ในบรรดาวิหารต่างๆ ในประเทศอียิปต์ วิหารหนึ่งที่ผมรัก และ ประทับใจเป็นพิเศษก็คือ วิหารเอ็ดฟู (EDFU TEMPLE) อยู่ทางใต้ของประเทศอียิปต์ ห่างจากเมืองอัสวานไม่ถึง 100 กิโลเมตร
เพราะวิหารเอ็ดฟู เป็นวิหารที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก ราวกับเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้เอง
(วิหารเอ็ดฟู กำแพงวิหารที่เรียกว่า ไพลอน)
เนื่องจากวิหารหลังนี้สร้างในระหว่างปี 237ก่อนคริสตกาล ถึงปี 57 ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ยกทัพเข้ามายึดครองอียิปต์ ได้ในปี 333 ก่อนคริสตกาล
หลังจากนั้น นายพลปโตเลมี (PTOLEMY) ก็สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฟาโรห์ปกครองอียิปต์ และตั้งราชวงศ์ปโตเลมี ขึ้นมา ภายหลังจากที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชสิ้นพระชนม์ในปี 323 ก่อนคริสตกาล
ราชวงศ์ปโตเลมี พ่ายแพ้ให้แก่ ออคเทเวียน(OCTAVIAN) ทายาทของจูเลียส ซีซาร์ จนทำให้อียิปต์ตกเป็นของอาณาจักรโรมันในปี 33 ก่อนคริสตกาล
รวมเวลาที่อียิปต์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของ กรีกเป็นเวลา 300 ปี
จึงพูดได้ว่า วิหารเอ็ดฟู ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายของราชวงศ์ปโตเลมี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรมันกำลังขยายอำนาจออกไปทั่วทั้งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และ อำนาจในการปกครองของราชวงศ์ปโตเลมีต่อแผ่นดินอียิปต์ก็อ่อนแอลงอย่างมาก
วิหารเอ็ดฟู สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพฮอรัส(HORUS) ตามตำนานของเทพนิยายอียิปต์โบราณบอกว่า ฮอรัส ทำสงครามกับเทพเซธ (SETH) เพื่อล้างแค้นให้แก่เทพโอไซริส(OSIRIS) บิดาของเขา
ผมจะเล่าเรื่องของสงครามที่ว่านี้ในตอนต่อไปครับ
(ผู้เขียน กับรูปสลักด้วยหินแกรนิตเป็นรูปของเทพฮอรัส)
วิหารหลังนี้เนื่องจากสร้างในช่วงปลายยุคกรีก จึงเป็นศิลปะแบบ เกรโก-โรมัน(GRECO-ROMAN) หรือ ศิลปะผสมระหว่างกรีก และ โรมัน หมายความว่า แม้วิหารจะเป็นรูปแบบของอียิปต์โดยรวม แต่มีรายละเอียดของศิลปะกรีก และโรมันแทรกเข้ามา
เมื่อเดินผ่านประตูหน้าของวิหาร หรือ ที่เรียกว่า ไพลอน(PYLON) เข้าไป ก็จะเป็นลานกว้างเปิดโล่ง มีทางเดินโดยรอบเหมือนคล๊อยส์เตอร์ในโบสถ์คริสต์
(เสาเรียงรายอยู่ระหว่างกำแพง ทำให้เกิดทางเดินที่เรียกว่า
คลอยส์เตอร์ ที่โบสถ์คริสต์นำไปใช้ในภายหลัง)
บนผนังตามทางเดิน และ เสาต่างๆ มีภาพสลักนูนต่ำเรียงรายกันไปมากมาย เหมือนกับการบันทึกประวัติศาสตร์ และบอกเรื่องราวการสร้างวิหารในเวลานั้น
ที่น่าสนใจมากก็คือ คาร์ทูช(CARTOUCHE) ซึ่งเป็นรูปวงรีมีเส้นขีดรองรับที่ฐาน ดูเหมือนลูกกระสุนปืน
ในยุคอียิปต์โบราณ คาร์ทูช ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นรูปวงรีมีไว้สำหรับใส่พระนามของฟาโรห์เท่านั้น เหมือนหนึ่งว่า คาทูช จะทำหน้าที่คอยปกป้องฟาโรห์ เพราะชาวอียิปต์โบราณถือว่า พระนามของฟาโรห์ก็มีความสำคัญเทียบเท่ากับ "มัมมี่" ของฟาโรห์ทีเดียว
(คาร์ทูช ที่บรรจุพระนามของฟาโรห์อยู่ข้างใน คาร์ทูชอันนี้เป็นของ รามเซสที่ 2)
หากไม่สามารถรักษา "มัมมี" ที่เป็นร่างของฟาโรห์ได้ ก็จะต้องรักษา "คาร์ทูช" ที่มีพระนามของฟาโรห์ เอาไว้ เพื่อว่า "บา"(BA) ซึ่งเป็นวิญญาณของฟาโรห์จะสามารถใช้ "คาร์ทูช" ที่มีพระนามของพระองค์ เป็นที่สิงสถิตได้
ที่ว่า "คาร์ทูช" ที่แกะสลักตามทางเดินนี้มีความน่าสนใจมากก็เพราะว่า ไม่มีพระนามของฟาโรห์อยู่ในคาร์ทูชในบริเวณกำแพงด้านหน้าของวิหารเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก
(คาร์ทูช ที่ไม่มีพระนามของฟาโรห์)
เนื่องจากวิธีการสร้างวิหารของอียิปต์โบราณนั้น เขาจะเริ่มสร้างจากส่วนในสุดก่อน คือ ส่วนที่เป็นห้องศักดิสิทธิ์ ที่ใช้บรรจุเทวรูปของเทพเจ้าของวิหารนั้น จากนั้น ก็ค่อยๆ ทยอยสร้างส่วนที่อยู่ถัดออกมา
ดังนั้น ส่วนที่เป็นกำแพงของวิหาร จึงเป็นส่วนที่สร้างท้ายสุดของวิหาร
สันนิษฐานว่า ในช่วงท้ายของการสร้างวิหารนั้น แผ่นดินอียิปต์ และ ราชวงศ์ปโตเลมี มีความวุ่นวาย ไม่แน่นอน และคงจะมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน และ ผู้ปกครองบ่อยๆ
ทำให้ นักบวชผู้ดูแลวิหารหลังนี้ ไม่แน่ใจว่า ควรจะแกะสลักหินพระนามของฟาโรห์องค์ไหนดี เพราะเปลี่ยนฟาโรห์กันบ่อย จึงปล่อยทิ้งให้ว่างอยู่อย่างนี้
หรือ อาจจะเป็นเพราะ นักบวชไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้ช่างแกะสลัก เพราะทางราชสำนักไม่ส่งเงินมาให้ จึงต้องหยุดสร้างไปโดยปริยาย
เป็นหนึ่งในอีกหลายๆเรื่องที่ยังคงความพิศวง และ คำถามคาใจผู้ได้มาชมทุกคน
ผมกำลังจะนำคณะของ บริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด เดินทางไปอียิปต์ ท่องแดนฟาโรห์ ระหว่างวันที่ 3 – 13 ธันวาคม นี้ หากสนใจจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน เชิญสำรองที่นั่งได้ที่ 02 651 6900
สำหรับผู้สนใจจะร่วมเดินทาง กรุณารีบจองด่วน เพราะต้องใช้เวลาในการทำวีซานานพอสมควร
https://www.youtube.com/watch?v=ob799cUVRfs
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี