ช่วงหลังๆนี้ โดยเฉพาะตั้งแต่มีการปะทะตรงชายแดนไทย-เขมร คำว่า “ขายชาติ” ได้ยินมากขึ้น ถ้าเป็นเสียงก็ประมาณว่าดังขึ้นราวๆ รถแห่ขนาดลำโพง 24 ดอก ไม่อลังการถึงกับ 96 ดอกแบบที่ขนกันไปชายแดน
ผมจึงสงสัยว่า ในพจนานุกรมฉบับอะไรก็ตาม จะมีความหมายของคำนี้หรือไม่ เพราะมันดูกว้างพิกล และออกจะนามธรรมหน่อยๆ ปรากฏว่ามีแฮะ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานมีคำอธิบายไว้แบบนี้
“ก. (คำกริยา) ขยายความลับประเทศชาติของตนแก่ศัตรู หรือเอาใจออกหากไปเข้ากับศัตรู เพราะเห็นแก่สินจ้างหรือสิ่งตอบแทนเพื่อทําลายล้างประเทศชาติของตน ขายบ้านขายเมือง ก็ว่า”
แน่นอนว่า การขายชาติตามที่พจนานุกรมบอกไว้ก็ต้องเป็นคนทำ เพราะสิงห์สาราสัตว์หรือต้นไม้ใบหญ้าคงขายชาติไม่ได้ และอีกเช่นกันที่คนขายชาติก็เพราะผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ดังที่พจนานุกรมบอกไว้ว่า “เพราะเห็นแก่สินจ้างหรือสิ่งตอบแทน”
คนขายชาตินี้มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ และมีอยู่ในประวัติศาสตร์ของเกือบทุกชนชาติ เช่นเดียวกับที่มีวีรบุรุษหรือวีรสตรีอยู่ในประวัติศาสตร์ของเกือบทุกชนชาติ เพียงแต่คนขายชาติจะมีน้อยกว่า เพราะไม่อย่างนั้นประเทศส่วนใหญ่ในโลกก็คงดำรงความเป็นชาติเอาไว้ไม่ได้
พอเจอคำอธิบายในพจนานุกรม บวกกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ผมก็เลยฟุ้งซ่านคิดต่อไปว่า คนขายชาติก็น่าจะมีระดับเหมือนกัน
ระดับแรก อยู่ในขั้นเข้มสุด พวกนี้จะไม่มีคำว่า“รักชาติ” หรือ “เห็นแก่ชาติบ้านเมือง” อยู่ในเสี้ยวสมอง และเป็นผู้มีสันดานอันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คุณธรรมอันใดก็ไม่สามารถกะเทาะกร่อนความชั่วร้ายที่ติดตัวมาแต่อ้อนแต่ออกให้เบาบางลงไปได้
คนขายชาติระดับบนสุดนี้ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ตนเองทำเป็นการขายชาติ แต่กูก็จะทำ โดยหวังว่าจะได้ผลประโยชน์มหาศาล และมากกว่านั้นคือ แม้ว่าการขายชาติจะทำให้มีประเทศที่แข็งแรงกว่าเข้ามาควบคุมชาติของตน แต่คงจะเปิดโอกาสให้ตนได้มีอำนาจสูงสุดไปอีกยาวนาน หรือเล็งผลเลิศว่า ค่อยไปทรยศหักหลังประเทศที่หนุนตนอีกที ซึ่งมักจะไม่สำเร็จ
คนเหล่านี้มีอยู่แถวไหนบ้าง จริงๆก็มีอยู่หลายแถวแหละ ทั้งนักการเมือง, พ่อค้านายทุน, ข้าราชการระดับสูง, ทหารตำรวจ จนถึงอาชญากรใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมทางสังคมต่างๆ
คนพวกนี้จะเล่นใหญ่และเนียน ไม่ใช่หัวขโมยตัดช่องย่องเบาตามบ้าน เมื่อลงมือก็เหมือนโยกเสาเขย่าคาน หรือเป็นพวกเผาเอาประกัน พร้อมจะทำให้บ้านทั้งหลังพังทลายลงมา ซึ่งสิ่งที่คนขายชาติระดับนี้ต้องมีคือ อำนาจทางการเมือง อำนาจทางเศรษฐกิจ หรืออิทธิพลอื่นใดก็ตาม ที่สามารถจูงใจให้คนอื่นทำตามความต้องการของตน หรือกระทั่งใช้การบีบบังคับ
ถัดมา ก็มักเป็นพวกรองมือรองตีนของพวกแรก ไอ้พวกนี้ก็รู้เช่นกันว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ผลประโยชน์มันหอมหวาน และปลอบใจตัวเองว่า ไม่ได้เป็นต้นคิด คนใหญ่กว่าเขายังทำ ตนเองจะทำนิดๆหน่อยๆ จะเป็นไรไป บ้างก็แลกด้วยทรัพย์สินเงินทอง บ้างก็แลกด้วยตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์
ระดับต่อมาก็เป็นพวกไม่พอใจในประเทศชาติของตน อยากจะเหมือนประเทศอื่น แต่ด้วยฐานะ, ความรู้ และกำลังอำนาจ มีไม่พอที่จะพลิกโค่นสังคมที่อาศัยอยู่ ต้องการแรงหนุนจากนอกประเทศ บางคนอาจจะเรียกมันว่า “อุดมการณ์” แต่จริงๆ แล้วอาจจะเป็นแค่ “อุดมกาก”
เพราะคนที่มีคิดได้แค่นี้ ไม่พยายามคิดหาหนทางอื่นในการช่วยแก้ปัญหาในสังคม ซึ่งมีอยู่อีกมากมายหลายทาง อย่างดีก็จะได้รับการลูบหัวลูบหางสรรเสริญเยินยอจากคนที่มีอำนาจเหนือกว่า เหมือนหมาเชื่องๆ ตัวหนึ่งได้กระดูกที่ถูกโยนมาให้แทะไปวันๆ และรู้สึกหวานจากน้ำลายตัวเอง ไม่น่าจะได้อะไรมากกว่านี้ คงไม่ต้องยกตัวอย่างล่ะนะ
ผมยังตั้งคำถามกับตัวเองต่อว่า คนขายชาติแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์มีบ้างไหม?
พอนึกถึงข่าวคราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก็ชักเริ่มรู้สึกแหม่งๆ สมัยเก่าก่อนอาจจะไม่มี แต่ทุกวันนี้ในยุคของสื่อสังคมที่รวดเร็วและกว้างขวาง ชักไม่แน่ใจ อย่างเช่นพวกที่รีบร้อนในแชร์ข้อความบางอย่าง หรือข่าวบางข่าว โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียหายที่ตามมา ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง หรือสถานภาพในด้านต่างๆ ของประเทศตน
แต่ถึงที่สุด ผมก็ยังไม่มองคนในแง่ร้ายขนาดเป็นคนขายชาติแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รักษาน้ำใจกันไว้ เพราะสิ่งที่พวกเขาทำยังไม่ถึงกับสร้างความเสียหายมากนัก เอาว่าเป็นคนขี้อวดเท่านั้น เพียงแต่ภาวนาว่าอย่าอวดกันบ่อย
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี