โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ฤดูกาลท่องเที่ยวอียิปต์มาถึงอีกครั้ง เป็นปีที่ 39 ของผมในการทำทัวร์อียิปต์แบบเจาะลึก
อียิปต์เป็นดินแดนที่มีมนต์ขลังที่ดึงดูดให้ผมหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่น่าพิสวงของอียิปต์โบราณได้เสมอผมจึงสะสมหนังสือประวัติศาสตร์ของอียิปต์เอาไว้มากมาย และ ศึกษามันเสมอๆเมื่อเกิดคำถาม
และเพราะการไม่เคยหยุดศึกษา ทำให้ผมมีหลักฐานเพียงพอที่จะแยกแยะข้อมูลที่ยืนยัน ,ข้อสันนิษฐาน และ เรื่องโกหกออกจากกันได้ซีรีย์อียิปต์ ที่จะเขียนต่อไปนี้ ผมจะนำเอาเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับอียิปต์โบราณมาเล่าสู่กันฟังครับ
(ประตูปลอม ภายในมาสตาบ้าของ คาเกมนิ - ภาพโดยผู้เขียน)
เรื่องแรกก็คือ มีหัวหน้าทัวร์บางท่านยังเข้าใจผิดว่า ประตูปลอม (FALSE DOOR)
ที่อยู่ภายในสุสานแบบมาสตาบา ที่เมืองซัคคารานั้น เป็นประตูที่ทำไว้ให้ “เทพเจ้า”ใช้เป็นทางเข้าออกซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยผมจึงอยากจะเสนอความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้แก่ท่านสมาชิกที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวแบบเจาะลึกพรีเมี่ยมทัวร์กับผมในฤดูกาลนี้ก่อนเลย
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจรากฐานความคิดของชาวอียิปต์โบราณเสียก่อนว่า ทำไมพวกเขาจึงต้องทำมัมมี่และ ต้องฝังมัมมี่ไว้ในห้องเก็บศพแตกต่างจากวิธีฝังศพของชาวตะวันออกที่ฝังศพลงไปในดินเพื่อให้ร่างกายเน่าเปื่อยและย่อยสลายลงไปในดิน
ด้วยการฝังศพอียิปต์โบราณนี้ จึงทำให้ศพจึงยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะรักษาเอาไว้ได้
ทำไม จึงต้องรักษาศพให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า ผู้ตายจะต้องใช้ร่างกายของตัวเองเป็นพาหนะในการเดินทางไปสู่“โลกหน้า” ซึ่ง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า UNDER WORLD ไม่ได้ใช้คำว่า INFERNO หรือ HELL แม้ว่าทั้ง 3 คำต่างก็มีความหมายใกล้เคียงกันก็ตาม
คำว่า UNDER WORLD น่าจะมีความหมายที่อ่อนโยนกว่า เพราะในความเชื่อของอียิปต์โบราณคำว่า “โลกหน้า” หมายถึง สถานที่ที่เทพเจ้าที่พวกเขาเคารพอย่างสูงสุดสถิตอยู่
(เทพโอไซริส - ภาพจากวิกิพีเดีย)
ซึ่งก็คือ เทพ โอไซริส (OSIRIS)
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วย ร่างกาย และ วิญญาณซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับความเชื่อทางศาสนาพุทธ เพียงแต่ของอียิปต์โบราณเชื่อว่า วิญญาณของมนุษย์มี 2ประเภท
คือ วิญญาณที่เรียกว่า คา(KA) กับวิญญาณที่เรียกว่า บา(BA)
(คา ในภาษาอียิปต์โบราณจะอยู่ในรูปของมือทั้งสองข้างยกขึ้นเช่นในภาพ - ภาพโดยผู้เขียน)
วิญญาณทั้งสองมีหน้าที่แตกต่างกัน กล่าวคือ คา จะเป็นวิญญาณ ที่สถิตอยู่กับร่างกายที่เป็นมัมมี่เหมือนเป็นการยืนยันว่า มัมมี่ตัวนี้เป็นของใคร ในขณะที่ บาจะเป็นวิญญาณที่สามารถล่องลอยไปไหนมาไหนได้
(บา ซึ่งเป็นวิญญาณที่โบนบินได้ จะอยู่ในรูปของนกที่มีใบหน้าเป็นของผู้ตาย-ภาพโดยผู้เขียน)
บา จะมีบทบาทในการโบยบินออกไปหาอาหารเพื่อประทังร่างกายของมัมมี่เอาไว้ ดังนั้น “บา”ในจินตนาการของชาวอียิปต์โบราณจะอยู่ในรูปของนกที่มีใบหน้าของมัมมี่ผู้ตาย
“บา” จะโบยบินออกไปหาอาหาร ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนหลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ก็จะบินกลับมาเข้าร่างมัมมี่อีกครั้ง
นี่คือแนวคิดเบื้องต้นของการทำมัมมี่ของชาวอียิปตโบราณครับ
ผมกำลังจะนำชมทัวร์เจาะลึกอียิปต์แบบ 'ทัวร์พรีเมี่ยม' โรงแรมดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว อาหารดีตามโรงแรม5 ดาว และโปรแกรมครบครัน เพียง 3 ทริปในฤดูกาลนี้ แต่ขณะนี้ทริปเดือนธันวาคมเต็มแล้ว เหลือทริปเดือนตุลาคม 6 ที่ และ ทริปกุมภาพันธ์ ปีหน้าอีก 8 ที่เท่านั้นครับ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID - 14092498
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี