หลังจากฝังศพ และ ปิดสุสานเรียบร้อย การจะเข้าไปในสุสานอีกครั้ง อาจเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพราะไม่มีบันทึกใดที่ระบุถึงการเข้าไปในสุสานอีกครั้ง
แล้วอาหารที่ถวายให้แก่ผู้ตาย ที่เป็นอาหารสด ที่มีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากห้องที่อาหารถวายไม่ใหญ่นัก และอาหารเหล่านั้นจะเน่าเสียในไม่ช้า
แล้วในปีถัดไป วิญญาณของผู้ตายจะเอาอะไรประทังชีวิต
เรื่องนี้มีคำบรรยายจากไกด์ท้องถิ่นบางคนบอกว่า ชาวอียิปต์โบราณมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่อุทิศมีจำนวนไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปในสุสานได้อีก
ชาวอียิปต์โบราณมีความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่สูงมาก มิเช่นนั้น ก็คงไม่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น พีระมิด หรือ เสาโอเบอลิสค์ ขึ้นมาได้
(ตัวเลขในภาษาเฮียโรกลิฟ ของอียิปต์โบราณ ที่มีตัวเลขถึงหลักล้าน)
อียิปต์โบราณคิดค้นตัวเลขได้นานมากแล้ว ก่อนหน้าพวกโรมันนับพันปี ตัวเลขของอียิปต์โบราณมีตั้งแต่หลักหน่วย จนถึงหลักล้านทีเดียว
วิธีคิดของนักบวชอียิปต์โบราณที่แนะนำในการอุทิศสิ่งของให้แก่ผู้ตายก็คือ หากต้องการจะอุทิศกวางกี่ตัว อุทิศเป็ดไก่กี่ตัว หรือ สิ่งของต่างๆเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก็ให้จารึกเอาไว้บนผนังห้อง และ กำกับด้วยตัวเลขเพื่อเป็นการระบุว่า ต้องการอุทิศเป็นจำนวนเท่าไหร่
แค่นี้ก็เรียบร้อย
คำถามก็คือ ผู้ตายจะสามารถเอาไปใช้ หรือ ประทังชีพได้อย่างใด ในเมื่อมันเป็นเพียงภาพที่แกะสลักอยู่บนผนังเท่านั้น มิได้เป็นของจริงสักหน่อย
(ดวงตาของเทพเจ้าฮอรัส ที่มีอำนาจอย่างมากตามความเชื่อของอียิปต์โบราณ)
เรื่องนี้ก็ไม่ยาก นักบวชแนะนำให้แกะสลักรูปดวงตาของฮอรัสเอาไว้ในสุสาน หรือ ในโลงศพของผู้ตาย เพื่อผู้ตายจะสามารถใช้ดวงตาดังกล่าวในการอ่านสิ่งที่จารึกไว้บนผนัง หลังจากอ่านแล้ว ด้วยอำนาจแห่งดวงตาศักดิ์สิทธิดังกล่าว ข้าวของเครื่องใช้ และ อาหารการกินต่างๆที่แกะสลักเอาไว้บนผนัง ก็จะกลายเป็นของจริงให้ “บา” ซึ่งเป็นวิญญาณของผู้ตายสามารถเอาไปบริโภคได้
เป็นการคิดในมุมมองของเทพเจ้าด้วยสามัญสำนึกของมนุษย์แท้ๆ ส่วนจะได้ผลอย่างไร ไม่มีใครสามารถให้คำตอบแก่ครอบครัวของผู้ตายได้
มาสตาบ้า นอกจากจะใช้เป็นสุสานในการฝังศพของบุคคลสำคัญของอียิปต์โบราณแล้ว มันยังมีบทบาทสำคัญอีกอย่างหนึ่งในยุคนั้นก็คือ การบันทึกเรื่องราวชีวิตประจำวัน และ อาชีพการงานของผู้ตายว่าเคยทำอะไรมาบ้าง
(ประตูทางเข้าของ มาสตาบ้าของ คาเกมนิ ภาพการ์ด ที่ยืนอยู่สองข้างประตูก็คือ ตัวคาเกมนิเอง เหมือนกับรูปสลักยืนในสุสานของ ตุตันคามุน-ภาพของผู้เขียน)
อย่างเช่น มาสตาบ้า ของ คาเกมนิ (KAGEMNI) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ที่ 6 หลังราชวงศ์ที่สร้างพีระมิดแห่งเมืองกีซ่า ถึง 2 ราชวงศ์
เนื่องจากคาเกมนิ เป็นพระญาติของฟาโรห์ เตติ เขาจึงได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประมาณ นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะผู้พิพากษา
สิ่งที่ปรากฎบนผนังในมาสตาบ้า ของคาเกมนิ นอกจากจะแสดงภาพการใช้ชีวิตประจำวันของเขาแล้ว ยังมีภาพที่แสดงให้เห็นว่า คาเกมนิ เคยมีหน้าที่จัดเก็บภาษีอากร รวมถึงต้องลากเอาคนที่ไม่ยอมจ่ายภาษีมาลงโทษด้วย
จะว่าไป มาสตาบ้า ก็ทำหน้าที่ไม่แตกต่างไปจากหนังสือแจกงานศพในยุคปัจจุบันนี้ ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้ตายว่าเป็นลูกหลานใคร เคยทำงานอะไร เป็นต้น
มนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ไม่ว่าในยุคไหนก็ตาม
ผมกำลังจะนำชมทัวร์เจาะลึกอียิปต์แบบ "ทัวร์พรีเมี่ยม" โรงแรมดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว ทานอาหารดีตามโรงแรม 4-5 ดาว และโปรแกรมครบครัน เพียง 3 ทริปในฤดูกาลนี้ แต่ทริปเดือนธันวาคมเต็มแล้ว เหลือทริปเดือนตุลาคม 5 ที่ ซึ่งจะต้องปิดกรุ๊ปเพื่อทำวีซ่าในวันที่ 22 นี้ และ ทริปกุมภาพันธ์ ปีหน้าอีก 7 ที่เท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID - 14092498
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี