให้่รมว.การต่างประเทศได้สแตนด์บายไว้ ผมนั้นได้อยู่แล้วและได้ให้เตรียมแผนการเดินทางแล้ว ไปเช้า-เย็นกลับใช้เวลาเดินทางมากกว่าเวลาไปประชุม เพราะวันที่จะหารือได้มากที่สุดน่าจะเป็นวันที่ 25-26 ก.ย. และจะกลับมาทันแถลงนโยบายถ้าหากเป็นวันที่ 29 ก.ย. – 1 ต.ค. ซึ่งในการไปพูดคุยในเวทียูเอ็น ประเด็นหลักๆ ก็มีหลายเรื่องทั้งเรื่องการค้า และภาษีนำเข้าส่งออกเรื่องอธิปไตยของไทยต่างๆ มากมาย”
...nn อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยที่ว่า “นายกฯอนุทิน”สามารถเดินทางไปร่วมประชุมได้หรือไม่นั้น มีคำตอบมาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา รายงานว่า ตามปกติหากรัฐบาลยังไม่ได้มีการแถลงนโยบาย ก็ไปไม่ได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นกรณีเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญ ซึ่งจะต้องถูกมีการพิจารณาเพื่อตีความก่อน
...nn แต่กรณีที่ไปเพื่อชี้แจงผู้นำและนานาชาติ กรณีปัญหาข้อผิดพลาดความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น หากเป็นกรณีนี้สามารถไปได้เนื่องจากขึ้นอยู่กับเหตุผลที่จะเดินทางไป เพราะหากไปเพื่อกล่าวสุนทรพจน์เท่านั้นก็ไม่สมควรไป
...nn กระนั้น เมื่อถึงที่สุดแล้ว “อนุทิน” ก็ตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลว่า เกรงจะกลับไม่ทันวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา บางคนบอกไปได้ บางคนก็บอกว่าไปไม่ได้
...nn มีการประชุมหลายหน่วยงาน เห็นสมควร ว่าไม่ควรที่จะไปร่วมประชุม ซึ่งมีการตีความต่างๆ มากมายหากไปเข้าร่วมแล้วไม่สามารถพูดได้เต็มที่ ไปพบคู่เจรจาหากถูกถามว่า มีอำนาจเต็มหรือไม่ แล้วจะพูดว่าน่าจะเต็มก็ทำให้เราเสียโอกาสแล้ว เราจะคุยกับใคร ก็รอให้เรียบร้อยก่อน การจะคุยกับใครก็ตามไม่จำเป็นต้องคุยที่ยูเอ็น คู่กรณีมีเพียงไม่กี่ราย”
...nn ตัดจบจากยูเอ็น ประเด็นที่ดูเหมือนว่าจะร้อนแรงและแหลมคมมากกว่า การเดินทางไปร่วมประชุมยูเอ็นหรือไม่ของนายกฯก็คือ การที่ “อนุทิน”ประกาศเสียงแข็งมอบอำนาจทั้งหมดให้กับการทหาร ในการตัดสินใจเรื่อง“เขมร”
...nn “คชสีห์”ขอนำคำพูดของ “นายกฯอนุทิน”มาฉายซ้ำ ให้ได้อ่านกันชัดๆ โดยได้พูดเรื่องให้อำนาจกองทัพเพื่อจัดการเขมร ไว้ในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 ครั้งไล่เลี่ยกัน โดยครั้งแรกพูดที่จังหวัดศรีสะเกษ
...nn “ผมได้มอบอำนาจให้กองทัพตัดสินใจเรื่องการเปิด-ปิดด่าน และการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะดำเนินการทางการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่างๆ ขอย้ำว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่กัมพูชาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ซึ่งอยากให้มีความชัดเจนเรื่องนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีใครสามารถมาล็อบบี้ผมได้ จะทำเพื่อประโยชน์ของคนไทยและประเทศไทยเท่านั้น
...nn ดังนั้นจะไม่มีการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ ส่วนการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย ขอให้ทหารนำแผ่นดินทุกตารางนิ้วที่กัมพูชารุกล้ำกลับมาเป็นของคนไทย จะสนับสนุนเต็มที่.....!!
...nn และครั้งที่สอง สดๆ ร้อนๆ พูดที่วปอ. “วันนี้แยกกันเดินรวมกันตี มีความหมายกับผมมากทหารก็คิดยุทธศาสตร์ไป รัฐบาลก็ต้องหาวิธีที่ต้องกดดันวันนี้ยอมไม่ได้แล้ว มาถึงขนาดนี้แต่ไม่ใช่การไล่ตี แต่เป็นการทำงานเชิงรุก กำหนดเงื่อนไขให้คนที่มีปัญหากับเราต้องยอมรับ เพราะประเทศไทยได้เปรียบทุกประตู ไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจ แสนยานุภาพ เมื่อได้เปรียบแบบนี้จะให้เรายอมก่อนไม่ได้ ผมคิดว่าผมและที่นั่งในห้องนี้ สะกดคำนี้ไม่เป็น ผมกับ รมว.กลาโหม และทุกเหล่าทัพจะใช้แนวทางนี้ดำเนินยุทธศาสตร์ต่อกรกับคนที่เรามีปัญหาอยู่ ชายแดนกัมพูชาต้องมีคำตอบมีผลลัพธ์ให้ประเทศไทย ที่สำคัญต้องไม่สูญเสียอะไรไปมากกว่าผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมขอว่าต้องไม่มี เราต้องทำให้ได้ภายในสี่เดือนจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี