แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nnสุดสัปดาห์นี้ บนความเคลื่อนไหวการเมือง “คชสีห์” ว่า คนการเมืองน่าจะมองข้ามช็อตกันไปแล้วว่า อนาคตของรัฐบาลผสมชุดใหม่จะออกมาในรูปแบบไหนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะยังคงจับมือกันเหนียวแน่นต่อไปหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เกิดการผสมพันธุ์แบบข้ามขั้ว พิสดารพันลึก?...น่าอนาถที่ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจ ถามสารทุกข์สุกดิบ หรือสงสาร “แพทองธาร ชินวัตร” เลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่เธอยังมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแค่วันนี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ จากปม “คลิปฉาวฮุนเซน” เหลือเพียงตำแหน่งรมว.วัฒนธรรม เพียงตำแหน่งเดียว แต่ดูเหมือนว่า เธอจะแปลงร่างกลายเป็นอากาศธาตุ ไร้ตัวตนไปแล้ว...ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้นัดที่จะวินิจฉัย คดี “แพทองธาร” ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ปมคลิปเสียงในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ พร้อมยังได้กำหนดนัดวันไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก คือ “แพทองธาร” กับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม ซึ่งหากไม่มาตามกำหนดนัด ถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และหากประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ไปยื่นหนังสือ ต่อศาลภายในวันพุธที่ 27 ส.ค.นี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนดเวลาถือว่าไม่ติดใจยื่น
...nn สรุปคือ ยังไม่ทันที่ศาลจะพิพากษา แต่ดูเหมือนว่า“อารมณ์ร่วม” ของผู้คนในสังคม จะปักใจเชื่อไปแล้วว่า “แพทองธาร ชินวัตร”ไม่รอดแน่!!
...nn “คชสีห์” ขอนำข้อความบางส่วนที่ “แพทองธาร”ได้ชี้แจงต่อศาลรธน. เอาไว้ มาถ่ายทอดไว้ตรงนี้...“การกระทำของข้าพเจ้าตามข้อกล่าวหาของผู้ร้องจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2564 แต่อย่างใด อีกทั้งการกระทำของข้าพเจ้าก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของข้าพเจ้าแต่ประการใด”
...nn อย่างไรก็ตาม ในคำชี้แจงนั้น “แพทองธาร” ยังได้ขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญให้มีการไต่สวนพยานบุคคล โดยได้เสนอชื่อเอาไว้ถึง 5 คน คือ 1.นายฉัตรชัย บางชวด ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้ทำงานร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ และยังเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของข้าพเจ้าในการสนทนากับสมเด็จฮุนเซน 2.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้สั่งการฝ่ายปกครองด้านชายแดน 3.พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ ข้าราชการบำนาญ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชา ทำงานด้านปฏิบัติในกัมพูชามาตั้งแต่ยศร้อยโท และทำงานอยู่กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการรบพิเศษอย่างต่อเนื่อง 4.พล.ท.พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร ตำแหน่งรองเจ้ากรมพระธรรมนูญทหาร ในฐานะผู้ชำนาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของทหารและเรื่องอำนาจอธิปไตยของประเทศ และ 5.นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น อดีตทูตไทยประจำประเทศฟิลิปปินส์ และอดีตทูตไทยประจำประเทศรัสเซีย ในฐานะผู้ชำนาญด้านการต่างประเทศ และสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงวิธีปฏิบัติทางการทูตในการเจรจาแบบไม่เป็นทางการ.....พยานทั้ง 5 คนนี้ “แพทองธาร”ให้เหตุผลว่า มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านความมั่นคงของประเทศและตามแนวชายแดนปัจจุบัน และบางท่านมีประสบการณ์ในอดีตทั้งความมั่นคงและการต่างประเทศ
...nn “นอกจากนี้ยังเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของข้าพเจ้าในการสนทนากับสมเด็จฮุนเซน อีกทั้งเพื่อให้ศาลได้รับทราบถึงความคิดเห็นว่า การดำเนินการของข้าพเจ้าในช่วงเหตุการณ์ไม่ได้กระทำโดยมีเจตนาตามที่ผู้ร้องกล่าวหา หรือเป็นการละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงทั้งยังเป็นการดำเนินการตามข้อมูลและคำแนะนำของฝ่ายความมั่นคงที่ประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน และเพื่อแสดงว่าเจตนาของข้าพเจ้ามุ่งเพื่อรักษาเอกราชอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่เจตนาดังที่ผู้ร้องกล่าวหา จึงขอศาลโปรดพิจารณาอนุญาตให้มีการไต่สวนพยานบุคคลดังกล่าว เพื่อให้การพิจารณาคดีมีความครบถ้วน รอบด้านและเป็นธรรม โดยปราศจากข้อสงสัยอันอาจกระทบต่อความชอบธรรมและสถานะของข้าพเจ้าในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศ”
...nn สรุปคือ “แพทองธาร”เสนอขอพยานไป 5 คน แต่ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตกลับมา 1 คน คือ “ฉัตรชัย บางชวด”เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และก็ยังใจดีแถมมาให้อีก 1 คน ซึ่งก็คือตัว “แพทองธาร” เอง ถ้าพร้อมจะขึ้นศาล ก็ให้ไปขึ้นศาลเพื่อไต่สวนพยานในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ส่วนจะไปหรือไม่นั้น ศาลไม่ได้บังคับ จะไปก็ได้หรือไม่ไปก็ได้ และหากไม่ไปก็จะถือว่า ไม่ติดใจอะไร
...nn ที่สำคัญ พยานทั้ง 5 คนที่เสนอไปนั้น ไม่มีบรรดาผบ.เหล่าทัพ หรือแม่ทัพนายกองที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทชายแดนไทย-เขมร โดยตรงเลยสักคน คือเรื่องนี้ทหารจะรู้ดีที่สุด แต่กลายเป็นว่า “แพทองธาร” ไม่ได้ขอใช้บริการจากทหารเลย มันก็เลยทำให้ “คชสีห์” อดคิดไม่ได้ว่า หรือเธอคิดจะขอให้มาช่วยเป็นพยาน แต่ไม่มีใครเล่นด้วย
...nn ก็ลองทายใจกันดูว่า“แพทองธาร”จะกล้าไปศาลในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ เพื่อให้ศาล “ไต่สวน” หรือไม่? ขณะที่ “หมอมิ้ง-พรหมินทร์”เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า นายกฯจะเดินทางไปชี้แจงต่อศาลด้วยตัวเอง
...nn ฉะนั้น ก็ขอได้โปรดรอดูรอชมกันต่อไปว่า “แพทองธาร”จะแน่จริง กล้าไปศาลหรือไม่!!
...nn แต่ที่แน่ๆ วันนี้เธอมีทางเลือกอยู่เพียงแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น หนึ่งคือ จะต้องลาออกก่อนที่ศาลจะตัดสิน ซึ่งจะทำให้คดีสิ้นสุดลง แต่ก็จะถูกตราหน้าว่าไม่แน่จริง หนีคดี...และทางเลือกที่สองคือ อยู่ไปจนถึงวันที่ศาลตัดสิน ซึ่งทางเลือกนี้สุ่มเสี่ยงมาก เพราะถ้าไม่รอด นอกจากจะหลุดจากตำแหน่งแล้ว ยังอาจจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในภายหลังด้วย!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี